เมื่อลูกถึงวัยประมาณ 9-10 เดือน ...เด็กๆ จะเริ่มมีพัฒนาการตามวัยที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ตื่นเต้นขึ้นอีกขั้น นั่นคือการ “ตั้งไข่” ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่า ลูกกำลังเริ่มเข้าสู่วัยที่เขาจะก้าวเดินด้วยสองขาของตัวเองแล้ว ในช่วงเวลาสำคัญนี้ คุณพ่อคุณแม่คือกำลังใจที่ดีของลูกรักนะคะ Happy Mom.Lifeขอรวบรวมเอาเทคนิคฝึกลูกตั้งไข่มาฝาก ให้คุณพ่อคุณแม่ลองเอาไปปรับใช้กับเด็กๆ ดูค่ะ 

1. บริหารขาให้ลูกแข็งแรง

คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยบริหารขาให้ลูกได้ ตั้งแต่เด็กอายุราวๆ 3 เดือนขึ้นไป เช่น ช่วยนวดขา หรือจับขาลูกทำท่าปั่นจีกรยานกลางอากาศ สำหรับเด็กวัยหัดคลาน คุณพ่อคุณแม่อาจกระตุ้นการคลานให้ลูก โดยให้ลูกบอลกลิ้งไปด้านหน้าให้ลูกคลานตาม หรือให้ลูกนั่งบนขาของคุณแม่ โดยหันหน้าอกพิงกับขา และคุณแม่ค่อยๆ ยกขาขึ้นลง เพื่อให้ลูกรู้สึกสนุก และใช้ขาของตัวเองช่วยยันพื้นตามขึ้นมาด้วย หากลูกมีพัฒนาการกล้ามเนื้อขาที่ดี

2. จูงมือเดินไปด้วยกันช้าๆ

คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเสริมพัฒนาการตามวัยให้ลูกรักได้ โดยช่วยประคองด้วยการจับข้อศอกหรือจับมือลูกยืนขึ้น เพื่อให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และอาจช่วยส่งเสียงร้องเพลงเป็นจังหวะเพื่อให้ลูกรู้สึกสนุกสนาน วิธีนี้จะช่วยเสริมพัฒนาการให้ลูกได้ดีขึ้น แนะนำให้ทำท่านี้วันละ 4-5 ครั้งค่ะ

จูงมือเดินไปด้วยกันช้าๆ

3. ฝึกให้ลูกเดินเข้าหา

เมื่อลูกเริ่มก้าวเดินได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีการหลอกล่อให้ลูกรักเดินเข้าหาในระยะใกล้ๆ หรือใช้ของเล่นเป็นเครื่องมือช่วยฝึกให้ลูกเดินเข้ามาหา ให้เด็กๆ ได้ฝึกก้าวย่างด้วยตนเอง

4. เคลียร์พื้นที่ให้ปลอดภัย

คุณพ่อคุณแม่ต้องทำใจว่า ช่วงตั้งไข่เป็นช่วงที่ลูกอาจจะต้องเจ็บตัว ล้มลุกคลุกคลานอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดก็เป็นไปตามธรรมชาติของเด็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกได้ด้วยการเคลียร์พื้นที่ในบ้านให้ปลอดภัย เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดกับลูกนั่นเองค่ะ

5. ให้กำลังใจ

สำหรับเด็กๆ แล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้รับกำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ให้เขาก้าวเดินด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ แม้ว่าเขาจะต้องล้มหลายครั้ง หรือก้าวเดินช้าไม่ทันใจ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรตัดปัญหาด้วยการเดินเข้าไปอุ้ม แต่ให้คอยให้กำลังใจลูกให้ก้าวเดินด้วยตัวเอง แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเห็นพัฒนาการตามวัยที่น่ามหัศจรรย์จากลูกอย่างแน่นอนค่ะ

ช่วงตั้งไข่ เป็นอีกหนึ่งช่วงสำคัญที่จะเปลี่ยนผ่านจากเด็กน้อยที่ต้องพึ่งพาคุณพ่อคุณแม่ไปสู่การก้าวย่างเพื่อเรียนรู้โลกอย่างอิสระด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม การที่ลูกได้รู้ว่ายังมีคุณพ่อคุณแม่ที่ก้าวเดินเคียงข้างคอยดูแลเขาก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากเด็กๆ ได้รับความอุ่นใจมากพอ เขาก็จะมีความกล้าหาญในการเรียนรู้โลกกว้างมากขึ้นนั่นเองค่ะ