คุณแม่ตั้งครรภ์คงมีความกังวลใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะเกี่ยวกับการคลอด ยิ่งถ้าเป็นท้องแรกด้วยแบบนี้ก็ยิ่งกังวลคูณสอง ต่อให้เตรียมตัวมาดี ศึกษาหาข้อมูล ถามผู้มีประสบการณ์มาก็แล้ว อาจจะช่วยให้คลายความกังวลไปได้ หรือไม่ก็อาจจะสร้างความวิตกกังวลมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในการคลอดธรรมชาติที่ต้องเบ่งคลอดเองด้วยแล้ว ก็เลยไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไปได้ฉลุย

แต่ไม่ยากเกินความสามารถของคุณแม่หรอกค่ะ เพราะอุ้มท้องมาตลอด 9 เดือนจนมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่ต่อให้เจ็บท้องติดต่อกันนาน แต่ใกล้จะได้เห็นหน้าลูกรักที่ออกมาลืมตาดูโลกแบบนี้ แม่ทนได้! สลัดความกลัวและวิตกกังวลทิ้งไปและมาดูวิธีที่จะช่วยให้คุณแม่คลอดง่ายขี้นที่ Happy Mom.Life นำมาฝากกันค่ะ

1.นอนหลับให้เพียงพอ

คุณแม่ควรพยายามนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารสูตินรีเวชอเมริกาชี้ให้เห็นว่า คุณแม่ใกล้คลอดโดยเฉพาะช่วงเดือนสุดท้ายที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน จะใช้เวลาในการคลอดนานกว่า 11 ชั่วโมง และมีแนวโน้มที่จะต้องผ่าคลอดมากกว่า 4 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับคุณแม่ที่นอนอย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง เป็นเหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อการคลอดที่ง่ายขึ้น

คุณแม่ตั้งครรภ์ยากคลอดง่ายต้องรู้วิธี

2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

เดี๋ยวนี้คุณแม่ตั้งครรภ์หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้หุ่นกลับมาฟิตเฟิร์มโดยเร็ว โดยวิธีการออกกำลังกายเในระหว่างตั้งครรภ์ที่คุณแม่สามารถทำได้ มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินเบา ๆ วันละประมาณ 20-30 นาที ว่ายน้ำ หรือโยคะสำหรับคนท้อง โดยสามารถขอคำแนะนำจากคุณหมอที่ดูแลครรภ์ได้นะคะ โดยการออกกำลังกายนั้น นอกจากจะทำให้ร่างกายของคุณแม่แข็งแรงแล้ว อุ้งเชิงกรานก็จะแข็งแรง และมีความอดทนต่อการเจ็บท้องคลอดมากกว่าคุณแม่ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย

3.กินอินทผลัมช่วงใกล้คลอด

คุณแม่หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าการกินอินทผลัมนั้นช่วยให้คลอดง่ายขึ้น เพราะในอินทผลัมมีสารที่ชื่อว่าออกซิโตซิน ซึ่งออกฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการบีบและหดตัวของมดลูก และมีการทดลองทางการแพทย์พบว่า คุณแม่ที่รับประทานอินทผลัมเป็นประจำช่วงใกล้คลอด มีปริมาณความต้องการใช้ยากระตุ้นในการคลอดน้อยกว่าผู้ไม่ได้รับประทาน และยังคลอดง่ายอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงเดือนที่ 8 ถึงช่วงใกล้คลอด แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานอินทผลัมเป็นอาหารว่าง ประมาณ 4 – 6 ผลต่อวัน จะได้คลอดง่าย ๆ นะคะ

4. ฝึกการหายใจ

จังหวะการหายใจที่ถูกต้องจะช่วยได้มากในเรื่องของแรงเบ่ง  คุณแม่บางคนตั้งสติไม่ได้ร้องโวยวาย ก็ยิ่งทำให้ลมเบ่งหมดเร็วและไม่ทันได้เก็บลมเบ่งไว้ถูกที่ถูกเวลา  ซึ่งวิธีการฝึกลมหายใจที่ถูกนี้คุณแม่ควรหาข้อมูลและฝึกการหายใจบ่อย ๆ เมื่อถึงเวลาคลอดก็จะสามารถปฏิบัติได้โดยอัตโนมัติ เพราะเตรียมตัวฝึกมาดีจนรู้จังหวะการหายใจ ก็จะทำให้การเบ่งคลอดนั้นง่ายและใช้เวลาในการคลอดไม่นาน

คุณแม่ตั้งครรภ์ผ่อนคลายความกลัว เตรียมพร้อมคลอด

5. ผ่อนคลายความกลัว

ความคิดที่ว่าการคลอดเป็นเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ในชีวิต และคำแนะนำมากมายหลายอย่าง ยิ่งทำให้คุณแม่มือใหม่สับสน เครียด และกลัวมากขึ้น การผ่อนคลายความกลัวจะช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่และลูก คือการเข้าคลาสเตรียมคลอดอาจช่วยให้คุณคลายกังวลและเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด นอกจากนี้แล้วควรทำใจให้สบาย อย่าเครียด เพราะการที่คุณแม่ท้องมีความสุขจิตใจสงบ จะช่วยให้คลอดง่าย ดังนั้นจึงควรเริ่มดูแลสภาพจิตใจตั้งแต่ตั้งท้อง มองโลกในแง่ดี สวดมนต์ไหว้พระ หรือหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หมั่นคุยกับลูกและสามีบ่อย ๆ เพราะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญสำหรับคุณแม่นะคะ

6.แช่หรืออาบน้ำอุ่น

 การนอนแช่น้ำอุ่นถือได้ว่าเป็นสุดยอดการผ่อนคลายสำหรับคุณแม่ และยังช่วยลดความเครียดของคุณแม่ได้อีกด้วยค่ะเนื่องจากความอุ่นและคุณสมบัติในการพยุงตัวของน้ำ ช่วยปลอบประโลมและผ่อนคลายร่างกายที่ตกอยู่ในสภาพเครียดสุด ๆ ได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณแม่มีอ่างอาบน้ำ แต่ถ้าไม่มีอ่างอาบน้ำ การอาบน้ำฝักบัวก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน

7. เตรียมความพร้อม

การเตรียมพร้อมก่อนถึงกำหนดคลอด เช่น จัดข้าวของที่ต้องใช้ใส่กระเป๋าเตรียมไว้ รวมถึงเลือกเพลงที่จะช่วยผ่อนคลายระหว่างการคลอด และตระเตรียมสิ่งที่ต้องทำหลังจากกลับจากโรงพยาบาลแล้ว อีกทั้งควรจะทำความเข้าใจกับบทบาทคุณพ่อมือใหม่ให้เตรียมความพร้อมในการช่วยกันเลี้ยงทารกน้อยที่เพิ่งลืมตาออกมาดูโลกด้วยนะคะ

ทั้งนี้แล้ว ในเวลาคลอดลูกคุณแม่ตั้งครรภ์จะเจ็บท้องกันมาก และการรอคลอดก็ยาวนานหลายชั่วโมง คุณแม่จึงต้องเตรียมตัวเตรียมกายให้พร้อมก่อนไปคลอดนะคะ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อถึงเวลาที่คุณแม่ได้ทำการเบ่งคลอดลูกออกมาแล้ว คุณแม่จะลืมความรู้สึกเจ็บปวดกับช่วงเวลารอคลอดที่ผ่านมาไปเลยล่ะ เพราะดีใจที่ได้พบหน้าลูกรักนั่นเอง