คุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการคลอดลูก อาจเกิดสับสนกับอาการเจ็บท้องใกล้คลอดในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ว่าแบบไหนคือปวดจริงหรือปวดหลอก วันนี้ HappyMom.Life จะมาอธิบาย “อาการเจ็บท้องใกล้คลอดที่คนท้องต้องเจอ” ให้คุณแม่ท้องแรกไว้คอยสังเกตอาการของตนเองกัน จะได้ไม่ตื่นตระหนกมากเกินไป และเตรียมตัวไปโรงพยาบาลให้ทันเวลา
เมื่อเข้าสู่เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ คนท้องจะพบกับอาการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ อาการปวดท้องหลอก (False Labor) เป็นอาการปวดที่เกิดได้ตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ หรือในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ เพื่อเตือนว่าการคลอดเริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งอาจจะคลอดจริงภายใน 1-2 สัปดาห์ ช้าหรือเร็วกว่านี้ก็ได้ จึงทำให้หลายคนเรียกว่าเป็นอาการปวดเตือน และ อาการปวดท้องคลอด (True Labor Contractions) ที่เป็นอาการปวดจะคลอดออกมาจริงๆ ในเวลาอันใกล้ เป็นอาการเจ็บท้องที่คนท้องต้องรีบไปโรงพยาบาลด่วน โดยคุณแม่สามารสังเกตอาการได้ ดังนี้
ปวดเตือน | ปวดจริง |
ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยและทวารหนักคล้ายปวดประจำเดือน | มีอาการปวดหลัง ท้องตึง หรือบีบรัดที่ครรภ์ หลายคนมักจะเรียกอาการนี้ว่าท้องแข็ง |
อาการปวดไม่รุนแรง ปวดเป็นช่วง ๆ แล้วหายไป ไม่ปวดถี่ติดกัน | มดลูกจะมีการหดตัวอย่างรุนแรงและปวดถี่กระชั้นขึ้นเรื่อย ๆ ทุก 5-10 นาที |
อาการหายไปเมื่อมีการเปลี่ยนท่าทาง หรือหยุดทำกิจกรรมนั้น ๆ | มีมูกเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด |
น้ำเดินหรือน้ำคร่ำเดิน | |
ปากมดลูกเปิดกว้างออกจนถึง 10 เซนติเมตร จึงจะสามารถคลอดลูกได้ |
อาการเจ็บท้อง จะเป็นสัญญาณเตือนที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า คุณแม่จะคลอดจริงๆ ในเวลาอันใกล้นี้ แต่ก็ยังทำให้คุณแม่มือใหม่เกิดความสับสนได้ เพราะอาการปวดจะคล้ายกับอาการเจ็บท้องหลอก ซึ่งหากคุณแม่ไปโรงพยาบาล คุณหมอจะตรวจดูอีกครั้งว่าสภาพร่างกายของแม่มีความพร้อมและปากมดลูกเปิดกว้างมากพอหรือไม่ หากปากมดลูกเปิดกว้างออกจนถึง 10 เซนติเมตร ก็สามารถคลอดลูกได้ แต่ส่วนใหญ่หากไม่มีแนวโน้มว่าจะคลอด คุณหมอมักจะให้กลับบ้าน การรู้อาการเจ็บท้องคลอดจึงเป็นเรื่องสำคัญและมีประโยชน์กับต่อตัวคุณแม่เองเป็นอย่างมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง
Please fill in the form with valid information so we can verify your account.