"รถหัดเดิน" เสี่ยงอันตราย และทำลูกพัฒนาการช้า กุมารแพทย์แนะ ถ้าอยากใช้ให้ถอดล้อออก!

13 May 19 pm31 15:05

ธรรมชาติของเด็กวัย 9-10 เดือน เขาจะเริ่มตั้งไข่และหัดเดินแล้วนะคะ คุณพ่อคุณแม่อาจมองหาตัวช่วยอย่าง “รถหัดเดิน” มาใช้เพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยเสริมพัฒนาการให้ลูกได้ แต่ในยุคนี้ มีผลการวิจัยออกมาว่า รถหัดเดินอาจเป็นอันตรายต่อลูกมากกว่า Happy Mom.Life จึงคิดว่า เราน่าจะมีวิธีอื่นที่ช่วยให้เด็กๆ ก้าวเดินได้อย่างปลอดภัย ไม่อันตราย และไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุค่ะ


"รถหัดเดิน" ไม่ปลอดภัย 

มีผลสำรวจออกมาว่า พ่อแม่นิยมให้ลูกเล็กใช้รถหัดเดินตั้งแต่เด็กมีอายุประมาณ 4 เดือน โดยเข้าใจว่ารถหัดเดินจะช่วยให้เด็กเดินได้เร็วขึ้น และช่วยให้พ่อแม่เหนื่อยกับการเลี้ยงลูกน้อยลง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด! 

 

ทำไม "รถหัดเดิน" ถึงอันตราย

กุมารแพทย์อธิบายว่า รถหัดเดินอาจทำให้กลไกการเดินของเด็กผิดปกติ ทำให้ลูกไม่เรียนรู้วิธีการรักษาสมดุลของร่างกาย เพราะเวลาลูกเดินด้วยรถหัดเดินนั้น เขามักจะเอาหัวพุ่งไปก่อนเพื่อไถรถหัดเดินให้เคลื่อนที่ (ซึ่งในความเป็นจริง หากเราเดินโดยเอาหัวพุ่งไปข้างหน้าก่อนจะทรงตัวไม่ได้) จึงอาจทำให้เด็กเดินเองได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น

จากการศึกษาพบว่า รถหัดเดินอาจอาจทำให้ลูกเดินได้ช้ากว่าพัฒนาการปกติถึง 4-6 สัปดาห์ และท่าทางการยืน การเดินแบบใช้ปลายเท้าจิกและไถไปข้างหน้า เป็นท่าทางที่ผิดธรรมชาติของการเดิน อาจเกิดอาการผิดปกติของเอ็นร้อยหวาย ทำให้การยืน การเดินไม่ปกติได้ค่ะ


รถหัดเดินทำให้เด็กเคลื่อนตัวได้เร็วกว่า 3 ฟุต ในเพียง 1 วินาที 


นอกจากนี้ รถหัดเดินทำให้เด็กเคลื่อนตัวได้เร็วกว่า 3 ฟุต ในเพียง 1 วินาที ทำให้พ่อแม้พ่อแม่จะอยู่ใกล้ๆ ก็มักคว้าลูกไม่ทัน จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น รถชน รถคว่ำ ตกบันได ฯลฯ คุณหมอจึงแนะนำว่า โดยปกติแล้วรถหัดเดินไม่มีความจำเป็น แต่หากต้องการใช้รถหัดเดินในการช่วยพยุงตัวลูก ให้ถอดล้อออกทั้งหมด 

ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บังคับให้ผู้ผลิตติดฉลากว่า “ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้ช่วยในการหัดเดิน และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต” ในหลายประเทศเช่น แคนนาดา อเมริกา ประกาศห้ามขายรถหัดเดิน เพราะพบว่าเป็นอันตรายสำหรับเด็ก


ขอบคุณคลิปจาก csip.org


สอนลูกหัดเดินอย่างไร ให้ปลอดภัย

คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกหัดเดินได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถหัดเดิน โดยให้ค่อยๆ ช่วยลูกพัฒนาร่างกายของเขาไปตามวัย

*พัฒนาการของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนลูกตามพัฒนาการของเขา ไม่เร่งรัดเกินไป



บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ