“4 อย่า” แก้ปัญหาลูกฉี่รดที่นอนได้สำเร็จ

20 Aug 18 am31 10:58

ในวัยเด็กเชื่อว่าทุกคนคงต้องเคยผ่านช่วงเวลาฉี่รดที่นอนมาแล้ว แม้จะจดจำช่วงเวลานั้นได้อยู่หรือไม่ได้แล้ว แต่เมื่อได้มาเป็นแม่แล้วต้องมาเจอกับปัญหาฉี่รดที่นอนของลูกรักก็แอบมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย เพราะถึงแม้จะดูเป็นปัญหาที่ไม่ร้ายแรง แต่ถ้าลูกอายุเกิน 5 ขวบแล้วยังฉี่รดที่นอนอยู่แบบนี้ คุณแม่คงไม่สามารถนิ่งนอนใจ ต้องรีบหาทางแก้ปัญหาแล้วล่ะค่ะ แต่ก่อนจะไปดูวิธีการแก้ปัญหาลูกรักฉี่รดที่นอน Happy Mom.Life จะพาไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหากันก่อนค่ะ 


ลูกฉี่รดที่นอนอีกแล้ว

additudemag.com

 

การฉี่รดที่นอนอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งความไม่พร้อมของระบบประสาทในการควบคุมการปัสสาวะเวลากลางคืน การที่คุณแม่ไม่ได้ฝึกเรื่องการขับถ่ายของลูกตามวัยอันควร ความเครียดและปัญหาทางจิตใจ เหล่านี้อาจส่งผลให้ลูกฉี่รดที่นอนได้ทั้งสิ้น แต่การฉี่รดที่นอนจะค่อย ๆ หายไป เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น หากโตขึ้นแล้วยังไม่หายแนะนำให้พาลูกรักไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจปัสสาวะหาความผิดปกติ โดยแพทย์จะพิจารณาให้ยาเพื่อช่วยให้ปัญหาการฉี่รดที่นอนลดลง พร้อม ๆ กับการให้คำแนะนำในหลากหลายวิธี เพื่อแก้ไขปัญหาการฉี่รดที่นอนของลูกให้สำเร็จ 


อย่าลืม

นอกจากกดูแลของคุณแม่แล้ว คุณแม่อย่าลืมฝึกให้การปัสสาวะรดที่นอนเป็นความรับผิดชอบของเด็กเองด้วยนะคะ โดยอาจให้ลูกรักบันทึกอาการปัสสาวะรดที่นอนด้วยตนเอง ลุกขึ้นมาปัสสาวะเองถ้ารู้สึกปวดปัสสาวะ และให้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนหรือทำความสะอาดเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอน ซึ่งเด็กจำนวนหนึ่งปัสสาวะรดที่นอนลดลงมากหลังจากให้เริ่มบันทึกด้วยตนเอง

อย่าปลุก

คุณแม่ไม่ควรปลุกให้ตื่นตอนกลางดึก ด้วยความที่กลัวว่าลูกรักจะปัสสาวะรดที่นอน เพราะถึงแม้ว่าคุณแม่จะปลุกและพาลูกน้อยไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนก็ตาม แต่ลูกน้อยก็ยังคงกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ขณะที่ปัสสาวะอยู่ดี ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการปัสสาวะรดที่นอนเลย นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว การปลุกลูกเช่นนี้ยังเป็นการขัดจังหวะการนอนของลูกรักอีกด้วย 


ลูกหลับสบาย ไม่ตื่นกลางดึก

medicalnewstoday.com


อย่าดุ

การปัสสาวะรดที่นอนไม่ใช่เรื่องผิด เพราะลูกน้อยไม่ได้ตั้งใจและไม่สามารถควบคุมได้ การดุด่าว่ากล่านั้นจึงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเครียดให้ทั้งตัวคุณแม่และลูก  แม้ว่าจะผิดหวัง ลูกรักยังคงฉี่รดที่นอนอยู่ ก็ไม่ควรคิดหรือพูดออกมาว่า "ฉี่รดอีกแล้วหรอ!" แต่ขอให้คุณแม่อดทนและแก้ไขด้วยวิธีเหล่านี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เฝ้าดูพัฒนาการลูกที่เลิกฉี่รดที่นอนได้สำเร็จในที่สุด

อย่าเร่ง

อย่างที่บอกบอกว่าการดุลูก หรือหงุดหงิดใส่ลูกเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และก็ไม่ควรที่จะเอาลูกรักไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น ด้วยนะคะ อีกอย่างไม่ควรเครียด อย่าเร่งจนเกินไป เน้นการแก้ปัญหาฉี่รดที่นอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป รอคอยวันที่ลูกน้อยเติบโต คอยให้กำลังใจ ชื่นชมลูกในวันที่ไม่ได้ฉี่รดที่นอน และอาจให้รางวัลลูกเพิ่มเติม ถ้าทั้งเดือนนั้นลูกไม่ฉี่รดที่นอนเลย แม้จะเป็นการแก้ปัญหาอย่างไม่รีบเร่ง แต่เชื่อว่าเห็นผล ลูกเลิกฉี่รดที่นอนได้แน่นอน


เย้! ไม่ฉี่รดที่นอนแล้ว

additudemag.com


เพราะเด็กไม่อยากให้ตนเองปัสสาวะรดที่นอนเหมือนกัน แต่เนื่องจากไม่สามารถควบคุมได้ จึงไม่ได้เป็นความผิดของเด็ก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการลงโทษโดยไม่เหมาะสม เพราะอาจทำให้เด็กได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจจากการปัสสาวะรดที่นอน เกิดความรู้สึกอับอาย ขาดความมั่นใจในตัวเอง วิตกกังวล เป็นต้น เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรกดดันลูกในช่วงที่ลูกรักฉี่รดที่นอน แต่ควรเฝ้าดูพัฒนาการของลูกและหาทางแก้ไขอย่างถูกวิธี