เมื่อคู่รักพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แผนการจัดงานแต่งงานจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ส่วนหนึ่งของการวางแผนเริ่มต้นชีวิตคู่ของคู่รักยุคใหม่ในปัจจุบันนี้เท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญยิ่งกว่าการแต่งงานก็คือการที่คู่แต่งงานจะย้ายออกจากบ้านของตัวเองมาอยู่อาศัยร่วมกัน  ซึ่งเมื่อมีแผนจะย้ายออกมาเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกันเองในแบบคู่สามีภรรยาและอนาคตก็จะมีลูกๆ ตามมาอีก ก็ต้องมีแผนเตรียมซื้อ “บ้าน” ร่วมกันอยู่ในใจของทั้งคู่แล้วแหละ แต่ทีนี้มันไม่ได้มีแค่ปัจจัยเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่คู่รักจะต้องคำนึงถึงก่อนที่จะเลือกซื้อบ้านด้วย

ปัจจัยสำคัญที่คู่สามีภรรยาจะต้องคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อบ้าน

1. ซื้อบ้านหรือคอนโดดีกว่ากัน 

สำหรับคนรุ่นใหม่ การซื้อบ้านสำหรับที่อยู่อาศัยหรือใช้เป็นเรือนหอที่อยู่ในตัวเมือง จะมีตัวเลือกหลักอยู่ 2 ประเภท คือ บ้านกับคอนโด ซึ่งทั้ง 2 ตัวเลือกนี้ต่างมีราคาและมีข้อดีข้อเสียต่างกัน คู่แต่งงานที่มีความชอบแตกต่างกันจึงควรจะพูดคุยตกลงกันให้ได้เสียก่อนว่าในอนาคตอยากจะได้บ้านแบบไหน และทำไมต้องซื้อบ้านลักษณะแบบนี้ โดยอาจจะคำนึงถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของทั้งคู่ การเดินทาง และแผนชีวิตคู่ในอนาคต มาประกอบการตัดสินใจ ก็จะทำให้คู่รักที่ชอบไตล์บ้านต่างกัน สามารถเลือกบ้านที่จะเป็นของคุณทั้งคู่ได้ง่ายขึ้น

2. เตรียมตัวเป็นหนี้ระยะยาวได้ไหม

แม้การกู้เงินซื้อที่อยู่อาศัยจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านและคอนโดจะตกอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปีเท่านั้น (ใน 3 ปีแรก) แต่ถ้าคุณเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด คุณและคู่ครองของคุณ (ในกรณีที่กู้ซื้อร่วมกัน) ก็ต้องเตรียมใจเป็นหนี้ธนาคารระยะยาวได้เลย ซึ่งจะมั่นใจได้อย่างไรใน 10-20 ปีนี้ สภาพคล่องทางการเงินของคุณจะคงที่ตลอดเวลา ฉะนั้นต้องมีแผนสำรองเพื่อเตรียมตัวรับมือกับตรงกรณีที่อาจต้องใช้เงินฉุกเฉินไว้ด้วย

3. จำเป็นต้อง “กู้รวม” เพื่อมาซื้อบ้านหรือไม่

ถ้าเราสามารถกู้คนเดียวได้ แนะนำว่าให้กู้คนเดียวน่าจะดีกว่า เพราะเผื่อไว้ในอนาคตอาจจะมีเรื่องต้องกู้เพิ่มก็สามารถใช้ชื่ออีกคนนึงกู้แทนได้ เพราะถ้าติดภาระจำนองทั้งคู่ โอกาสที่จะกู้ครั้งต่อไปหรือแม้กระทั่งการขอวงเงินบัตรเครดิตก็จะทำได้ค่อนข้างยากลำบากพอสมควรด้วย

ปัจจัยสำคัญที่คู่สามีภรรยาจะต้องคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อบ้าน

4. แต่งงานแล้วจะมีลูกไหม มีกี่คน และสะดวกกับลูกไหม

ลูกน้อยที่จะเกิดในอนาคตก็เป็นส่วนสำคัญต่อการซื้อ “เรือนหอ” ด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นคู่รักที่กำลังมีลูกหรือแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตรก็อาจจะใช้จุดนี้มาช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อบ้านไว้ด้วยก็ได้ โดยอาจจะดูจากทำเลที่ตั้งที่ใกล้กับโรงเรียนดีๆ  หรือถ้าไม่ใกล้ก็ต้องมีทางด่วน มีรถไฟฟ้า (BTS) มีรถไฟใต้ดิน (MRT) สามารถเดินทางไปรับ-ส่งลูกได้สะดวก นอกจากนี้บ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่ให้เด็กได้เล่น ได้ปั่นจักรยาน ได้ทำกิจกรรม สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ ก็เป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกัน

5.  ต้องมั่นใจว่าจะสามารถผ่อนไหว และผ่อนหนี้หมด ตามระยะเวลาที่วางแผนไว้

ใจความสำคัญที่คู่แต่งงานจะต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนจะซื้อบ้านก็คือ “ซื้อแล้ว จะผ่อนไหวด้วยหรือไหม” เพราะการซื้อบ้านไม่ใช่รายจ่ายเพียงอย่างเดียวในบ้าน แต่คู่แต่งงานยังมีรายจ่ายในส่วนอื่นๆ อีกมากมาย ซ้ำยังไม่รวมเหตุฉุกเฉินในกรณีคู่ชีวิตไม่สามารถช่วยชำระหนี้ได้ หรือหมุนเงินไม่ทัน ฉะนั้นก่อนคิดจะซื้อบ้าน ต้องมั่นใจด้วยว่าจะสามารถผ่อนไหว และสามารถผ่อนได้หมดตามที่ธนาคารกำหนด ไม่งั้นหากถูกยึดบ้านคงเสียดายแย่เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• "อยากมีลูก อยากมีบ้าน" 5 เทคนิคที่คุณต้องไม่มองข้าม เพื่อความฝันราบรื่น ไร้ปัญหา
• วางแผนซื้อบ้านหลังมีลูกต้องพิจารณาอย่างไร เลือกให้ถูกก่อนตัดสินใจจ่ายเงินก้อนโต