ในยุคนี้มีคุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนที่ต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ...จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ Happy Mom.Life ก็เชื่อว่า ผู้หญิงทุกคนมีความสตรอง และสามารถก้าวเดินหน้าได้อย่างเข้มแข็งแน่นอนค่ะ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องควบตำแหน่งคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไปด้วยนั้น แรกๆ อาจจะยังทำตัวไม่ถูก ตั้งหลักไม่ได้ วันนี้เราจึงรวบรวมเอา 7 วิธีรับมือ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องควบตำแหน่งคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในคราวเดียวกันมาฝากค่ะ
เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในร่างกายของคุณ ขอให้คุณภาคภูมิใจว่าคุณกำลังทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ความรักจะปกป้องคุณจะความหวาดกลัว และคุณจะเข้มแข็งได้มากกว่าที่ตัวเองคิด
นอกจากคุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายมากมายแล้ว ฮอร์โมนในร่างกายยังอาจส่งผลให้มีอาการเศร้าซึม อ่อนไหว แต่เชื่อเถอะค่ะว่า มีคุณแม่ตั้งครรภ์อีกมากมายที่แข็งแกร่งได้ด้วยตัวเอง ถ้าคุณก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไปได้ คุณจะภูมิใจในตัวเองมากจริงๆ และต่อไปนี้ คือวิธีที่เราอยากแนะนำคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ
ฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด
ไม่จำเป็นต้องรอให้คุณสามีพาไป เพราะการฝากครรภ์สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หยุดการรอคอยแล้วรีบพาลูกน้อยไปให้คุณหมอดูแลโดยด่วนค่ะ เมื่อคุณแม่ฝากครรภ์กับคุณหมอ คุณแม่ก็เหมือนมีเพื่อนที่มีความรู้คอยช่วยเหลือดูแลเป็นทีมเดียวกัน คุณจะได้ที่ปรึกษาที่ดี ในการดูแลทารกในครรภ์ให้แข็งแรง และไม่จำเป็นต้องอายที่จะบอกคุณหมอว่า คุณเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะหากคุณหมอรู้รายละเอียดในเรื่องนี้ อาจจะมีคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยคุณได้เป็นกรณีพิเศษ
ซื้อของเด็กอ่อนเตรียมไว้
คุณควรเตรียมการต้องรับลูกน้อยเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อาจทำให้คุณเดินทางลำบากมากขึ้น ของเด็กอ่อนนี้ อาจไม่จำเป็นต้องเยอะมากมาย แต่ให้เลือกที่จำเป็นต้องใช้ก่อนก็ได้ค่ะ การเตรียมพร้อมอย่างนี้ทำให้คุณสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้ เมื่อถึงวันคลอด
ซื้อของให้ลูกรัก
หาทีมช่วยดูแล
ไม่ว่าคุณจะสตรองขนาดไหน แต่การมีทีมช่วยเหลือย่อมดีกว่า หากไม่สามารถพึ่งพาสามีได้ ครอบครัว หรือเพื่อนๆ อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ถ้าเป็นไปได้ ให้กลับไปอยู่กับครอบครัว เพื่อที่จะได้มีคนช่วยดูแล รวมไปถึงช่วยเลี้ยงลูกน้อยที่จะคลอดออกมาในอนาคต
หาแผนสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉิน
เราไม่อาจมั่นใจได้ 100% ว่าทารกในครรภ์จะคลอดตอนไหน หรือระหว่างการตั้งครรภ์จะมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะฉะนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์จึงต้องมีแผนสำรองเตรียมไว้ เช่น มีเบอร์โทรศัพท์เพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดตั้งเอาไว้ให้เป็นเบอร์ฉุกเฉิน ในกรณีที่คุณต้องการโทร.หาเพื่อให้เขาพาคุณไปโรงพยาบาลด่วนที่สุด
ทำใจให้สบายๆ โฟกัสที่ลูก
ทำใจให้สบายๆ โฟกัสที่ลูก
เข้าใจค่ะว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำใจให้สบายๆ และไม่เครียด แต่ความเครียดนั้นส่งผลร้ายต่อทารกในครรภ์มากทีเดียวนะคะ ทั้งในด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพราะมีผลการวิจัยออกมาแล้วว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์เครียด ก็จะทำให้ทารกเกิดมามีนิสัยอ่อนไหวง่าย ขี้หงุดหงิดง่ายด้วยเช่นกัน ณ จุดนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์จึงต้องฝึกตัดเรื่องที่ไม่สำคัญออกไปก่อน ให้โฟกัสที่ลูก และทำทุกอย่างเพื่อให้ทารกในครรภ์แข็งแรง สมบูรณ์ที่สุด
ดูแลตัวเองให้ดี
การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ปล่อยเนื้อปล่อยตัว จมอยู่กับความเครียด ความรู้สึกแย่ๆ และไม่ใส่ใจตัวเอง ไม่กินอาหารดีๆ ไม่ออกกำลังกายเลย ทั้งหมดนี้ล้วนมีแต่ส่งผลลบทั้งแต่ตัวคุณแม่เอง และลูกน้อย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ก็ต้องฮึบ! เข้าไว้ ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองให้ดี ผลพลอยได้จากเรื่องนี้จะทำให้คุณเริ่มมีความสุขมากขึ้น มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น เห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น และแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยค่ะ
ลองพูดคุยกับคนหัวอกเดียวกัน
เชื่อเถอะค่ะว่า คุณไม่ได้เป็นคนเดียวในโลกที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้อยู่ ถ้าคุณรู้สึกน้อยใจโชคชะตา รู้สึกเหนื่อยมากๆ อาจลองหาเพื่อนที่ประสบชะตากรรมคล้ายๆ กัน แลกเปลี่ยนความคิด ช่วยกันแก้ปัญหา มองดูคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายๆ คนที่ยังแข็งแกร่งอยู่ และให้พวกเขาเป็นไอดอลของคุณดูสิคะ
การรับหน้าที่เป็นทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในคราวเดียวกันนั้นอาจเป็นเรื่องยาก แต่ขอให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ภาคภูมิใจ เพราะคุณกำลังทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่เพื่อลูกรัก เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการมอบพลังใจให้คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกคน ให้เข้มแข็ง และผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆ ไปได้ด้วยดีค่ะ
กรุณากรอกข้อมูลในฟอร์มด้วยข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้เราสามารถยืนยันบัญชีของคุณได้
https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/