สอนลูก2-6 ขวบให้หาย "ขี้อาย" ลดความเสี่ยงลูกเข้าสังคมไม่ได้จนมีปัญหา

02 Jun 19 pm30 19:55

สังคมไทยมักหล่อหลอมให้เด็กๆ พูดน้อย ฟังผู้ใหญ่ให้มาก แต่หากเราละเลยการสอนให้ลูกกล้าแสดงออกและมีความมั่นใจในตัวเองบ้าง เด็กก็อาจเติบโตไปเป็นเด็กมีปัญหาด้านบุคลิกภาพได้นะคะHappy Mom.Life อยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาให้ความสำคัญกับการฝึกลูกให้กล้าแสดงออกกันค่ะ



เด็กในวัย 2-6 ขวบบางคนอาจมีบุคลิกขี้อาย ไม่กล้าพูดคุยกับคนอื่น ไม่กล้าเล่นกับเพื่อนใหม่ มักชอบเก็บตัว พูดเบาๆ หรือเล่นเงียบๆ อยู่คนเดียว ซึ่งอาจส่งผลด้านลบต่อการเรียนรู้ของลูกได้ในหลายๆ ด้าน


1. ลูกตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้ง

เด็กที่มีบุคลิกขี้อาย มักตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้ง และการใช้ความรุนแรงในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงเรียน จนอาจนำไปสู่ความทุกข์และอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้


2. ลูกเสี่ยงต่อการถูกเอาเปรียบ

ในสังคมย่อมมีคนหลายรูปแบบ หากเด็กๆ เป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม เขาย่อมเสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบได้ โดยที่เขาไม่กล้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง


3. ลูกมีความเครียดสะสม

เด็กที่เก็บกดความไม่พอใจ ไม่กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม อาจทำให้เขาเกิดความเครียดสะสม กลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิต และปัญหาด้านพฤติกรรมได้ค่ะ


4. ความขี้อายขัดขวางการเรียนรู้

เมื่อเด็กๆ ไม่กล้าแสดงออก เขาย่อมมีการเรียนรู้ที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากเขาอาจไม่กล้าซักถาม ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือแม้แต่ไม่กล้าเลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างแท้จริง ทำให้การเรียนรู้หยุดชะงักอย่างน่าเสียดาย


5. ลูกมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม

เด็กขี้อายมักมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม เนื่องจากมีเพื่อนน้อย ไม่ค่อยกล้าเข้าไปเล่นกับเพื่อนๆ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อตัวลูกเลยค่ะ


ลูกมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม


สอนลูกให้กล้าแสดงออกได้ ไม่ยาก

เพื่อให้ลูกมีทักษะทางสังคมที่ดี และมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ รวมทั้งเติบโตเป็นเด็กฉลาดและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข คุณพ่อคุณแม่จึงอาจต้องช่วยส่งเสริมให้ลูกกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม โดยแนะนำให้ทำดังนี้ค่ะ


1. ให้ลูกได้พบปะผู้คนบ้าง

คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้พบปะผู้คน เช่น เจอญาติพี่น้อง ได้ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ โดยในช่วงแรก คุณพ่อคุณแม่อาจต้องช่วยพาลูกไปทำความรู้จักกับคนอื่นก่อน จากนั้นค่อยๆ ปล่อยลูกให้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นตามธรรมชาติ โดยคุณพ่อคุณแม่คอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ


2. ไม่บังคับลูกให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ

นิสัยขี้อายนั้น โดยส่วนมากมักเกิดขึ้นจากการเลี้ยงดู จึงไม่ใช่ความผิดของลูกที่เขาจะอาย ไม่กล้าแสดงออก คุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกลูกให้มีความกล้าจึงต้องใจเย็นๆ อย่าบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ หรือดุ ตำหนิที่เขาไม่กล้าแสดงออก



3. ไม่คอยจ้องจับผิด หรือกดดันลูกมากเกินไป

คุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกได้ลองทำสิ่งต่างๆ อย่างอิสระบ้าง ไม่ควรห้ามลูก หรือช่วยเหลือลูกมากเกินไป และไม่ควรจ้องจับผิดทุกการกระทำของลูก


4. ให้กำลังใจ สอนลูกให้เชื่อมั่นในตัวเอง

คุณพ่อคุณแม่ควรเอ่ยชื่นชมในด้านดีของลูก เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในตัวเอง และทำให้เขากล้าที่จะแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องในที่สุด หากลูกทำสิ่งไหนได้ดี ให้เอ่ยชื่นชมลูกให้มากๆ แต่หากเขาทำสิ่งไหนไม่ดีนัก กำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน


5. ให้ลูกทำกิจกรรมสร้างสรรค์

กิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ก็ช่วยส่งเสริมให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเองได้ เช่น การให้ลูกได้แสดงความสามารถขึ้นเต้นโชว์ การให้ลูกได้ทำงานศิลปะตามจินตนาการของเขา หรือการให้ลูกได้เข้าค่ายสนุกๆ กับเพื่อนๆ เป็นต้น



การจะเปลี่ยนเด็กขี้อายให้กล้าแสดงออกได้นั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องทำอย่างใจเย็น และไม่กดดันลูกมากเกินไป รวมทั้งต้องสอนให้ลูกรู้ลิมิต ไม่ให้การกล้าแสดงออกนั้นมากเกินควรจนเป็นการไปก้าวก่ายหรือละเมิดคนอื่น เด็กๆ ที่มีความกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม ย่อมเติบโตเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดี และมีความสุขในการเรียนรู้ค่ะ


บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง