เด็กนักเรียนไทยแบกกระเป๋าหนักเกินไป อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเรียนรู้

01 Aug 19 am31 11:06

กระเป๋านักเรียน” เป็นอุปกรณ์การเรียนที่สำคัญสำหรับเด็กไทยเป็นอย่างมาก เพราะหากจะให้พูดถึงความสำคัญของกระเป๋านักเรียนแล้ว เราแบกกระเป๋าเป้นักเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับมัธยมศึกษา โดยที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองหรือคุณครูผู้สอนอาจไม่เคยสังเกตเห็นเลยว่า น้ำหนักกระเป๋านักเรียนที่เด็กแบกกันอยู่ทุกวันอาจมีน้ำหนักเกินไป ซึ่งนอกจากจะเป็นตัวการทำร้ายสุขภาพ และพัฒนาการทางด้านร่างกายในระยะยาวแล้ว ยังมีผลทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของลูกลดลงด้วย


กระเป๋านักเรียนของลูก หนักเกินไปรึเปล่า


โดย นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าเด็กไทยวัยประถมแบกกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกินกว่าร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว คือ ถ้าเด็กหนัก 30 กิโลกรัม น้ำหนักกระเป๋าควรอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลกรัม แต่เด็กไทยกลับแบกกระเป๋าหนักถึง 4-6 กิโลกรัม การที่ต้องแบกกระเป๋าใบใหญ่ ทั้งหนักและนาน อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อโครงสร้างร่างกาย โดยเฉพาะแขน ไหล่และสะบัก และส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็ก


ด้าน นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เด็กวัยอนุบาลและประถมอยู่ในช่วงการเจริญเติบโต และพัฒนาการด้านการทรงตัว จึงยังทรงตัวได้ไม่ดีนัก การแบกกระเป๋าใบใหญ่และน้ำหนักมาก อาจทำให้เด็กล้มง่าย เดินลำบากมากขึ้น เพราะกำลังแขนขายังไม่แข็งแรง ดังนั้นอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บทั้งจากการล้มและกล้ามเนื้อที่ใช้ในการแบกกระเป๋า ทั้งนี้กระเป๋านักเรียน ที่ใช้อาจแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ แบกกระเป๋าโดยใช้มือถือ และแบกกระเป๋าโดยแขวนหลัง ซึ่งแบบมือถือไม่เหมาะกับการแบกเป็นเวลานาน อาจเกิดการบาดเจ็บ และเสียสมดุลร่างกายได้มากกว่าแบบแขวนหลัง อย่างไรก็ตาม การแบกกระเป๋าที่หนักเป็นเวลานานจะเพิ่มโอกาสในการบาดเจ็บต่อโครงสร้างร่างกายโดยเฉพาะแขน ไหล่และสะบัก


ทั้งนี้หากกระเป๋ามีน้ำหนักมากแนะนำให้ใช้กระเป๋าลากแต่ถ้าน้ำหนักไม่มากและต้องการแบกเป็นเวลานานควรใช้กระเป๋าโดยแขวนหลัง (back pack) ส่วนกระเป๋าถือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำว่าไม่ควรหนักจนเกินไป และไม่ควรถือเป็นเวลานานๆ


ข้อมูลอ้างอิงจาก thaihealth.or.th/สสส


บทความที่เกี่ยวข้อง