6 พฤติกรรมพ่อแม่ที่ทำให้ลูกอ้วน รีบแก้ก่อนจะเป็นการทำร้ายลูกล้วนๆ โดยไม่รู้ตัว

27 Feb 19 am28 11:27

คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอย่างไรคะ ถ้ามีคนเดินมาหยิกแก้มลูกรักด้วยความหมั่นเขี้ยว เพราะลูกน้อยของเราตัวอ้วนกลม น่าหยิกเสียเหลือเกิน และคุณพ่อคุณแม่คิดอย่างไร หากลูกน้อยป่วยเป็นโรคนั้นโรคนี้ มีพัฒนาการตามวัยที่ไม่สมบูรณ์ ถูกเพื่อนล้อว่าอ้วนจนมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ลามไปถึงการสูญเสียความมั่นใจ และส่งผลร้ายต่อลูกไปจนโต 

แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่ชอบใจนัก และลูกรักเองก็คงไม่มีความสุขถ้าต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้ เพราะฉะนั้น การควบคุมน้ำหนักจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าลูกรักจะยังเด็กอยู่ก็ตาม Happy Mom.Life อยากชวนให้คุณพ่อคุณแม่หันมาทบทวนพฤติกรรมการเลี้ยงลูกของเรา ว่าพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่กำลังทำให้ลูกกลายเป็นเด็กอ้วน และทำให้ลูกต้องเผชิญกับปัญหามากมายในอนาคตหรือเปล่าค่ะ




ความอ้วนอาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในสายตาใครหลายๆ คน บางคนอาจมองเป็นเรื่องตลกด้วยซ้ำไป คิดว่าอ้วน มีไขมันก็น่ารักดี แต่ในโลกความเป็นจริง โรคอ้วนมักนำพาโรคร้ายต่างๆ มาให้เด็กๆ รวมไปถึงการขับร่างกายที่อุ้ยอ้าย ยากลำบาก ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยต่างๆ ให้ไม่ดีเท่าที่ควร

นอกจากนี้ ความอ้วนอาจยังทำให้เกิดกลิ่นตัวที่เหม็นจนทำให้คนอื่นไม่อยากเข้าใกล้ บุคลิกภาพที่ไม่ดีจนอาจกลายเป็นปมด้อย และปัญหาอีกมากมายในการใช้ชีวิต คุณพ่อคุณแม่จึงน่าจะหันมาใส่ใจเรื่องนี้ให้มากๆ เข้าไว้ค่ะ และลองเช็คพฤติกรรมเหล่านี้ดู ว่าตอนนี้ คุณเข้าข่ายเป็นตัวการทำให้ลูกอ้วนหรือไม่


1. เลือกอาหารที่ไม่เหมาะสมให้ลูกกิน

ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบไปหมด เด็กๆ มักเคยชินกับการได้กินอาหารฟาสฟูสซึ่งหาง่าย กินง่าย รสชาติเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาทำอาหารให้ลูกกิน อาจเลือกอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหารให้ลูก หรือเลือกซื้ออาหารถุงที่อุดมไปด้วยไขมันให้ลูกกิน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้แหละค่ะ ที่อาจทำให้ลูกรักอ้วนขึ้นได้ง่ายๆ


2. ปล่อยลูกนั่งเล่นมือถือหรือดูโทรทัศน์นานๆ

เด็กในยุคนี้มีอุปกรณ์ล่อตาล่อใจอยู่รอบตัว ท้งโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ เกมต่างๆ ทำให้เด็กๆ ไม่ได้ออกไปขยับร่างกายหรือออกกำลังกายให้เกิดการเผาผลาญ คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คพฤติกรรมดูค่ะว่า คุณชอบปล่อยให้ลูกจมอยู่กับสิ่งเหล่านั้นมากเกินไปหรือเปล่า หรือแม้แต่คุณเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างพาลูกออกไปออกกำลังกายหรือไม่ ถ้าใช่ล่ะก็ ปรับพฤติกรรมด่วน ก่อนที่โรคอ้วนจะมาเยือนค่ะ



3. ใจอ่อนเมื่อลูกร้องจะกินขนม

เมื่อเด็กๆ ร้องอยากกินขนมนอกเวลาอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขนมอุดมน้ำตาลและไขมัน หากคุณพ่อคุณแม่ใจอ่อน ยอมลูกเสมอ ก็อาจจะทำให้ลูกอ้วนได้ค่ะ ยิ่งหากเด็กๆ กินแต่ขนมจนไม่ยอมกินอาหารตามเวลาที่เหมาะสม คือกินเมื่ออยาก กินตามใจชอบ อาจส่งผลให้ลูกขาดวินัยในการกิน นำมาซึ่งปัญหาโรคอ้วน และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาอีกด้วย


4. ติดสินบนลูกด้วยขนม

คุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกวินัยลูก อาจเลือกใช้วิธีเอาขนมมาล่อ เพื่อใช้ติดสินบนให้ลูกทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการ เช่น ถ้าลูกเก็บที่นอนเรียบร้อยแม่จะให้กินไอศกรีมบิ๊กไซส์ วิธีนี้อาจใช้ได้ผลอยู่บ้าง แต่ก็อาจทำให้ลูกอ้วนได้ง่าย ทางที่ดี ลองเลิกติดสินบน เปลี่ยนเป็นคำชมจากใจ ก็ทำให้เด็กๆ มีความสุขได้แล้วค่ะ


5. ทัศนคติเรื่องความอ้วนในเด็กที่ผิด

ผู้ใหญ่บางคนเข้าใจผิดว่า เด็กอ้วนคือเด็กสมบูรณ์ มีอันจะกิน สุขภาพแข็งแรง ซึ่งเป็นความเชื่อแบบเก่าที่ตอนนี้ต้องเปลี่ยนใหม่แล้วนะคะ เด็กที่สุขภาพแข็งแรงคือเด็กที่รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วน ไม่ผอมจนเกิยไปต่างหาก เพราะฉะนั้น ต้องปรับทํศนคติตรงนี้ให้ได้โดยไว ก่อนที่โรคร้ายจะมาเยือนลูกรัก


6. พฤติกรรมการกินของพ่อกับแม่

ผลสำรวจชี้ให้เห็นชัดเลยว่า หากคุณพ่อคุณแม่มีพฤติกรรมการกินที่ไม่มีวินัย จนทำให้มีรูปร่างอ้วน ลูกก็มีโอกาสสูงที่จะมีรูปร่างอ้วนเหมือนคุณพ่อคุณแม่ด้วยเช่นกันค่ะ ดังนั้น แทนที่จะปรับพฤติกรรมของลูกฝ่ายเดียว คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องปรับพฤติกรรมของตัวเองด้วยเช่นกัน


ความอ้วนอาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ที่จริงแล้วมันก็ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและพัฒนาการตามวัยของเด็กมากเลยทีเดียวนะคะ คุณพ่อคุณแม่ลองสำรวจพฤติกรรมของตัวเอง และปรับแก้ให้เหมาะสม ควบคุมอาหารของลูก และพาลูกรักไปออกกำลังกายบ้าง เพื่อให้ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวสุขภาพดี แข็งแรงทั้งกายและใจค่ะ