5 วิธีบอกรัก "ทารกในครรภ์ภรรยา" สำหรับว่าที่คุณพ่อที่อยากให้ลูกรู้ว่า พ่อก็รักลูกสุดหัวใจ

17 Apr 19 am30 11:04

คุณพ่อสามารถสื่อสารให้ลูกรู้ว่าคุณรักเขาได้ด้วยวิธีง่ายแสนง่าย ... แม้ว่าคุณจะไม่ได้อุ้มท้องลูกตลอด 9 เดือนเหมือนคุณแม่ แต่ Happy Mom.Life ก็มีวิธีสื่อสารกับทารกในครรภ์ฉบับคุณพ่อมาฝาก เอาไว้ให้คุณพ่อใช้ตีสนิทกับลูกน้อยในท้อง และเป็นการส่งสัญญาณบอกกับเขาว่า คุณก็รักและรอคอยจะได้เห็นหน้าของเขาไม่แพ้คุณแม่เหมือนกันนะ

การที่คุณพ่อให้ความรัก ความเอาใจใส่ และสื่อสารกับทารกในครรภ์นั้นได้ประโยชน์ถึง 2 ต่อเลยทีเดียว ต่อแรกคือทารกในครรภ์จะสามารถรับรู้ได้ถึงความรักที่คุณพ่อส่งให้เขา ส่วนต่อที่สองก็คือ คุณแม่เองก็มีความสุขด้วยเช่นกัน คุณพ่อลองทำวิธีต่อไปนี้ดูสิคะ…


"เราแนะนำให้คุณพ่อเริ่มกิจกรรมสื่อสารกับทารกในครรภ์เมื่ออายุครรภ์ของคุณแม่เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 หรือประมาณ 4-6 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทารกในครรภ์เริ่มรับรู้ได้แล้วนั่นเอง"


1. พูดคุย โดยใช้เสียงปกติของคุณ

คุณพ่อสามารถพูดคุยกับทารกในครรภ์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาหลังมื้ออาหาร เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทารกกำลังตื่นตัวมากที่สุด เราขอแนะนำให้คุณใช้น้ำเสียงปกติของคุณ เพื่อให้ทารกจดจำน้ำเสียงของคุณได้ และรู้สึกคุ้นเคยหลังจากที่เขาได้ออกมาจากท้องคุณแม่ เรื่องราวที่พูดคุยกับเขาก็อาจเป็นเรื่องทั่วๆ ไป หรืออาจเล่านิทานให้ลูกฟัง เรียกชื่อลูกบ่อยๆ เพื่อให้เขาคุ้นเคยและจดจำได้นั่นเองค่ะ


2. ส่องไฟฉายเล่นกับลูก

ในช่วงประมาณเดือนที่ 7 ของการตั้งครรภ์ คุณพ่อสามารถใช้ไฟฉายส่องไปที่หน้าท้องคุณแม่ และเปิดปิดแสงสลับไปมา หรือใช้แสงส่องวนๆ ไปที่หน้าท้องคุณแม่ เพื่อเล่นกับทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้คุณหมอยังยืนยันว่า วิธีนี้สามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการการมองเห็นให้ทารกในครรภ์ได้ดีอีกด้วยค่ะ


3. กอด สัมผัสหน้าท้อง

คุณพ่อสามารถสื่อสารกับทารกในครรภ์ได้ด้วยการกอดคุณแม่ และลูบสัมผัวหน้าท้องเบาๆ นอกช่วยให้ลูกรับรู้ถึงการมีอยู่ของคุณพ่อแล้ว ยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการให้ลูกได้อีกทางหนึ่งด้วยนะคะ คุณพ่ออาจลูบสัมผัสหน้าท้องผสมกับการพูดคุยกับทารกในครรภ์ แล้วคุณจะต้องแปลกใจ ที่พบว่าเจ้าตัวน้อยดิ้นตอบกลับมา เพราะรับรู้ได้ว่าคุณอยู่ตรงนั้น


กอด สัมผัสหน้าท้อง


3. ร้องเพลงหรือเล่นดนตรีให้ลูกฟัง

สำหรับคุณพ่อที่ชอบร้องเพลงหรือเล่นดนตรี คุณสามารถใช้ดนตรีช่วยสื่อสารถึงความรักที่คุณมีต่อทารกในครรภ์ได้นะคะ โดยคุณพ่ออาจยื่นหน้าไปใกล้ๆ หน้าท้องคุณแม่ ให้ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และร้องเพลงให้ลูกฟัง หรือเล่นดนตรีเพราะๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ เชื่อกันว่า คลื่นเสียงสามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการให้ลูกได้ดีเลยค่ะ


5. ดูแลแม่เท่ากับดูแลลูก

ผลการวิจัยชัดว่า ความสุขและความเครียดของแม่ท้อง ส่งผลโดยตรงถึงทารกในครรภ์ หากคุณแม่มีความสุข ลูกก็จะมีสุขภาพจิตที่ดี แต่ถ้าคุณแม่มีความเครียด ลูกก็มีแนวโน้มที่จะเกิดมาเป็นเด็กขี้กังวล ร้องไห้เก่ง และเครียดง่าย การที่คุณพ่อคอยดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิด ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย จึงเป็นการสื่อสารถึงทารกในครรภ์แบบอ้อมๆ ว่า คุณพ่อรักเขามากแค่ไหน วิธีนี้จึงเป็นอีกวิธีที่คุณพ่อไม่ควรมองข้ามค่ะ


แม้ว่าคุณพ่อจะไม่ได้มีร่างกายเชื่อมโยงกับทารกในครรภ์เหมือนคุณแม่ แต่คุณพ่อก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล การสื่อสารให้ลูกรู้ว่าคุณรักเขาจึงเป็นสิ่งที่คุณทำได้ไม่ยาก วันนี้อย่าลืมบอกรักลูกในท้องคุณแม่ดูนะคะ