คนไทยอย่างเราๆ มักคุ้นชินกับคำพูดที่ว่า “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่” ซึ่งเป็นเหมือนวลีเตือนใจแบบไทยๆ ให้เราเคารพความเชื่อของผู้อื่น แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคที่สิ่งต่างๆ พัฒนามากขึ้น ความเชื่อบางอย่างอาจขัดกับเหตุผลและหลักความเป็นจริง จนเราอาจจะต้องขัดความเชื่อเหล่านั้นบ้าง 

ความเชื่อเกี่ยวกับทารกในครรภ์และคุณแม่ตั้งครรภ์บางความเชื่อที่สืบต่อกันมา หากเราทำตามโดยไม่คำนึงถึงเหตุผล อาจส่งผลร้ายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ได้

Happy Mom.Life ขอรวบรวมเอา 5 ความเชื่อเกี่ยวกับทารกในครรภ์ที่ยังคงได้ยินอยู่ในปัจจุบันนี้มาฝาก เพื่อมานั่งวิเคราะห์กันเป็นข้อๆ เลยว่า ความเชื่อเหล่านั้นเกิดจากอะไร และคุณแม่ตั้งครรภ์ควรปฏิบัติตามดีหรือไม่ มาดูกันค่ะ…

ความเชื่อโบราณ เชื่อได้แค่ไหน?

1. ซื้อของให้ทารกก่อนคลอด ทำให้ทารกโชคร้าย?

ยังคงเป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมาจนทุกวันนี้ โดยคนโบราณเชื่อว่า หากทารกยังไม่คลอดออกมา ห้ามซื้อของใช้ทารกมาเก็บเอาไว้ก่อนเด็ดขาด เพราะเป็นเหมือนการแช่งทารกให้ได้รับอันตราย

ความเชื่อนี้น่าจะมีเหตุผลมาจากการพยายามรักษาความรู้สึกของผู้เป็นแม่ เชื่อกันว่าแต่เดิมนั้น การแพทย์ยังพัฒนาไม่ดีเท่าทุกวันนี้ ทำให้ทารกที่แท้งหรือคลอดก่อนกำหนดมีสูง ซึ่งการที่ผู้เป็นแม่ต้องทนเห็นของใช้ต่างๆ ของทารกที่จากไปนั้นจึงค่อยข้างสะเทือนใจ จึงเกิดความเชื่อแบบนี้ขึ้นมา

"ความจริงคือซื้อได้ ง่ายกว่าเยอะ!"

การรอจนกว่าทารกจะคลอดแล้วจึงค่อยซื้อของอาจจทำให้เกิดความยุ่งยากได้นะคะ ในยุคนี้หลายๆ บ้านจึงนิยมซื้อของมาเตรียมเอาไว้ก่อน แต่หากยังคงเชื่อในความเชื่อนี้อยู่ อาจแก้ปัญหาด้วยการซื้อของเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นเอาไว้ก่อน โดยอาจแก้เคล็ดด้วยการฝากไว้ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ หรือญาติสนิทก่อนก็ได้

ซื้อของให้ลูกไว้ก่อนจะได้ไหมนะ?

2. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ตอนตั้งครรภ์ เดี๋ยวลูกจะเป็นอันตราย?

เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่หลายๆ บ้านยังเข้าใจผิดอยู่ค่ะ การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม และไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ หากกระทำอย่างถูกวิธีภายใต้คำแนะนำของแพทย์

เราต้องยอมรับว่า คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีข้อจำกัดบางอย่างในการมีเพศสัมพันธุ์บ้าง แต่ด้วยความไม่รู้ในสมัยก่อน จึงอาจทำให้มีการละเมิดข้อห้าม อาทิเช่น มีเพศสัมพันธ์ในท่าที่อันตรายต่อทารกในครรภ์ หรือมีเพศสัมพันธุ์ที่รุนแรงเกินไป จึงส่งผลร้ายต่อทารกจนทำให้เกิดความเชื่อเหมารวมขึ้นมา

"ความจริงคือ มีเซ็กส์ได้ แต่ให้ระวัง!"

มีหลายบ้านที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ยอมมีเพศสสัมพันธ์กับสามี จนทำให้คุณสามีไม่สามารถหักห้ามใจได้ จนไปปลอดปล่อยอารมณ์นอกบ้านและกลายเป็นปัญหาครอบครัวตามมา เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกันของแต่ละครอบครัว หากคุณสามียินดี และคุณภรรยาสบายใจที่จะไม่มีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่หากต้องการมีก็ไม่ผิดอะไร ขอแค่ทำด้วยความะมัดระวัง โดยให้ทำดังนี้

• หลีกเลี่ยงท่าที่มีการกดทับมดลูก
• หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงแพ้ท้องหรือในเดือนสุดท้ายก่อนคลอด เพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
• ปรึกษาคุณหมอที่คุณฝากครรภ์ เพราะในบางเคสอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้

ตั้งครรภ์ก็กุ๊กกิ๊กกันได้

3. กินยาบำรุงจากคุณหมอแล้วจะทำให้แม่อ้วน?

มีคุณแม่ตั้งครรภ์บางท่านเข้าใจไปว่า หากกินยาบำรุงที่คุณหมอให้มาแล้วจะทำให้อ้วนง่าย ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่กล้ากินยาบำรุง ซึ่งอาจส่งผลไม่ดีต่อตัวคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ได้นะคะ

ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ฮอร์โมนของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้คุณแม่อ้วนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์มักเจริญอาหารมากขึ้น และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย จึงทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย ด้วยเหตุนี้จึงอาจเกิดความเข้าใจผิดว่า สาเหตุที่ทำให้คุณแม่อ้วนขึ้นเกิดมาจากยาบำรุงของคุณหมอ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอนค่ะ

"ความจริงคือ เชื่อหมอเถอะ หมอเรียนมา!"

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์จะดีต่อคุณแม่และทารกในครรภ์มากที่สุดนะคะ คุณหมอย่อมเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณแม่และลูกน้อยอยู่แล้ว และอาหารเสริมที่คุณหมอจ่ายให้แม่ท้องมักเป็นพวกวิตามินเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ส่งผลให้คุณแม่อ้วนขึ้นค่ะ และหากคุณแม่อยากเป็นแม่ตั้งครรภ์หุ่นเซ่บ ลองทำตามบทความที่เราแนะนำด้านล่างดีกว่าค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม : เทคนิคง่ายๆ สู่การเป็นแม่ตั้งครรภ์สุด SEXY หน้าท้องโตแต่หุ่นดี ลูกแข็งแรง

ควรกินยาบำรุงตามคำแนะนำของแพทย์

4. ห้ามคุณแม่ตั้งครรภ์อาบน้ำตอนกลางคืน?

โบราณเชื่อกันว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์อาบน้ำตอนกลางคืนจะทำให้มีน้ำคล่ำเยอะเกินไป จึงห้ามผู้หญิงท้องออกมากอาบน้ำตอนกลางคืนเด็ดขาด

ที่มาของความเชื่อ คาดว่าน่าจะเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่ห่วงว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์ออกมาอาบน้ำตอนกลางคืนแล้วจะทำให้ลื่นล้ม หรือเสี่ยงต่อการเจอสัตว์มีพิษอย่างงูเงี้ยวเขี้ยวขอ เนื่องจากบ้านไทยโบราณ ห้องน้ำมักอยู่นอกตัวบ้านนั่นเอง

"ความจริงคือ เดี๋ยวนี้ห้องน้ำไม่อันตรายแล้ว!"

ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และป่วยระหว่างท้องได้ ดังนั้น อาบน้ำตามเวลาปกติน่าจะดีที่สุดค่ะ

อาบน้ำเพื่อสุขอนามัยที่ดี

5. ห้ามคุณแม่ตั้งครรภ์ด่าหรือสาปแช่งผู้อื่น?

คนไทยเชื่อต่อกันมาว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามด่าหรือสาปแช่งผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพราะคำสาปแช่งนั้นจะย้อนกลับมาสู่ทารกในครรภ์ให้มีอันเป็นไปตามคำสาปแช่งนั้น

เชื่อกันว่า น่าจะเป็นกุศโลบายไม่ให้คุณแม่ตั้งครรภ์เครียด โกรธ หรือคิดไม่ดี ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกในท้อง รวมทั้งอาจเป็นความเชื่อเกี่ยวกับบาปบุญคุณโทษตามหลักศาสนาด้วย

"ความจริงคือ ไม่สาปแช่งคนอื่นน่ะถูกแล้ว!"

การสาปแช่งหรือด่าคนอื่นไม่ใช่เรื่องดีค่ะ และส่งผลร้ายต่อสุขภาพจิตของคุณแม่ได้ เพราะฉะนั้น ไม่พูดร้าย ด่า สาปแช่งคนอื่นก็น่าจะดีกว่านะคะ

ความเชื่อต่างๆ นั้น หลายความเชื่อก็มีเหตุผลที่น่าคิดรองรับอยู่ การทำตามความเชื่อเหล่านั้นจึงอาจยังเป็นสิ่งที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ถ้าเรารู้ลึกไปจนถึงที่มาของความเชื่อแต่ละอย่าง เราก็จะวิเคราะห์ได้ว่าควรทำหรือไม่ทำตาม ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดค่ะ