วิธีรับมือกับการ “คลอดฉุกเฉิน” ที่อาจเกิดกับแม่ตั้งครรภ์ได้ทุกคน รู้ไว้อุ่นใจกว่าเยอะ
คงไม่มีใครอยากเจ็บท้องคลอดฉุกเฉิน และคลอดโดยไม่ได้อยู่ในการดูแลของคุณหมอ แต่หากเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริงๆ จากสาเหตุไม่คาดฝัน เช่น คลอดก่อนกำหนด รถติดไปโรงพยาบาลไม่ทัน การเตรียมพร้อมรับมืออย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้คุณและลูกปลอดภัยได้ค่ะ ลองมาดูวิธีรับมือกับปัญหา หากเกิดเจ็บท้องคลอดฉุกเฉินกันดีกว่า
คุณแม่เจ็บท้องคลอดฉุกเฉิน คุณพ่อต้องตั้งสตินะคะ
1. รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ในกรณีฉุกเฉิน เช่น มีน้ำคร่ำเริ่มไหลซึมออกมาจากช่องคลอดแล้ว แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รีบเดินทางไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด โดยอย่าลืมหยิบเอกสารสำคัญไปให้พร้อม ทั้งบัตรประชาชน สมุดฝากครรภ์ ประกันสังคม ประกันชีวิต ทะเบียนบ้าน รวมทั้งผ้าขนหนูสะอาดเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ
2. โทรขอความช่วยเหลือ
คุณแม่สามารถโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจได้ที่เบอร์ 191หรือ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น
- สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โทร. 1669
- ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โทร. 1646
- สถานีวิทยุ จส.100 โทร. 1137
- สถานีวิทยุ สวพ.91 โทร. 1644
3. กลั้นลมเบ่ง
ขณะเดินทางไปโรงพยาบาล หากเกิด "ลมเบ่ง" (อาการอยากเบ่งขณะที่มดลูกหดตัว และตำแหน่งของทารกอยู่ต่ำพร้อมคลอด) ขึ้น ให้ตั้งสติให้และพยายามกลั้นลมเบ่งไว้ด้วยการหายใจเข้าออกสั้น ๆ ทางปากหรือเป่าลมหายใจออกติดต่อกัน เพื่อยืดระยะเวลาการคลอดออกไปให้นานที่สุด
4. หากต้องคลอด ก็ต้องคลอด
หากอยู่ในสภาวะที่ต้องคลอดจริงๆ แล้ว ให้จอดรถและหาสถานที่เหมาะสมที่จะใช้คลอดลูก เช่น เบาะหลังรถ และทำคลอดด้วยตัวเอง ตรงนี้ขอให้คุณแม่ตั้งสติและทำความเข้าใจว่า ตามธรรมชาติแล้ว คุณแม่สามารถคลอดเองได้โดยอาศัยแรงบีบของมดลูกเพียงอย่างเดียว หากคุณแม่ต้องคลอดในสถานการณ์ไม่พร้อม แนะนำว่าอย่าออกแรงเบ่งมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้บริเวณปากช่องคลอดและกล้ามเนื้อภายในอุ้งเชิงกรานฉีกขาดได้ รวมทั้งอย่าลืมข้อสำคัญต่อไปนี้
- คุณแม่ห้ามหนีบขาไว้เป็นอันขาด เพราะอาจทำให้ลูกขาดอากาศหายใจได้
- เมื่อศีรษะของลูกโผล่ออกมา ห้ามออกแรงดึง แต่ให้ประคองเอาไว้ โดยมีผ้าขนหนูสะอาดรองรับ
- หากทารถคลอดออกมาแล้วยังมีถุงน้ำคร่ำหุ้มอยู่ ให้ฉีกถุงน้ำคร่ำออก เพื่อให้เด็กหายใจได้
- หากทารกยังไม่ส่งเสียงร้อง ให้จับขาลูกยกขึ้นสูงและให้ศีรษะห้อยลงต่ำกว่าเท้า ลูบหลังเบา ๆ เพื่อกระตุ้นให้ทารกร้องไห้
- ใช้ผ้าสะอาดห่อตัวทารกให้มิดชิด หากมีรกคลอดออกมาด้วย ให้ห่อรวมกันเอาไว้ และะวางทารกเอาไว้แนบหน้าอก (แคงการูแคร์)
- ห้ามตัดสายสะดือทารกเองโดดเด็ดขาด
5. ให้ลูกดูดนมแม่
เมื่อทารกคลอดออกมาแล้ว ให้คุณแม่ลองให้นมลูก เพราะการให้ลูกดูดนมจะช่วยกระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวดีและลดการสูญเสียเลือดได้ หากลูกไม่ยอมดูดนม ให้คุณแม่นวดที่หัวนมเบาๆ ค่ะ
6. สุดท้ายต้องจบลงที่คุณหมอ
หลังจากคลอดเองจนเด็กปลอดภัยแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ยังต้องส่งตัวคุณแม่และลูกให้ถึงมือคุณหมอให้เร็วที่สุด เพื่อให้คุณหมอดูแลรักษาร่างกายของคุณแม่และทารกให้ปลอดภัย 100% ค่ะ
เตรียมพร้อมรับมือเอาไว้แต่เนิ่นๆ
- เตรียมเอกสารเอาไว้ให้พร้อมเสมอ โดยให้นำเอกสารสำคัญทั้งหมดจัดเก็บไว้ในแฟ้มเดียวกัน และเก็บไว้ในที่ที่หยิบได้ง่ายที่สุด
- เมมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน หรือโหลดแอพสำหรับเรียกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ
- เรียนรู้วิธีการคลอดธรรมชาติเอาไว้บ้าง เช่น วิธีกการกำหนดลมหายใจ ท่าที่เหมาะกับการคลอด
- ให้คุณแม่ตั้งครรภ์ดูแลตัวเองให้แข็งแรงเสมอ และไม่เครียด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดค่ะ
ภาวะคลอดฉุกเฉิน เป็นภาวะที่ใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง แต่หากเกิดขึ้นจริงๆ การเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ก็ย่อมทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถฝ่าฟันสถานการณ์น่ากังวลไปได้ด้วยดี ลองอ่านบทความที่เรานำมาฝากวันนี้ซ้ำๆ เพื่อเตรียมพร้อมเอาไว้เสมอนะคะ
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 2 แอพพลิเคชั่นช่วยชีวิต ที่แม่ท้องควรโหลดติดมือถือไว้ เรียกใช้ได้กรณีฉุกเฉิน
- 10 วิธีดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดเมื่อกลับถึงบ้าน ให้กลับมาแข็งแรงไว ๆ
- ประสบการณ์คุณแม่ดาราคลอดก่อนกำหนด กับพลังความเป็นแม่ที่อดทนเพื่อลูกได้ทุกอย่าง
- ระวัง! อาการแทรกซ้อนที่เป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด