3 ขั้นตอนรับมือ ลูก 1-3 ขวบงอแงในที่สาธารณะ เพื่อปรับพฤติกรรมลูกก่อนจะสาย | บทความ HML

2019.07.12 418

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัย 1-3 ขวบ (วัยที่เริ่มต่อต้านคุณพ่อคุณแม่) ต้องเคยเจอปัญหาโลกแตกอย่างลูกงอแงเอาแต่ใจในที่สาธารณะกันมาบ้างใช่ไหมล่ะคะ บางครอบครัวเกรงใจคนอื่นๆ ก็ยอมตามใจลูก แต่ผลกลับทำให้ลูกยิ่งงอแงหนักขึ้นไปเสียอย่างนั้น วันนี้ Happy Mom.Life นำวิธีรับมือเพื่อปรับพฤติกรรมลูกมาฝากค่ะ

ลูก 1-3 ขวบงอแงในที่สาธารณะ

1. ตกลงกันก่อนออกจากบ้าน

สำหรับเด็กที่เริ่มเข้าใจและพูดกันรู้เรื่องแล้ว ก่อนพาเด็กๆ ออกนอกบ้าน คุณพ่อคุณแม่อาจตกลงกับลูกก่อนว่า วันนี้เราจะไปทำอะไร ที่ไหน จะต้องเจอกับใครบ้าง และคุยกับลูกว่า วันนี้สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการคืออะไร เช่น เราต้องตกลงกันก่อนว่า วันนี้เราจะไม่ซื้อของเล่นเพิ่มนะจ๊ะ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งคาดหวังว่าลูกจะทำได้ตามที่สัญญานะคะ นี่เป็นเพียงขั้นเริ่มต้นเท่านั้น เด็กๆ อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้หลายครั้ง กว่าจะทำได้จริงๆ ค่ะ

2. เมื่อลูกงอแงเอาแต่ใจ ให้นิ่งสงบ ใจเย็น ทำเป็นไม่สนใจ

หากลูกเกิดอาละวาดเอาแต่ใจขึ้นมา นั่นเป็นสัญญาณว่า เด็กๆ กำลังใช้การงอแงร้องไห้ เพื่อต่อรองให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ตอบสนองเขา เขาก็จะเรียนรู้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้เขาได้ในสิ่งที่อยากได้ จนกลายเป็นพฤติกรรมที่เขาทำไม่รู้จบ ทางที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรเพิกเฉย ไม่มอง (เพราะการมองหมายถึงคุณพ่อคุณแม่กำลังตอบสนองเขา) ไม่โต้ตอบ ไม่ต่อรองใดๆ โดยให้ยืนอยู่ใกล้ๆ เพื่อความปลอดภัย เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้ว่า เขาไม่สามารถใช้วิธีนี้ต่อรองกับคุณพ่อคุณแม่ได้

3. เมื่อลูกหายอาละวาด ให้เข้าไปคุยกับลูก

เด็กๆ มักอาละวาดอยู่สักพักและหมดแรงเหนื่อยจนสงบลงได้เอง เมื่อลูกสงบลงแล้ว ให้คุณพ่อคุณแม่เข้าไปพูดคุยกับลูก ให้ความรักกับเขา โดยเลือกพูดคุยเรื่องอื่นๆ ต่อไป

การปรับพฤติกรรมลูกนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องใจเย็นให้มากๆ ด้วยนะคะ เรามีคำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เพื่อให้นำไปปรับใช้ในการปรับพฤติกรรมลูกได้สำเร็จค่ะ

  • คุณพ่อคุณแม่ต้องอารมณ์มั่นคง สม่ำเสมอ ไม่ใช่บางวันยอมตามใจ บางวันไม่ยอม จะทำให้เด็กสับสน และเรียนรู้ได้ช้าลงว่าพฤติกรรมนี้ไม่เหมาะสม
  • อย่าลืมสำรวจด้วยว่า ลูกงอแงเพราะมีปัญหาด้านร่างกายหรือไม่ เช่น อาจไม่สบายตัว หรือป่วย
  • ควรเลือกพาลูกไปในสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่านมากนักจะดีกว่า
  • พกของเล่นชิ้นโปรดของลูกติดตัวไปด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ลูกหยุดงอแงในที่สาธารณะได้บ้างค่ะ
  • สังเกตว่าลูกมีปัญหาด้านพัฒนาการหรือไม่ เนื่องจากเด็กบางคนไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้ได้ เพราะมีปัญหาด้านพัฒนาการ กรณีนี้ต้องปรึกษาคุณหมอ
  • แรกๆ อาจต้องอดทนมากสักหน่อยนะคะ เพราะอาจมีคนที่ไม่เข้าใจมองเราอยาติเตียนได้ แต่เพื่ออนาคตของลูก หากทำแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ลูกจะปรับพฤติกรรมได้เองค่ะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง