ลูกอ้วนเกินไปไหม? ชวนลูกลดน้ำหนักแบบปลอดภัย ไม่ส่งผลร้ายต่อพัฒนาการของลูกรัก

ปัญหาโรคอ้วนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กไทยยุคใหม่มากทีเดียวค่ะ ด้วยความเข้าใจผิดๆ ของผู้ใหญ่ว่า เด็กตุ้ยนุ้ยคือเด็กแข็งแรง น่ารัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ความอ้วนส่งผลร้ายต่อสุขภาพของเด็กๆ ค่อนข้างมาก Happy Mom.Lifeเข้าใจค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ จึงขอรวบรวมเอาคำแนะนำดีๆ ในการชวนเด็กๆ มาลดน้ำหนักโดยไม่ให้เป็นอันตราย หรือส่งผลไม่ดีต่อพัฒนาการของเด็กๆ มาฝากค่ะ

อย่าลืมใส่ใจเรื่องอาหารของลูก

1. สังเกตพฤติกรรมการกินของลูก

เริ่มแรก คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสังเกตพฤติกรรมการกินของลูกก่อนว่า เด็กๆ ชอบกินอะไร และอะไรที่เป็นตัวร้ายทำให้เด็กๆ เป็นโรคอ้วน ยกตัวอย่างเช่น เด็กบางคนชอบกินแป้ง กินไขมันสัตว์ หรือขนมหวานมากจนเกินไป เมื่อสังเกตแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็หันมาปรับสัดส่วนของอาหารแต่ละมื้อให้เหมาะสมมากขึ้น เช่น จากเดิมเน้นอาหารทอด หรือผัดที่ต้องใช้น้ำมันมากๆ อาจหันมาปรุงอาหารด้วยวิธีการต้มหรือนึ่งให้มากขึ้นแทน เป็นต้น

2. บอกคนในครอบครัวให้ร่วมมือกัน

ปัญหาโรคอ้วนนี้จะไม่ได้รับการแก้ไขเลย หากทุกคนในครอบครัวไม่ร่วมมือกัน เช่น คุณปู่คุณย่ายังตามใจหลานเรื่องการกินอยู่ เพราะไม่เห็นว่าความอ้วนของหลานเป็นเรื่องใหญ่ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อยในการอธิบายให้พวกท่านเข้าใจ และร่วมมือกันค่ะ

3. ห้ามให้ลูกอดอาหาร

เด็กอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต การอดอาหารจึงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็ควรดูแลการกินของลูกโดยให้เด็กๆ ได้รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ทุกมื้อ แต่ให้เลือกอาหารให้มีประโยชน์ทางโภชนาการแทน โดยให้ลดอาหารหวานจัด เค็มจัด หรืออาหารมันๆ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทฟาสฟู้สต่างๆ แต่ไม่จำเป็นต้องหักดิบนะคะ สามารถรับประทานได้เป็นครั้งคราว แต่ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปค่ะ

4. เลือกนมที่เหมาะสมกับลูก

แม้ว่าเด็กๆ จะอยู่ระหว่างการลดน้ำหนัก แต่นมก็ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อเด็กๆ อยู่นะคะ โดยปกติแล้ว เด็กๆ ควรดื่มนมประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่ในกรณีที่เด็กมีน้ำหนักตัวมาก หรือมีไขมันในเลือดมาก อาจเลือกให้เด็กๆ ดื่มนมพร่องมันเนยแทนได้ค่ะ

5. ชวนลูกกินผัก ผลไม้

โดยปกติแล้ว ผัก ผลไม้จะให้พลังงานต่ำ และมีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่จึงลองเชิญชวนให้ลูกๆ กินผัก ผลไม้ให้มากๆ โดยเลือกผัก ผลไม้ที่น้ำตาลไม่สูง และมีกากใยสูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ เป็นต้น ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้เด็กๆ อิ่มนาน และช่วยลดน้ำหนักได้ค่ะ

6. ชวนลูกออกกำลังกาย

นอกจากการคุมอาหารแล้ว การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยควรให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกเหนือจากการเรียนพละที่โรงเรียน ซึ่งการออกกำลังกายนั้น อาจเป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ทำร่วมกันกับเด็กๆ เช่น ไปตีแบต ไปวิ่งด้วยกัน เป็นต้น นอกจากจะช่วยคุมน้ำหนัก ทำให้เด็กๆ ร่างกายแข็งแรง และช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายให้เด็กๆ ได้แล้ว ยังเป็นการดึงเด็กออกจากโทรศัพท์มือถือ แทปเลต หรือคอมพิวเตอร์ได้ด้วยค่ะ

7. ให้รางวัลเมื่อลูกทำได้ดี

การลดน้ำหนักนั้น อาจทำให้เด็กๆ ต้องงดรับประทานของโปรดของพวกเขา ซึ่งอาจส่งผลให้เด็กๆ งอแงได้ คุณพ่อคุณแม่อาจแก้ปัญหาด้วยการให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ กับเด็กๆ เมื่อพวกเขาสามารถงดของโปรดที่อันตรายต่อสุขภาพได้สำเร็จ ก็จะทำให้เด็กๆ มีกำลังใจมากขึ้นค่ะ

ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

อันที่จริงแล้ว การคุมน้ำหนักที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆ คือการดูแลการกินของลูกไม่ให้เด็กมีน้ำหนักเกินตั้งแต่แรก แต่หากเด็กมีน้ำหนักมากไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีที่เรานำเสนอมาเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการป้องกันเด็กจากโรคอ้วนได้ค่ะ นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพและน้ำหนักตัวเองเช่นเดียวกันด้วยนะคะ จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกได้อีกทางด้วยค่ะ