4 เคล็ดลับฝึกให้ลูกนอนยาวตลอดทั้งคืน ไม่ตื่นมางอแงบ่อย ตั้งแต่อายุ 4 เดือน
การฝึกให้ลูกนอนหลับยาวในช่วงเวลากลางคืน ถือเป็นภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งของคุณแม่เลยก็ว่าได้ ยิ่งกับคุณแม่ที่ต้องทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย การอดหลับอดนอนเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อสภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่หลังคลอดมากนัก ดีไม่ดีอาจมีผลกับการเลี้ยงลูกได้ ดังนั้น คุณแม่ที่มีลูกน้อยวัย 3-4 เดือน เด็กสามารถนอนยาว โดยไม่ต้องปลุกมาทานนมทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เหมือน 1 เดือนแรกได้แล้ว ช่วงนี้ คุณแม่อาจฝึกให้ลูกน้อยนอนนานขึ้น ไม่ตื่นมางอแงในช่วงเวลากลางคืนบ่อยๆ โดยมีเคล็ดลับดังนี้
1. สังเกตพฤติกรรมการนอนของลูก
มีทฤษฎีมากมายที่คุณแม่สามารถหยิบนำมาใช้กับลูกของตนเอง เพื่อฝึกให้เขานอนหลับได้ยาวขึ้น (ระยะแรกอาจได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณแม่จะอ่านหรือฟังคุณแม่ท่านอื่นเล่ามาจากไหนก็ตาม สุดท้าย คุณแม่ควรที่จะดูจากพฤติกรรมการนอนของลูกตนเองเป็นหลัก เพราะเด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน และช่วงเวลาการนอนก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งแรกเลยคือให้คุณแม่สังเกตว่าลูกของตนนอนนานในช่วงไหน และอาจใช้ช่วงเวลานั้นฝึกให้เขานอนยาวขึ้น เช่น ลูกนอนยาวตั้งแต่เวลาตี1 ถึงตี 5 ก็อาจจะใช้ช่วงนี้ ฝึกให้เขานอนเป็นเวลาและนานขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลังจาก 4 เดือน ลูกจะสามารถนอนยาวตลอดทั้งคืนได้แล้ว
2. สอนให้ลูกรู้จักความแตกต่างระหว่าง กลางวัน-กลางคืน
การที่เด็กอยู่ในท้องแม่มาโดยตลอด เมื่อคลอดออกมา เขาจะยังไม่สามารถแยกระหว่างกลางวันและกลางคืนเองได้ นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาตื่นบ่อยๆ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักเวลา รู้ว่าช่วงไหนคือช่วงเวลากลางวัน (สว่าง มีเสียงดัง) และช่วงไหนคือเวลากลางคืน (มืด เสียงเงียบ) ฝึกให้ลูกเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำและตื่นตั้งแต่เช้า ทำซ้ำๆ เป็นประจำให้เด็กคุ้นเคย
- ช่วงเช้า ช่วง 7-8 โมงเช้า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะฝึกให้ลูกตื่นนอน เปิดหน้าต่างให้แสงสว่างเข้า หรือเปิดไฟให้สว่าง เปิดเพลง และเริ่มกิจวัตรประจำวันยามเช้าให้เป็นปกติ เช่น ล้างหน้า เช็ดก้น เปลี่ยนผ้าอ้อม ฯลฯ เพื่อให้เขารู้ว่าต้องตื่นแล้ว ไม่ใช่เวลานอน
- ช่วงกลางวัน เล่นกับลูก และให้ลูกนอนกลางวันได้ตามปกติ แต่ไม่ควรให้ลูกนอนกลางวันมากเกินไป หรือนอนตอนเย็น เพราะอาจมีผลกับช่วงเวลานอนกลางคืนได้
- ช่วงกลางคืน ช่วงเวลาเข้านอนไม่ควรเกิน 2-3 ทุ่ม หลังจากให้ลูกกินนมก่อนนอน 45 นาทีและจับให้ลูกเรอแล้ว ควรพาลูกทำกิจวัตรประจำวันก่อนเข้านอน เช่น ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนผ้าอ้อม เปลี่ยนชุดนอน เพื่อเป็นสัญญาณให้ลูกรู้ว่าเวลานี้คือเวลาที่เรากำลังจะเข้านอนแล้วนะ
ลูกนอนหลับทั้งคืน เขาก็จะตื่นมาสดใส พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
3. สร้างบรรยากาศภายในห้องนอนให้น่านอน
คุณแม่ควรสร้างบรรยากาศภายในห้องนอนให้น่านอน มีความแตกต่างจากตอนกลางวัน เช่น เปิดแสงไฟสลัวๆ มีเพลงกล่อมเบาๆ หรือไม่มีเสียงดังรบกวน คุณแม่อาจจะแยกห้องนอนกับห้องที่ลูกอยู่ตอนกลางวัน เพื่อให้เขาแยกบรรยากาศที่แตกต่างกันได้
4. คุณแม่ต้องใจแข็ง ทำอย่างมีวินัย
การจะฝึกให้ลูกหลับยาวในช่วงกลางคืน หมายความว่าคุณแม่ต้องฝึกให้ลูกเลิกมื้อดึกในช่วงกลางคืนด้วย ซึ่งนี้จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งด้วยที่จะวัดใจคุณแม่ว่าจะทำใจแข็งได้แค่ไหน เพราะเมื่อเขาตื่นมา เขาก็จะร้องไห้เพราะอยากกินนม เด็กบางคนอาจจะร้องเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณแม่ใจแข็ง ในวันถัดๆ ไป ลูกจะเริ่มตื่นมาร้องไห้น้อยลงเรื่อยๆ
ก็ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนด้วยนะคะ ว่าจะสามารถทำได้ตอนไหน บางคน 2 เดือนแรกก็ทำได้เลย บางคนหลัง 4 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อยู่ที่วินัยของคุณแม่เป็นหลักด้วย และก็ไม่ควรคาดหวังกับลูกจนเกินไป แต่อย่างไร HappyMom.Life เชื่อว่า หากคุณแม่ทำได้ หายเหนื่อยแน่นอนค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับการนอนของลูก
- เช็คตารางการนอนของเด็กทารกวัยแรกเกิด -2 ปี นอนกี่ชั่วโมงต่อกลางวัน/กลางคืน กำลังพอดี?
- 5 เทคนิคจัดห้องนอนทารกเกิดใหม่ เลี้ยงลูกง่ายดังใจ อย่าลืมเตรียมไว้ก่อนคลอด
- จัดท่านอนถูกวิธี ทารกแรกเกิด-1 ปี นอนท่าไหนถึงจะดีและปลอดภัย