“เดี๋ยวพี่คนนั้นตี” “เดี๋ยวตำรวจจับ” “เดี๋ยวแม่ไม่รัก” คำขู่ยอดฮิตที่อันตรายต่อหัวใจของลูก

09 Feb 18 pm28 17:32

ปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่มักกลุ้มใจคือ เมื่อลูกเริ่มดื้อ เริ่มซน จะควบคุมลูกอย่างไรให้อยู่หมัด ซึ่งวิธียอดฮิตที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนมักเผลอทำก็คือ การขู่ลูกแบบไม่มีเหตุผล อย่างเช่น “อย่าซนนะ เดี๋ยวพี่คนนั้นตี” “ห้ามร้องไห้นะ เดี๋ยวตำรวจจับ” ร้ายไปกว่านั้นก็เช่น “อย่าทำแบบนี้นะ เดี๋ยวแม่ไม่รักเลย” คุณพ่อคุณแม่อาจรู้สึกว่า คำขู่แบบนี้สามารถควบคุมลูกได้ แต่จริงๆ แล้วมันกลับทำร้ายหัวใจของลูกน้อยมากกว่าที่คิด Happy Mom.Life อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทบทวนถึงผลที่จะตามมา ก่อนที่จะเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นกับลูกน้อยค่ะ



ขู่ลูกมากๆ ส่งผลร้ายต่อพัฒนาการเด็ก

pexels.com


ลูกเกิดความกลัวที่ไม่มีเหตุผล

หากคุณพ่อคุณแม่ชอบขู่ลูกโดยไม่มีเหตุผลที่สมควรรองรับ เช่น “ถ้าลูกร้องไห้ตำรวจจะมาจับ” “ถ้าไปเล่นไกลๆ ผีจะมาหลอก” จะทำให้เด็กเกิดความกลัวในสิ่งที่ไม่มีเหตุผลตามมา ซึ่งส่งผลลบโดยตรงต่อพัฒนาการด้านจิตใจของลูกรักเลยล่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น เด็กที่ฝังใจกับความกลัวอาจจะกลายเป็นความเครียด หรืออาการทางประสาทได้ เช่น เด็กที่กลัวผีมากๆ กลัวความมืดมากๆ จนเกิดอาการตัวสั่น ใจสั่น เป็นต้น


ลูกรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ

การขู่ลูกว่า หากลูกเป็นเด็กไม่ดีแล้วพ่อแม่จะไม่รัก ทำให้เด็กๆ เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจอย่างร้ายกาจ เด็กจะสับสน ไม่แน่ใจว่าตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ยังรักเขาอยู่ไหม ซึ่งความไม่มั่นใจนี่เองที่ทำให้เขากลัว และขัดขวางการเรียนรู้ ขัดขวางพัฒนาการตามวัยที่ดีของเด็กๆ และทำให้ลูกเป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่มีความสุข


ลูกเรียนรู้ว่าการใช้กำลังคือการแก้ปัญหา

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ชอบขู่ลูกว่า “หากลูกดื้อ จะโดนตี” ไม่ว่าจะตีจริงหรือไม่ก็ตาม คุณพ่อคุณแม่อาจต้องระวังหน่อย เพราะนั่นอาจเป็นการปลูกฝังความเชื่อว่า "การใช้กำลังเป็นการแก้ปัญหา" ทำให้เขาเติบโตมาเป็นคนที่ชอบใช้กำลังตัดสินปัญหาต่างๆ นอกจากนี้ เด็กอาจไม่เข้าใจเหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการลงโทษเขา จนอาจเกิดความรู้สึกเคียดแค้นขึ้นมาแทนได้ หากลูกดื้อ และคุณพ่อคุณแม่ต้องการตีเพื่อลงโทษจริงๆ ควรใช้มือตีลูกแบบไม่รุนแรงมาก เพื่อให้ลูกรู้ว่า เมื่อลูกเจ็บ คุณพ่อคุณแม่ก็เจ็บด้วยเช่นกัน


ลูกไม่เชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่

การขู่ลูกแบบไม่มีเหตุผลบ่อยๆ แรกๆ อาจทำให้ลูกรักเชื่อคุณและหยุดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้ แต่ในระยะยาว เมื่อลูกเรียนรู้ว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูดไม่เป็นความจริง ก็อาจจะทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อถือคำพูดของคุณพ่อคุณแม่ นำไปสู่ความเคารพในคำพูดของคุณพ่อคุณแม่ที่น้อยลงได้ในที่สุด



ไม่ขู่ลูก แต่สอนลูกได้

pexels.com


อ่านถึงตรงนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่อาจจะเริ่มไม่แน่ใจว่า เอ…แล้วแบบนี้เราควรจะจัดการลูกดื้อด้วยวิธีไหน ที่จะส่งผลดีต่อพัฒนาการ Happy Mom.Life ขอแนะนำดังนี้ค่ะ


-ไม่โยนความใจร้ายให้คนอื่น ด้วยการขู่ลูกว่าคนอื่นจะลงโทษ แต่ให้กล้าดุลูกตรงๆ อย่างชัดเจน และมีเหตุผล เช่น “แม่ไม่อยากให้หนูวิ่งเท้าเปล่า เพราะอาจจะถูกหินบาดเป็นแผลได้”


-ชื่นชมเมื่อลูกทำดี เพื่อให้ลูกรักรู้ว่า สิ่งไหนที่เขาทำแล้วจะได้รับรางวัลเป็นความชื่นชมของคุณพ่อคุณแม่ หรือบอกลูกไปตรงๆ ว่า "ถ้าหนูเก็บของเล่นเข้าที่ แม่จะชื่นชมหนูมากเลยค่ะ"


-เป็นตัวอย่างที่ดีของลูก พฤติกรรมไหนที่คุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ลูกน้อยทำ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไม่ทำค่ะ


-แสดงให้ลูกรู้ว่าคุณรักลูกเสมอ และทุกสิ่งที่คุณทำก็เพราะว่า คุณรักและเป็นห่วงลูกนั่นเอง แม้ว่าลูกจะทำในสิ่งที่ทำให้คุณผิดหวัง แต่คุณก็รักเขา โดยอาจบอกเขาว่า "สิ่งที่ลูกทำ ทำให้แม่เสียใจนะ แต่แม่ก็ยังรักลูกเสมอ"



เราเข้าใจว่าการเลี้ยงเด็กสักคนนั้นเป็นเรื่องยาก และค่อนข้างละเอียดอ่อนมากทีเดียว แต่แม้ว่าจะเหนื่อยและมีปัญหามากมายให้ต้องแก้ไข แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ย่อมอยากเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดีที่สุดใช่ไหมล่ะคะ ลองนำข้อแนะนำจากเราไปปรับใช้ดู หวังว่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ได้ค่ะHappy Mom.Lifeขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ