5 แนวทางสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ลูกติดเกม สอนลูกให้ควบคุมเกม ไม่ให้เกมควบคุมเรา

10 Jan 18 am31 11:45

Happy Mom.Lifeเชื่อว่า คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงกำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหาลูกติดเกมมากเกินไปอยู่ใช่ไหมล่ะคะ อันที่จริงเกมเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะสามารถช่วยฝึกทักษะให้เด็กๆ และในยุคนี้ อาจนำไปประกอบเป็นอาชีพได้อีกด้วย แต่หากเด็กติดเกมมากเกินไป ก็อาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดีได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเราสามารถควบคุมดูแลเด็กๆ ได้ โดยที่เด็กๆ ยังสามารถใช้เกมช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ของพวกเขาได้ด้วย ซึ่งขอแนะนำดังนี้ค่ะ


เกมมักถูกผลิตคิดค้นออกมามากมาย เพื่อผ่อนคลาย สร้างความบันเทิง และช่วยส่งเสริมทักษะความคิดต่างๆ ให้ผู้เล่น แต่เกมเหล่านี้มักถูกออกแบบมาให้เล่นแล้วอยากเล่นอีก จนอาจทำให้เกิด “ปัญหาเด็กติดเกม” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ได้ หากไม่ควบคุมให้เหมาะสม


1. เลือกเกมให้เหมาะกับวัยของลูก

เกมในปัจจุบันนี้มีหลากหลายรูปแบบค่ะ เช่น เกมส่งเสริมการศึกษา เกมฝึกไหวพริบ เกมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ หรือเกมทั่วไปที่เด็กชอบเล่นกัน สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจให้มากๆ คือการเลือกเกมให้เหมาะสมกับวัยของเด็กๆ เพราะเกมบางเกมก็ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีวุฒิภาวะมากพอแล้ว จึงอาจจะส่งผลร้ายต่อเด็กๆ ได้ โดยเงื่อนไขการเลือกเกมให้เด็กๆ อาจพิจารณาดังนี้ค่ะ


สอนลูกให้รู้จักควบคุมเกม ไม่ให้เกมควบคุมเรา


2. กำหนดกติกาในการเล่นเกม

คุณพ่อคุณแม่ควรมีกติกาการเล่นเกมอย่างชัดเจนกับเด็กๆ เช่น อนุญาตให้เล่นได้วันละ 1 ชั่วโมง โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องใจแข็งสักหน่อย เพราะผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า การปล่อยให้เด็กเล่นเกมติดต่อกันนานเกินไป จะส่งผลให้เกิดปัญหาเด็กติดเกมได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิดอาการอารมณ์เสียเมื่อคุณพ่อคุณแม่สั่งให้เลิกเล่นเกม  นอกจากนี้อาจจะมีกติกาอื่นๆ เช่น ให้เล่นต่อเมื่อทำหน้าที่หลักของตัวเองเสร็จแล้วเท่านั้น เป็นต้น


3. พาเด็กๆ ไปทำกิจกรรมอื่นๆ บ้าง

เด็กบางคนติดเกมเพราะไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรดีที่ผ่อนคลายและสร้างสรรค์ คุณพ่อคุณแม่จึงอาจจะต้องพาเด็กๆ ไปลองทำกิจกรรมสนุกๆ อื่นๆ เช่น การเล่นกีฬา วาดรูป เล่นดนตรี แต่ขอให้เป็นกิจกรรมที่สนุก ผ่อนคลายสำหรับเด็กๆ เพื่อไม่ให้พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับเกมมากจนเกินไป


พาเด็กๆ ไปทำกิจกรรมอื่นๆ บ้าง


4. ชวนเด็กๆ เข้าสังคมที่ดีๆ

สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย หลายคนอาจติดเกมออนไลน์ เพราะในเกมมีเพื่อน มีสังคม หากเด็กๆ ไม่มีสังคมอื่นๆ ในโลกนอกจอคอมพิวเตอร์เลย ก็อาจจะทำให้เด็กๆ จมลึกลงไปในสังคมเกม จนไม่สามารถออกมาได้ คุณพ่อคุณแม่จึงอาจจะต้องให้เด็กๆ ได้ฝึกเข้าสังคม พบเจอเพื่อนหลายๆ กลุ่ม ในสถานที่ที่ดีและสร้างสรรค์ เช่นพาไปทำกิจกรรมสนุกๆ กับเด็กคนอื่นๆ


5. ใส่ใจดูแลจิตใจของลูกเสมอ

เด็กบางคนมีปัญหาทางจิตใจ มีภาวะจิตใจอ่อนแอ คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้ ก็จะหันไปติดเกม เพราะเกมเป็นเหมือนหลุมหลบภัยของพวกเขา เมื่อพวกเขาเล่นเกมจะรู้สึกเหมือนได้หลุดออกจากโลกแห่งความจริง ซึ่งจะทำให้เด็กยิ่งจมลึกลงไปในโลกแห่งเกมได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงควรมีเวลาให้เด็กๆ มากๆ ทำให้เด็กรู้สึกมีความสุขในโลกแห่งความเป็นจริง ก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้ค่ะ


อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างในโลกล้วนมาทั้งสองด้าน เกมเองก็เช่นกัน แม้ว่าการติดเกมจะเป็นปัญหาที่น่ากลัว แต่อีกมุมหนึ่ง ก็มีเกมสำหรับเด็ก หรือเกมดีๆ ที่ช่วยพัฒนาเด็กๆ ได้ หากใช้อย่างถูกวิธี คุณพ่อคุณแม่จึงควรเดินทางสายกลาง อนุญาตให้เด็กได้รู้จักกับเกม ให้เด็กรู้จักควบคุมการเล่นเกมของตัวเอง แต่อย่าปล่อยให้เด็กถูกเกมควบคุมจนทำให้เกิดปัญหาต่อตัวของเด็กเองค่ะ