คุณแม่บางท่านอาจจะเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ให้ทารกน้อยกินนมจากเต้า แต่สำหรับคุณแม่บางท่านที่ต้องกลับไปทำงาน ก็ต้องบีบหรือปั๊มนมเก็บสต็อกไว้ให้ทารกน้อย ก็อาจจะต้องเตรียมตัวจัดสรรทั้งเวลา เพื่อปั๊มน้ำนมแม่เก็บไว้

วิธีเก็บสต็อกน้ำนม เมื่อคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน

และการนำกลับมาให้ลูกน้อยกินแบบไม่เสียคุณค่า

โดยน้ำนมแม่ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกได้อิ่มแล้ว ยังมีสารอาหารที่จำเป็นและครบถ้วนสำหรับทารกแรกเกิด-6 เดือน และควรกินต่อเนื่องไปจนถึงลูกอายุ 2 ปี Happy Mom.Life มีวิธีการเก็บสต็อกน้ำนมแม่ เมื่อคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน และการนำกลับมาให้ลูกน้อยกินแบบไม่เสียคุณค่ามาฝากกันค่ะ    

วิธีเก็บรักษาน้ำนมแม่

น้ำนมแม่ยังเปรียบเสมือนเป็นวัคซีนเข็มแรกจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมสร้างเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ทารกน้อยเติบโตและมีสุขภาพแข็งแรง เพราะฉะนั้นการเก็บรักษาน้ำนมแม่ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะคะ เพราะจะช่วยคงคุณค่าของน้ำนมแม่ไว้ให้มากที่สุด โดยการจะเก็บรักษาน้ำนมแม่ให้คงคุณค่านั้น ขึ้นอยู่กับสถานที่เก็บรักษา อุณหภูมิ และระยะเวลาที่เก็บ ดังนี้

* ไม่ควรเก็บในที่ที่อุณหภูมิสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส

วิธีการนำน้ำนมแม่ที่แช่เย็น /แช่แข็งมาใช้

• นมแม่ที่แช่เย็น ให้นำออกจากตู้เย็นมาวางไว้นอกตู้เย็นจนหายเย็น ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ให้ลูกน้อยกินได้เลย โดยนมที่วางไว้นอกตู้เย็นนี้จะอยู่ได้นาน 4-6 ชั่วโมง
• นมแม่ที่แช่แข็ง ให้เอานมจากช่องแช่แข็งลงมาไว้ช่องตู้เย็นธรรมดาล่วงหน้า 1 คืน เพื่อให้นมละลายเอง โดยนมที่เอาลงมาไว้ในช่องตู้เย็นธรรมดานี้จะเก็บได้อีก 2-3 วัน
• ไม่ควรปล่อยให้น้ำนมแม่ที่แช่แข็งไว้ละลายเองที่อุณภูมิห้อง แต่หากคุณแม่ต้องการให้น้ำนมแม่ละลายเร็ว ให้แช่ในน้ำธรรมดาจนมีอุณภูมิปกติแล้วจึงเปลี่ยนมาแช่น้ำอุ่น
• ไม่ควรนำนมแม่ไปอุ่นโดยใช้ไมโครเวฟ หรือละลายในน้ำร้อนจัด เพราะการใช้ความร้อนที่มากเกินไป จะไปทำลายสารอาหารและโปรตีนที่อยู่ในนมแม่
• น้ำนมแช่แข็งที่ละลายแล้ว อาจมีกลิ่นหืน แต่ไม่เสีย (นอกจากมีกลิ่นรุนแรงมากและมีรสเปรี้ยว จึงจะเสีย)
• หากลูกกินนมแม่ไม่หมดในขวดหรือแก้ว ไม่ควรเก็บให้ลูกกินในครั้งต่อไป เนื่องจากอาจจะมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้ลูกป่วยได้