เพราะส่วนลับของผู้หญิงสำคัญ ดูแลสุขภาพน้องสาวโดยพลัน อย่าให้เหม็นเน่าคาวปลาหมึก
สุขภาพและสุขอนามัยของส่วนนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้หญิงหลายคนยังสับสนอยู่ว่าควรดูแลอย่างไรให้เหมาะสม บางคนกลัวน้องสาวสกปรกมาก จึงใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือสบู่อัดฉีดเข้าไปในช่องคลอด แต่กลับกลายเป็นเกิดการอักเสบติดเชื้อขึ้นมาเสียได้ Happy Mom.Life ได้นำเอาวิธีการดูแลสุขภาพและสุขอนามัยของน้องสาวอย่างถูกวิธีมาฝากค่ะ มาดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ ว่าควรทำอย่างไร ไม่ให้ส่วนนั้นของเราเหม็นเน่าคาวปลาหมึก จนสามีต้องเบือนหน้าหนี
elements.envato.com
กลิ่นเน่าคาวปลาหมึกมาจากไหน?
แน่นอนว่าไม่ได้มาจากทะเล! แต่กลิ่นตรงส่วนนั้นของผู้หญิงมาจากสาเหตุได้หลายปัจจัย เช่น
- แบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล โดบแบคทีเรียชนิดดีที่มีอยู่ตามธรรมชาติลดลง และมีแบคทีเรียอื่นมาแทนที่ ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นและการตกขาวได้
- การติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือโรคอื่นๆ เช่นมะเร็งบริเวณอวัยวะเพศ
- เกิดการหมักหมม สกปรกหรือเหงื่อบริเวณอวัยวะเพศ เช่น ความสกปรกบนกางเกงใน หรือการหมักหมมบริเวณขนอวัยวะเพศ
- การรับประทานอาหารกลิ่นแรงบางชนิด
ดูแลความสะอาดกางเกงชั้นในให้ดีๆ
elements.envato.com
วิธีการดูแลสุขภาพส่วนนั้นของผู้หญิง
กลิ่นบริเวณอวัยวะเพศนั้น นอกจากสร้างปัญหาให้คุณผู้หญิงแล้ว ยังอาจสร้างปัญหาให้ชีวิตคู่ได้อีกด้วยนะคะ ถ้าหากคุณไม่อยากถูกสามีสุดที่รักทำหน้ายี้ใส่เพราะกลิ่นบริเวณน้องสาวล่ะก็ เราขอแนะนำดังนี้ค่ะ
- อย่าสวนล้างช่องคลอด ประเภทฉีดทะลวงเข้าไปจะด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำสบู่ก็ไม่สมควรนะคะ
- หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่าความเป็นกรดด่างใกล้เคียงกับผิวคือ 5.5 และใช้เฉพาะภายนอกเท่านั้น เพราะภายในช่องคลอดมีวิธีทำความสะอาดด้วยตัวเองอยู่แล้ว
- อย่าทำความสะอาดส่วนล่างด้วยการเช็ดจากข้างหลังมาข้างหน้า เพราะอาจทำให้สิ่งสกปรกถูกกวาดมารวมตัวกันที่น้องสาวได้
- ไม่กินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ เพราะอาจจะทำให้แบคทีเรียดีๆ ตรงส่วนนั้นถูกทำลาย ทำให้เชื้อราเติบโตในช่องคลอดได้ง่ายขึ้น
- สวมชุดชั้นในที่ระบายอากาศได้ดี และไม่คับติ้วจนเกินไป
- ในช่วงมีประจำเดือน ควรหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม เราอยากให้คุณผู้หญิงคอยสำรวจ ใส่ใจตัวเองอยู่เสมอ เพราะนอกเหนือจากปัญหาเรื่องความสะอาดแล้ว ยังอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้อวัยวะเพศมีกลิ่นได้ เช่น การตั้งครรภ์ หรือโรคต่างๆ หากพบว่ามีความผิดปกติ อย่าได้นิ่งนอนใจ รีบไปพบคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการให้ชัวร์จะดีที่สุดค่ะ