รู้ 4 วิธีตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองในเบื้องต้นให้ได้ผลชัวร์ ไม่โป๊ะแตก

เมื่อสงสัยว่าตัวเองจะตั้งครรภ์หรือไม่ วิธีการที่นิยมนำมาใช้ก็คือการซื้อที่ตรวจครรภ์หรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจ เพราะเป็นวิธีการตรวจในเบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สะดวก รวดเร็ว ราคาไม่แพง หาซื้อง่ายที่ร้านขายยาทั่วไป รวมถึงร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven ซึ่งให้ผลแม่นยำถึง 90% ไม่ว่าจะกำลังเตรียมตัวเพื่อเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ หรืออ่านไว้เพื่อเป็นความรู้ Happy Mom.Life มีข้อมูลมาให้ดูกันค่ะว่าจริง ๆ แล้วที่ตรวจครรภ์นั้นมีกี่แบบ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน งานนี้จะไม่โป๊ะแตกกันเนอะ

รู้วิธีตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองได้ผลชัวร์ ไม่โป๊ะแตก

ตรวจปัสสาวะให้ได้ผลแม่นยำต้องตอนเช้าหลังตื่นนอน

ที่ตรวจครรภ์ หรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์ สามารถจะทดสอบหาฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ในปัสสาวะ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะเริ่มผลิตหลังจากที่มีการปฏิสนธิไปแล้วประมาณ 6 วัน มีความแม่นยำมากถึง 90% สามารถใช้ตรวจได้ตั้งแต่ประจำเดือนขาดหายไป 1 วัน  และจะแม่นยำในรายที่มีการขาดประจำเดือนตั้งแต่วันที่ 10-14 ขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลการทดสอบที่ชัดเจนและแม่นยำ ควรตรวจจากปัสสาวะแรกของวันในช่วงเช้าหลังตื่นนอน เนื่องจากปัสสาวะจะมีความเข้มข้นสูงสุด  

ตรวจการตั้งครรภ์

รู้จักที่ตรวจครรภ์ทั้ง 4 แบบ พร้อมอุปกรณ์ครบชุด

ชุดทดสอบการตั้งครรภ์จะมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตรวจมาให้พร้อม ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ

1. ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม (Test Strip) มาพร้อมอุปกรณ์ 2 ชิ้น คือ แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ มีลักษณะเป็นแผ่นยาว ๆ และถ้วยตวงปัสสาวะ วิธีการทดสอบให้เริ่มจากการเก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง จากนั้นให้นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ด้านที่มีลูกศรชี้ลงจุ่มลงไปประมาณ 3-5 วินาที โดยปัสสาวสะต้องไม่เกินขีดที่กำหนดไว้ในแผ่นทดสอบ จากนั้นนำออกมาวางพักไว้ในแนวนอน บนพื้นที่แห้งสนิท แล้วรอการอ่านผลประมาณ 5 นาที (ราคาประมาณ 100-140 บาท)

2. ที่ตรวจครรภ์แบบหยด (Pregnancy Test) Cassette) มาพร้อมอุปกรณ์ 3 ชิ้น คือ ตลับทดสอบการตั้งครรภ์ ถ้วยตวงปัสสาวะ และหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะ วิธีการทดสอบให้เริ่มจากการเก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง จากนั้นให้นำหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะในปริมาณที่พอเหมาะ และหยดน้ำปัสสาวะ 3-4 หยดลงในตลับทดสอบ แล้วรอการอ่านผลประมาณ 5 นาที  (ราคาประมาณ 140-180 บาท)  

 

ลุ้นผลการตรวจด้วยที่ตรวจครรภ์ 

3. ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) มาพร้อมอุปกรณ์เป็นแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ วิธีการทดสอบให้ถอดฝาครอบออกพร้อมกับถือแท่งทดสอบโดยให้หัวลูกศรชี้ลง จากนั้นปัสสาวะผ่านบริเวณที่ดูดซับน้ำปัสสาวะซึ่งจะอยู่บริเวณต่ำกว่าลูกศร ถือหรือวางแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ไว้ในแนวราบ และรอการอ่านผลประมาณ 5 นาที แบบนี้ถือว่าสะดวกกว่าแบบอื่น เพราะไม่ต้องเก็บปัสสาวะในถ้วยตวง (ราคาประมาณ 180-200 บาท)

4. ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิตอล (Digital Pregnancy Test) วิธีการทดสอบจะเหมือนกับที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน แต่การแสดงผลนั้นจะใช้ระบบดิจิตอล ด้วยการทำงานของอุปกรณ์ตัวชี้วัด Smart Dual Sensor ที่จะบอกได้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ และยังแสดงจำนวนสัปดาห์การตั้งครรภ์ โดยนับจากที่ไข่มีการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนได้อีกด้วย (ราคาสูงประมาณ 500-1,000 บาท)  

ได้เป็นคุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่สมใจ

pinterest.com

ผลการทดสอบที่ตรวจครรภ์บอกได้... ท้อง-ไม่ท้อง

หลังจากรู้วิธีการตรวจครรภ์ด้วยตัวเองในเบื้องต้นกันแล้ว มาถึงผลการทดสอบกันบ้าง โดยขีด C คือ Control Line ส่วนขีด T คือ Test Line การอ่านผลการทดสอบจะต้องอ่านภายใน 5 นาที เพราะถ้าเร็วกว่านี้หรือปล่อยทิ้งไว้ให้นานกว่านี้ผลอาจคลาดเคลื่อนได้

• แถบขึ้น 1 ขีด หรือมีขีดขึ้นที่ตัว C หมายถึง ไม่ตั้งครรภ์
• แถบขึ้น 2 ขีด หมายถึง ตั้งครรภ์
• แถบขึ้น 1 ขีดที่ตัว T หรือ ไม่มีแถบขึ้น หมายถึง อ่านค่าไม่ได้ ซึ่งเกิดได้จากใช้วิธีการทดสอบไม่ถูกวิธีหรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์เสีย

สังเกตขีดที่ขึ้นบ่งบอกว่าท้องหรือไม่ท้อง

mingraviditet.dk

แม้ที่ตรวจครรภ์หรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์นี้จะให้ผลแม่นยำถึง 90% แต่เพื่อความชัวร์ 100% ควรตรวจซ้ำกับคุณหมอที่โรงพยาบาล เพราะที่ตรวจครรภ์หรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์ เป็นเพียงอุปกรณ์การตรวจในเบื้องต้นเท่านั้น