"สัมผัสและกอด" สิ่งสำคัญในชั่วโมงแรกที่คุณแม่ต้องทำหลังคลอด มอบให้เป็นของขวัญล้ำค่าเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก

29 Sep 18 am30 07:43

ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่คุณแม่เฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมทารกในครรภ์ จนถึงวันที่ทารกน้อยออกมาลืมตาดูโลก เชื่อว่าความรู้สึกของคุณแม่ทุกท่านคงจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขล้นและอิ่มเอมใจเป็นที่สุด ซึ่งหลังจากที่รู้ว่าทารกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณแม่จะต้องท่องจำให้ขึ้นใจก็คือ ต้องไม่ลืมที่จะ สัมผัสและกอดทารกน้อย เพราะการแสดงออกของความรักด้วยวิธีดังกล่าวนี้จะส่งผลดีต่อทารก 


สัมผัสและกอดทารกน้อย

babycenter.com


เพราะถึงแม้ทารกจะคลอดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะยังไม่คุ้นชินนักกับอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมภายนอกที่แตกต่างออกไปจากในถุงน้ำคร่ำภายในครรภ์ของคุณแม่ นี่จึงเป็นเหมือนโลกใบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ทารกน้อยเกิดความกลัว และเป็นเหตุผลที่เวลาทารกคลอดออกมาแล้วถึงร้องไห้เสียงดังจ้า และจะเงียบลงเมื่อได้รับสัมผัสที่อบอุ่นจากการกอดที่คุณแม่มอบให้นั่นเอง

โดยหลังคลอดภายในเวลา 1 ชั่วโมง คุณแม่และทารกน้อยควรมีเวลาอยู่ด้วยกัน เพื่อให้ได้มีโอกาสสัมผัสและกอดกันในลักษณะการกอดแบบแนบเนื้อ คือ การให้ทารกได้สัมผัสกับอกของมารดาโดยไม่มีสิ่งห่อหุ้มร่างกายหลังคลอดทันทีหรือหลังคลอดไม่นาน ซึ่งการสัมผัสและกอดทารกในลักษณะนี้จะมีประโยชน์อะไรบ้างนั้น Happy Mom.Life มีคำตอบมาบอก

• ช่วยรักษาอุณหภูมิทารกให้คงที่และเป็นปกติ ป้องกันทารกตัวเย็น (hypothermia) เนื่องจากหลังคลอดผิวของทารกแรกเกิดจะยังระบายความร้อนและรับมือกับความเย็นได้ยังไม่ดีเท่ากับผิวของผู้ใหญ่ อ้อมกอดของแม่จึงทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการปรับอุณหภูมิในร่างกายของทารกให้สมดุล 


อ้อมกอดแม่ ช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายของทารกให้สมดุล

bellybelly.com.au


• ทำให้ทารกผ่อนคลาย จากการสัมผัสและกอดลูกไว้ในอ้อมอกและอ้อมแขนของคุณแม่ ซึ่งการสื่อสารระหว่างกันนี้จะทำให้ลูกรู้สึกถึงความอบอุ่น ผ่อนคลายสบายใจ รู้สึกถึงความปลอดภัย อัตราการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจคงที่ และที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มความผูกพัน กระตุ้นสายสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และลูกน้อยอีกด้วย 

• ช่วยส่งผ่านแบคทีเรียดีสู่ลูก โดยใน 1 ชั่วโมงที่ทารกคลอดออกมา ทารกจะได้รับภูมิคุ้มกันจากอกแม่ผ่านสัมผัสผิวของแม่โดยธรรมชาติ เชื้อแบคทีเรียที่ดีชนิดเดียวกับที่คุณแม่มีอยู่ในร่างกาย จะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทารก ช่วยให้ทารกมีร่างกายแข็งแรง ช่วยต่อต้านแบคทีเรียไม่ดี และช่วยลดโอกาสที่เด็กจะป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ในอนาคต

• กระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนแห่งความรัก หรือออกซิโทซิน (Oxytocin) ฮอร์โมนแห่งความสุขที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกการเป็นแม่ ดังนั้นการที่คุณแม่สัมผัสและกอดทารกจะยิ่งทำให้ฮอร์โมนตัวนี้หลั่งมากขึ้น


กระตุ้นการสร้างหัวน้ำนมที่เรียกว่าน้ำนมเหลือง

agoramedia.com


• กระตุ้นน้ำนม การกอดทารกเป็นการกระตุ้นการสร้างหัวน้ำนมที่เรียกว่าน้ำนมเหลือง หรือโคลอสตรุ้ม (colostrum) คือน้ำนมที่หลั่งออกมาในช่วงเวลา 24–36 ชั่วโมงแรกหลังการคลอดเท่านั้น เป็นน้ำนมที่มีประโยชน์มหาศาล อุดมไปด้วยสารอาหารที่ทำหน้าที่เสริมสร้างและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กับมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงวัยชรานับว่าเป็นอาหารมื้อแรกที่มีคุณค่ามากที่สุดของชีวิตของวงจรการมีชีวิต

• ดูดนมแม่ได้มากขึ้นและดีกว่า เนื่องจากทารกในอ้อมกอดของคุณแม่ จะถูกกระตุ้นโดยสัญชาตญาณให้รู้ว่าจุดไหนคือเต้านมของคุณแม่ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของเขา มีแนวโน้มที่จะสามารถดูดนมแม่ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือใด ๆ และมีความเป็นไปได้ที่จะดูดนมได้ดีกว่าและนานกว่า การกอดของคุณแม่จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเสริมสร้างการดื่มนมแม่ให้กับทารกน้อย

• กระตุ้นระบบประสาทการรับรู้ โดยหลังจากที่ทารกคลอดออกมาแล้วได้รับการสัมผัสและกอดจากคุณแม่ จะเป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมองทุกส่วนของทารกให้ทำงาน แรงกระตุ้นจะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้ และมีพัฒนาการที่ดีตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต


อ้อมกอดแม่กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง

mommypotamus.com


จะเห็นได้ว่าการที่คุณแม่สัมผัสและกอดทารกหลังคลอดนอกจากจะช่วยเพิ่มความรักความผูกพันระหว่างคุณแม่และทารกน้อยแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมายอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะฉะนั้นแล้วนอกจากการเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดของคุณแม่แล้ว ช่วงเวลาหลังคลอดภายใน 1 ชั่วโมง ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังนั้นคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับช่วงเวลานี้ด้วยนะคะ