ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่าไม่ฉลาด แต่เขาอาจเป็นเด็กแอลดี (LD : Learning Disability)

2019.05.02 1,941

เด็ก LD : Learning Disability หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “เด็กแอลดี” เป็นความบกพร่องทางการเรียนรู้ ที่ใช้เรียกเด็กกลุ่มที่มีความผิดปกติของการรับข้อมูลและมีปัญหาในการนำข้อมูลเข้า ไปใช้ในการฟัง พูด อ่าน เขียน การคิดคำนวณ ซึ่งความบกพร่องนี้เกิดจาก “ความผิดปกติของการทำงานของสมอง” เด็กที่เป็นแอลดี จะมีหน้าตาเหมือนเด็กทั่วไป พูดคุยตอบคำถามทั่วไปได้รู้เรื่องดี แต่เวลาเรียนหนังสือ ความสามารถในการเรียนของเด็กจะต่ำกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน เช่น เด็กเรียนอยู่ชั้น ป.3 แต่อ่านหนังสือได้เท่าเด็ก ป.1



เพราะอะไรจึงเป็นแอลดี

  • การทำงานของสมองบางตำแหน่งบกพร่อง โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และการใช้ภาษา ทั้ง การอ่าน การเขียนและการพูด
  • พันธุกรรม พบว่าเครือญาติอันดับแรกเด็กแอลดี ร้อยละ 35-40 จะมีปัญหาการเรียนรู้
  • การได้รับบาดเจ็บระหว่างคลอดหรือหลังคลอด
  • ความผิดปกติของโครโมโซม


พบเด็กแอลดีได้บ่อยแค่ไหน

เด็กแอลดีนั้นพบได้ทุกสัญชาติ ทั่วโลก ประมาณร้อยละ 5-10 ของเด็กวัยเรียน ดังนั้น ในทุกโรงเรียนจะมีเด็กเหล่านี้อยู่ในชั้นเรียนด้วย ฉะนั้น หากคุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกเป็นเด็กแอลดี ควรบอกคุณครูประจำชั้น ซึ่งเด็กแอลดี (LD : Learning Disability) ไม่หาย แต่สามารถแก้ไขได้ ถ้าครอบครัว คุณครูประจำชั้น เข้าใจเขา และหาสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสม

 

ข้อสังเกต เด็กแอลดีแต่ละช่วงวัย >> คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้อย่างไรว่าลูกเป็นเด็กแอลดี

วัยอนุบาล 

  • เด็กมีประวัติเริ่มพูดช้า เช่น พูดคำแรก เมื่ออายุ 1 ขวบครึ่ง หรือ 2 ขวบ
  • เด็กมีประวัติพูดไม่ชัด หรือ ยังมีการออกเสียงไม่ชัดในบางพยัญชนะ
  • มีการพูดสลับคำ, เรียงประโยคไม่ถูก เช่น “หนูอยากกินขนม” เป็น “ขนมหนูกิน” เป็นต้น
  • พูดตะกุกตะกัก หรือบอกชื่อวัสดุที่ต้องการไม่ได้ ได้แต่ชี้ของสิ่วนั้น
  • มีปัญหาการสื่อสาร เช่น พูดแล้วคนอื่นไม่เข้าใจ หรือ ฟังคนอื่นไม่เข้าใจ
  • มีปัญหาการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก มีลักษณะงุ่มง่าม เชื่องช้า เช่น การหยิบจับสิ่งของ การผูกเชือกรองเท้า ติดกระดุมเสือ้ จับดินสอไม่ถนัด เป็นต้น
  • มีปัญหาการใช้สายตาร่วมกับมือ เช่น การกะระยะระหว่างสิ่งของ การหยิบแยกวัตถุเล็กๆ จากพื้นหลัง


ขอบคุณภาพจาก อักษรเจริญทัศน์ อจท.


ถึงแม้เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ LD จะไม่สามารถวินิจฉัยได้ชัดเจนในเด็กต่ำกว่า 6 ขวบ แต่คุณครูสามารถค้นหากลุ่มเสี่ยงได้ตั้งแต่ชั้นอนุบาล โดยวิธีการสังเกตและการคัดกรองผ่านสื่อการสอนอย่างเป็นขั้นตอน เพราะ "ความบกพร่องทางการเรียนรู้ LD" ยิ่งพบเร็ว ยิ่งป้องกันและแก้ไขได้เร็ว


วัยเรียนชั้นประถมศึกษา 

  • ความบกพร่องด้านการอ่าน

เด็กมีความบกพร่องในการจำพยัญชนะ สระ ขาดทักษะในการสะกดคำและเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ ได้อย่างจำกัด จึงอ่านหนังสือไม่ออกหรือ่านคำศัพท์ง่ายๆ ผิด เด็กจะใช้วิธีการเดาเวลาอ่าน จึงอ่านได้เฉพาะคำที่เห็นบ่อยๆ เพราะใช้วิธีการจำไม่ใช่การสะกด

  • ความบกพร่องด้านการเขียนสะกดคำ

เด็กมีความบกพร่องในการเขียนพยัญชนะ สระ ตัวสะกด วรรณยุกต์ และการันต์ ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย จึงเขียนหนังสือและสะกดคำผิด มีปัญหาการเลือกใช้คำศัพท์ การแต่งประโยค และการสรุปเนื้อหาสำคัญ ทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดความคิดผ่านการเขียนได้ตามระดับชั้นเรียน แต่สามารถลอกตัวหนังสือตามได้

  • ความบกพร่องด้านการคำนวณ (คณิตศาตร์)

เด็กขาดทักษะความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเลข การนับจำนวน การจำสูตรคูณ การใช้สัญักษณ์ทางคณิตศาสตร์ จึงไม่สามารถคิดหาคำตอบจากการบวก ลบ คูณ หาร ตามกฎเกณฑ์ทางคณิตศาตร์


ขอบคุณภาพจาก อักษรเจริญทัศน์ อจท.


คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเหลือเด็กแอลดีได้อย่างไร

หากพบว่าลูกมีปัญหาการอ่านหนังสือ การเขียน สะกดคำ หรือการคำนวณ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยเหลือในเบื้องต้นได้คือ

  • พาเด็กไปพบแพทย์ที่เกี่ยวกับเด็กแอลดีทันที
  • ปรึกษาคนในครอบครัว คุณครู หรือผู้รู้
  • อย่าลีกเลี่ยงปัญหา
  • ลดความคาดหวัง 
  • แสดงความห่วงใย และให้กำลังใจเด็กเสมอ เพราะเด็กยังต้องการความรัก ความเข้าใจจากคุณพ่อคุณแม่
  • คิดไว้เสมอว่าการมีลูกเป็นแอลดี ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายของชีวิต ถือเป็นสิ่งท้าทายและเป็นโอกาสดีที่จะได้ย้อนวัยเยาว์ไปทบทวนบทเรียนกับลูก
  • ค้นหาจุดเด่น พัฒนาความสามารถในด้านต่างๆ เช่น กีฬา ดนตรี การทำกิจกรรม ฯลฯ พัฒนาความสามารถที่เขาถนัดอยู่แล้วให้เพิ่มขึ้น
  • แก้ไขจุดอ่อน โดยการค้นหาและแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ในตัวเด็ก เช่น ไม่ชอบช่วยเหลือตัวเอง ไม่อดทน ไม่มีสมาธิ ฯลฯ โดยวิเคราะห์หาสาเหตถที่แท้จริงและแก้ไขให้ตรงจุด


เด็กแอลดีเมื่อเติบโตขึ้น เขาจะสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปปกติ (หากได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้อง) สามารถเข้ากับกลุ่มเพื่อนได้ ประกอบอาชีพ (ที่เน้ลงมือปฏิบัติ ไม่เน้นวิชาการ) ได้ เพียงแต่บางคนอาจจะมีความลำบากเกี่ยวกับความบกพร่องในบางด้าน (อ่านหนังสือไม่ถูกต้อง อ่านไม่คล่อง คำนวนไม่ได้ เป็นต้น) ฉะนั้น พ่อแม่และคนในครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่าไม่ฉลาด แต่เขาอาจมีความบกพร่องด้านการเรียนรู้ หรือฉลาดในด้านอื่น ก็ได้

               

Related Tips

299,181
0
สูตรคำนวนปริมาณนมที่ลูกน้อยต้องการ อายุ 0 -1 ขวบ ให้กินนมวัน...
ทารกแรกเกิด นมแม่ ดูดนม น้ำนม เด็ก
277,266
0
หล่อบาดใจ! 30 ไอเดียทรงผมลูกชายสุดเท่
ทรงผม เด็ก ทรงผมเด็ก แฟชั่น แฟชั่นทรงผมเด็ก
129,527
0
3 ท่า สอนจับทารกวัย 0-3 เดือน “เรอ” หลังกินนมอิ่มแบบเห็นผล
ทารก นมแม่ เด็ก แม่ เรอ

Related Shop

Kinderpuppets Silom - Sathorn
Khet Bang Kho Laem , Bangkok
Message
Products for sensitive skin children import from Korea, gentle with pure natural... Read More
BABY CREAM (180ml) 850 Baht
850 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY SOOTHING GEL (250ml) 690 Baht
690 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY SHAMPOO&BATH (250ml) 790 Baht
790 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY ORGANIC OIL (60ml) 890 Baht
890 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY LOTION (200ml) 690 Baht
690 THB
Kids Life Kids Health
Order by Kerry
690 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
Sriphat Medical Center Mueang Chiang Mai ,
Sripatum Center Faculty of Medicine Chiang Mai University Approved to be establi... Read More
Giving Birth
Ask Price
Giving Birth Natural Birth
Camille Salon Khet Din Daeng ,
07:00 - 20:00 Business infomation Business details Parking Parking: Street Pri... Read More
Hair Salon
Ask Price
Beauty Hair Salon - Product
Thantakit International Dental Center Ratchadapisek - Huaykwang
Khet Huai Khwang , Bangkok
Welcome to Thailand 's longest established dental center Receive professional... Read More
Dental Center
Ask Price
Kids Life Kids Dental

Pick up Reviews

SEE MORE

Pick up reviews

Most Popular Tips