สงสารจับใจ ลูกร้องไห้งอแง "ไม่อยากไปโรงเรียน" พ่อแม่จะช่วยหนูอย่างไรดี?
เปิดเทอมทีไร มีเรื่องที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านกลุ้มใจ เพราะต้องทนเห็นลูกร้องไห้งอแงไม่อยากไปโรงเรียนลำพังแค่ความรู้สึกของแม่ที่ต้องพรากจากลูกไปครึ่งวันก็แย่แล้ว ยิ่งเห็นลูกร้องไห้ หัวอกพ่อแม่ก็แทบใจจะขาด ถ้าไม่อยากเห็นลูกร้องไห้แบบนี้ เราควรจัดการอย่างไร Happy Mom.Life มีคำตอบมาฝากค่ะ
พ่อแม่สงสารจับใจ ลูกร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน
ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลไว้ว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการเปิดเทอม เด็กเล็กๆ มักจะร้องไห้งอแงไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพัฒนาการตามวัย ในช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ต้องวิตกกังวลอะไรมากไปนะคะ เพราะเด็กส่วนใหญ่จะปรับตัวและดีขึ้นได้เองหลังจากเวลาผ่านไป
อย่างไรก็ตาม แม้ปัญหาเด็กเล็กๆ ไม่อยากไปโรงเรียนจะเป็นเรื่องปกติที่มักเกิดขึ้น แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลูกรู้สึกมั่นคงในจิตใจ และช่วยให้ลูกปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้เพราะเด็กบางคนหลังจากถูกบังคับให้ไปโรงเรียนแล้ว อาจกลับมามีพฤติกรรมถดถอยลง เช่น จากเคยเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายก็กลายเป็นเด็กงอแง ดื้อรั้น พัฒนาการบางอย่างที่เคยทำได้ ก็กลับมาทำไม่ได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้อาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับเจ้าตัวน้อยใช่ไหมล่ะคะ เราลองมาดูวิธีการรับมือและช่วยลูกจากปัญหานี้กันค่ะ
น้องชิลีน ลูกสาวของคุณแม่พลอย ชิดจันทร์ไปโรงเรียนวันแรก ร้องไห้หนักมาก
MomMe Chidjun
ทำอย่างไร เมื่อลูกร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน
- ช่วงแรกๆ คุณพ่อคุณแม่ควรไปรับส่งลูกด้วยตัวเอง เพื่อให้เขามั่นใจว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ทิ้งเขาไปไหน
- คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ร้องไห้หรือแสดงทีท่าวิตกกังวลตามลูก เพราะจะยิ่งทำให้ลูกวิตกกังวลมากขึ้น
- ระหว่างแต่งตัว เตรียมตัวไปโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ควรชวนลูกพูดคุยให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
- อธิบายให้ลูกเข้าใจถึงเหตุผลที่เด็กๆ จะต้องไปโรงเรียน
- เมื่อถึงโรงเรียนแล้วให้คุณพ่อคุณแม่ส่งลูกด้วยท่าทางสงบ มั่นคง และบอกให้เขารู้ว่าพ่อแม่จะมารับเขาหลังเลิกเรียน
- คุณพ่อคุณแม่ควรมารับลูกให้ตรงเวลาตามที่สัญญาไว้เสมอ
ความกังวลต่อการพรากจากเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการตามวัยของเด็กเล็กๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยสร้างความแข็งแกร่งในจิตใจให้ลูกได้ ด้วยการทำให้เขามีความรู้สึกมั่นคงทางอารมณ์กับคุณพ่อคุณแม่ สำหรับเด็กบางคนที่มีความกังวลมากจนถึงขั้นเป็น "โรควิตกกังวลต่อการแยกจาก" (separation anxiety disorder) คุณพ่อคุณแม่อาจต้องพาลูกไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการช่วยเหลือต่อไปค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง : Facebook ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ชวนคุณพ่อคุณแม่มาเรียนรู้บันได 7 ขั้น เตรียมทักษะสมอง EF ให้ลูกน้อยพร้อมสำหรับโลกยุคใหม่
- 6 วิธีแก้ ลูกงอแงไม่อยากไปโรงเรียน สอนลูกรับมือกับอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของชีวิต
- รีวิว "โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ" แหล่งรวมลูกคนดัง ค่าเทอมครึ่งล้าน คุ้มมั้ยที่จะจ่าย?