5 เรื่องที่พ่อแม่ต้องเตรียมพร้อม ถ้าวางแผนจะส่งลูกเรียน “โรงเรียนสองภาษา”

18 Oct 18 pm31 13:29

ในยุคที่โลกกว้างดูเหมือนจะแคบลง เพราะการติดต่อสื่อสารข้ามประเทศเป็นเรื่องสะดวกและง่ายดาย การฝึกเด็กๆ ให้สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องธรรมดามากๆ (แถมในบางกรณียังมีภาษาที่ 3 ภาษาที่ 4 ตามมาอีกด้วยนะคะ) คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่หลายคนจึงสนใจส่งลูกเรียนที่โรงเรียนสองภาษา เพื่อหวังจะช่วยให้ลูกสามารถสื่อสารภาษาที่สองได้ดี ควบคู่ไปกับการเรียนที่มีคุณภาพ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนอยากให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนสองภาษา Happy Mom.Life มี 5 เรื่องที่ต้องเตรียมพร้อม ก่อนส่งลูกเรียนโรงเรียนสองภาษามาฝาก เพื่อให้การส่งลูกเรียนครั้งนี้ คุ้มค่า และมีคุณภาพมากที่สุดนั่นเองค่ะ


หากลูกสามารถสื่อสารได้หลายภาษา ลูกก็มีโอกาสเติบโตก้าวหน้าได้มากกว่าเด็กคนอื่น แต่หน้าที่สอนภาษา ไม่ใช่หน้าที่ของ “โรงเรียนสองภาษา” เพียงฝ่ายเดียว…


1. ฝึกลูกให้รู้คำศัพท์เยอะๆ

การเรียนโรงเรียนสองภาษานั้น เด็กๆ จะต้องเรียนกับครูชาวต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษ การที่เด็กๆ มีพื้นฐานคำศัพท์ที่ดีมาตั้งแต่ยังเล็กๆ จึงเป็นตัวช่วยให้เด็กๆ เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกได้ด้วยการปูพื้นคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ เช่น อาจเล่านิทานภาษาอังกฤษให้ลูกฟัง เปิดเพลงภาษาอังกฤษ หรือหากคุณพ่อคุณแม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ก็อาจสื่อสารกับลูกด้วยภาษาอังกฤษควบคู่กับภาษาไทยตั้งแต่ลูกยังเล็ก


2. พูดคุยกับลูกทั้ง 2 ภาษา

คุณพ่อคุณแม่บางคนเข้าใจว่า หากอยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษต้องไม่สื่อสารภาษาไทยกับลูก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดนะคะ คุณพ่อคุณแม่สามารถสื่อสารกับลูกโดยใช้ภาษาทั้งสองภาษาควบคู่กันไปได้ และเป็นการดีเสียอีก เพราะงานวิจัยบอกว่า หากลูกคล่องภาษาแม่แล้ว จะทำให้การเรียนรู้ภาษาที่สองลื่นไหลขึ้นอีกด้วยค่ะ


 

3. สอนลูกเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม

นอกจากเรื่องของการใช้ภาษาแล้ว เมื่อเด็กๆ ถูกส่งเข้าไปเรียนในโรงเรียนสองภาษา เด็กๆ อาจจะต้องพบกับวัฒนธรรมที่แตกต่างระหว่างครูไทยและครูต่างชาติ คุณพ่อคุณแม่จึงอาจค่อยๆ ปูพื้นฐานตรงนี้ให้ลูกเข้าใจไว้ด้วย เพื่อที่เด็กๆ จะได้ไม่สับสน และสามารถวางตัวได้ถูกกาลเทศะ ไม่เป็นปัญหาต่อไปในอนาคตค่ะ


4. วางแผนการเรียนอย่างต่อเนื่อง

การเรียนโรงเรียนสองภาษาที่ได้ผลดี เด็กๆ ควรได้เรียนอย่างต่อเนื่อง เพราะหากเรียนแล้วหยุดไปแล้วต้องกลับเข้าสู่ระบบการเรียนปกติ อาจทำให้การพัฒนาด้านภาษาที่สองหยุดชะงักลงได้ค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนสองภาษา จึงต้องมีการวางแผนทั้งด้านการเงิน และด้านอื่นๆ เพื่อให้ลูกมีโอกาสได้เรียนอย่างต่อเนื่องด้วยค่ะ


5. ตามหาโรงเรียนสองภาษาที่เหมาะกับลูก

อีกเรื่องหนึ่งที่ลืมไม่ได้ ก็คือการตามหาโรงเรียนสองภาษาที่เหมาะกับเด็กๆ เพราะในปัจจุบันนี้ เรามีโรงเรียนสองภาษาหลายโรงเรียน หลายหลักสูตร คุณพ่อคุณแม่จึงอาจต้องเลือกดูว่า ที่ไหนจะเหมาะกับลูกที่สุด ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทาง คุณภาพครู คุณภาพการสอน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้ลูกสามารถเรียนได้อย่างต่อเนื่องและมีความสุขด้วยค่ะ


สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจเลือกโรงเรียนสองภาษาให้เป็นแหล่งพัฒนาดูแลลูกรัก ลองเริ่มจากการเตรียมพ้อมด้วย 5 ข้อที่เรานำมาฝากในวันนี้ก่อนนะคะ เพื่อที่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่จะได้ส่งลูกไปเรียนได้อย่างสบายใจหายห่วงนั่นเองค่ะ