ท้อง 4 เดือนลูกเริ่มดิ้น ลูกดิ้นมาก ลูกดิ้นน้อย เอ๊ะ! ทารกในครรภ์กำลังจะบอกอะไรกับเรา???

17 Dec 18 pm31 14:09

เมื่อการตั้งครรภ์เดินทางมาสู่อายุครรภ์ประมาณ 16-20 สัปดาห์ หรือราวๆ 4 เดือนหากนับจากการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย (ในบางรายลูกเริ่มดิ้นตั้งแต่อายุครรภ์4 เดือนครึ่ง) คุณแม่ตั้งครรภ์จะได้รับสัมผัสสุดวิเศษจากการที่ทารกในครรภ์เริ่มดิ้น ยิ่งมดลูกมีขนาดใหญ่มากเท่าไร ลูกก็ดิ้นแรงมากขึ้นเท่านั้น แต่คุณแม่ทราบไหมคะว่า การดิ้นของลูก เป็นการส่งสัญญาณบอกอะไรกับคุณแม่ได้มากมายเลยทีเดียว Happy Mom.Life ขอรวบรวมข้อมูลมาฝากค่ะ


ในทางการแพทย์ การดิ้นของทารกเป็นการบอกให้รู้ว่า ทารกในครรภ์ยังมีชีวิตอยู่ และบ่งบอกถึงสุขภาพของทารก หากคุณแม่ตั้งครรภ์คอยสำรวจการดิ้นของทารกในครรภ์อยู่เสมอ ก็จะสามารถรู้สึกสิ่งที่ทารกต้องการส่งสัญญาณมาถึงคุณแม่ได้


อย่าลืมใส่ใจนับการดิ้นของทารก

ในช่วงอายุครรภ์ราวๆ 20 สัปดาห์ ทารกมักดิ้นประมาณ 200 ครั้งต่อวัน และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อระบบประสาทเริ่มพัฒนาดีขึ้น จนเมื่ออายุครรภ์ราวๆ 30-32 สัปดาห์ ทารกในครรภ์อาจดิ้นได้ถึงราวๆ 700 ครั้งเลยทีเดียวค่ะ อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุครรภ์มากๆ จนใกล้คลอด ทารกอาจดิ้นได้น้อยลง เนื่องจากพื้นที่ในครรภ์คุณแม่ลดลงจากขนาดตัวของทารกที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง

การดิ้นของทารกในครรภ์นั้นเป็นสัญญาณบอกให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้ถึงสุขภาพของลูกรัก คุณแม่จึงอาจลองนับการดิ้นของลูกและทำการจดบันทึกไว้ เพื่อตรวจสอบดูว่าลูกรักยังแข็งแรงดีอยู่ไหม



วิธีนับการดิ้นของลูก ให้ดูว่าทารกขยับตัวติดต่อกันนับเป็น 1 ครั้ง โดยให้นับตั้งแต่ 9.00 น. ยาวไปประมาณ 10-12 ชั่วโมง หากนับได้ 10  ครั้งขึ้นไปถือว่าปกติ แต่หากครบ 12 ชั่วโมงแล้ว ทารกดิ้นไม่ถึง 10  ครั้ง อาจต้องรีบไปพบคุณหมอ

วิธีการนับการดิ้นของทารกนี้ คุณแม่ควรเริ่มนับเมื่อมีอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป โดยท่าที่ดีที่สุดในการสัมผัสการดิ้นของทารก คือท่านอนตะแคงซ้าย และคุณแม่ควรอยู่ในที่เงียบๆ เพื่อให้เกิดสมาธิค่ะ


คุณแม่อาจลองนับการดิ้นของลูกและทำการจดบันทึกไว้


ถ้าลูกดิ้นน้อย อาจต้องพบคุณหมอด่วน!

การดิ้นมากของทารกนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่หากทารกดิ้นน้อย (ดิ้นไม่ถึง 10 ครั้งใน 12 ชั่วโมง) อาจเป็นสัญญาณบอกว่า ลูกรักอาจอยู่ในภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง โพรงมดลูกแคบเกินไป หรือเกิดอันตรายอื่นๆ จนอาจทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ได้ คุณแม่จึงควรรีบมาพบคุณหมอให้เร็วที่สุด โดยคุณหมอจะทำการฟังเสียงหัวใจ ตรวจอัลตราซาวด์ หรือใช้เครื่องตรวจสภาพของทารกในครรภ์ เพื่อตรวจสุขภาพของทารกอีกครั้งค่ะ


สุขภาพของลูกน้อยในครรภ์เป็นสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรละเลย เพราะทารกในครรภ์ยังบอบบางมาก คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรจดบันทึกการดินของทารกในครรภ์ทุกวัน และอย่าลืมนำบันทึกไปให้คุณหมอดูทุกครั้งที่ไปพบคุณหมอตามนัดด้วยนะคะ