ในระหว่างการตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้เกิดความเครียดและความกังวลในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งความเครียดและความวิตกที่เกิดขึ้นนี้ นอกจากจะส่งผลต่อตัวคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้อีกด้วย แต่ภาวะดังกล่าวสามารถจัดการได้ โดย พล.อ.ต.ผศ.นพ.วิบูลย์ เรืองชัยนิคม สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ จะมาไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ค่ะ
พล.อ.ต.ผศ.นพ.วิบูลย์ เรืองชัยนิคม
สาเหตุของความเครียดและความวิตกกังวลของคุณแม่ตั้งครรภ์
ในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นช่วงที่คุณแม่บางคนอาจมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้เกิดความเครียดและความกังวลในระหว่างการตั้งครรภ์ซึ่งพบได้ร้อยละ 10-15 ของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ซึ่งสาเหตุของการเกิดที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัดในปัจจุบันแต่เชื่อว่าอาจเกิดจาก
คุณแม่ตั้งครรภ์เครียดและวิตกกังวล
medscape.com
ผลกระทบต่อคุณแม่ทารกในครรภ์
ในคุณแม่ที่มีความเครียดในระหว่างการตั้งครรภ์มากจะมีผลกระทบต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจมีผลกระทบจนกระทั่งลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาว
ผลกระทบต่อคุณแม่ ได้แก่ การขาดสารอาหาร สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ใช้สารเสพติด ไม่ยอมฝากครรภ์ ไม่ดูแลทารกหลังคลอดไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และอาจคิดฆ่าตัวตาย
ผลกระทบที่อาจเกิดต่อทารก ได้แก่ การคลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยแรกคลอด อัตราทารกเสียชีวิตแรกคลอดสูงขึ้น หลังคลอดทารกจะร้องโยเย ตื่นเต้นง่าย ขาดความสนใจ ไม่กระตือรือร้น ทำให้มีปัญหาการพัฒนาการทั้งทางร่างกายและภาษา ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกไม่ดีทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมในเด็กถ้าไม่ได้รับการแก้ไขก็จะทำให้เกิดปัญหาในวัยรุ่นได้ เช่น เป็นคุณแม่วัยใส เป็นเด็กเกเร ติดบุหรี่และสารเสพติด ไม่สนใจการเรียน
ช่วงนี้คุณแม่ตั้งครรภ์ก็จะอารมณ์แปรปรวนหน่อย
pixabay.com
วิธีจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลของคุณแม่อย่างไรโดยไม่ต้องใช้ยา
ส่วนใหญ่ในคุณแม่ที่มีอาการไม่มาก ถ้าได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ทำให้มีอาการ ได้รับกำลังใจและช่วยลดภาระงานจากสามี คนในครอบครัวและ เพื่อนร่วมงานก็จะทำให้หายจากความเครียดได้เอง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ต้องได้รับความมั่นใจและช่วยชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องจากแพทย์โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา
คุณแม่ตั้งครรภ์เครียดมากส่งผลต่อทารกในครรภ์
17ninety.com
สำหรับภาวะเครียดระหว่างตั้งครรภ์จัดเป็นภัยเงียบที่น่ากลัวและยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนักทั้งจากตัวคุณแม่เองครอบครัวและแพทย์ ซึ่งในบางคนถ้าไม่ได้รับการรักษาก็อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นกลายเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคจิตและเกิดผลกระทบต่อคนในครอบครัวและสังคมโดยรวมได้
Please fill in the form with valid information so we can verify your account.