เมื่ออายุครรภ์เข้าเดือนที่ 4 เป็นต้นไป ท้องคุณแม่จะเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างรวดเร็ว แม่ท้องหลายคนจึงประสบปัญหาเป็นตะคริวบ่อยๆ ซึ่งสร้างความทรมานไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ Happy Mom.Life จึงนำวิธีการลดปัญหาแม่ท้องเป็นตะคริวบ่อยมาฝากค่ะ

อาการเป็นตะคริวระหว่างตั้งครรภ์ เกิดขึ้นเพราะคุณแม่มีน้ำหนักตัวมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อขาต้องแบกรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น นอกจากนี้หน้าท้องที่ขยายใหญ่ อาจไปกดทับเส้นเลือดทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จึงถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็สามารถลดปัญหานี้ได้ ด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง

1. ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากๆ

การเกิดตะคริวอาจเกิดจากการที่ร่างกายขาดน้ำ คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้ได้วันละ 8-10 แก้ว นอกจากช่วยลดปัญหาตะคริวแล้ว ยังดีต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์อีกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอจึงเป็นเรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้ามเลยล่ะค่ะ

2. ดูแลอาหารการกิน

การขาดแคลเซียมและการมีฟอสฟอรัสมากเกินไปก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดตะคริวได้ จึงแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ผักใบเขียว ปลาตัวเล็กๆ นม ซึ่งอุดมไปด้วยแคลเซียม โดยหากต้องการลดการเป็นตะคริวกลางดึก อาจเพิ่มการดื่มนมก่อนนอนได้

3. แช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลาย

สำหรับบ้านไหนที่มีอ่างอาบน้ำ แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์นอนแช่ตัวในน้ำอุ่น จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและลดการเกิดตะคริวได้ ส่วนบ้านไหนที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ อาจเลือกการแช่เฉพาะขาและเท้าของแม่ท้องก็ได้ค่ะ

แช่เท้าในน้ำอุ่น ลดอาการเป็นตะคริวได้

4. เปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรพยายามเปลี่ยรอริยาบทของตัวเองบ่อยๆ ไม่นั่งหรือยืนท่าเดิมนานๆ หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง หรือการเดินทางที่ต้องนั่งอยู่ท่าเดิมนานๆ ในรถ นอกจากนี้ยังอาจเลือกออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดิน ก็จะช่วยลดการเกิดตะคริวได้อีกทางค่ะ

5. หลีกเลี่ยงอากาศเย็น

อากาศเย็นอาจทำให้เกิดตะคริวได้ง่ายขึ้น แนะนำคุณแม่ตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่อากาศเย็นจนเกินไป แต่ให้ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ทำร่างกายให้อบอุ่นเพื่อลดอาการตะคริว และเป็นการดูแลสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ให้แข็งแรงด้วยค่ะ

การเป็นตะคริวในช่วงตั้งครรภ์นั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่หากเป็นตะคริวที่ท้องอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อเช็คให้แน่ใจอีกครั้งนะคะ เพราะหากมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ อาจส่งผลร้ายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ค่ะ