ถึงจะเป็นเรื่องสิว แต่เชื่อแน่ว่าไม่ใช่ปัญหาจิ๋ว ๆ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าก่อนตั้งครรภ์หน้าใสปิ๊ง แต่พอตั้งครรภ์แล้ว "สิวเห่อ" แบบนี้ จะไม่ให้กลุ้มได้อย่างไรจริงไหมล่ะคะ เพราะถึงจะเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่เรื่องความสวยความงามก็ยังเป็นเรื่องสำคัญของผู้หญิงอยู่ดี 

รับมือ "สิวเห่อ" เมื่อตั้งครรภ์ ให้คุณแม่กลับมาหน้าใสปิ๊งในเร็ววัน

verywellhealth.com

แม้จะรู้ดีว่าสิวที่เกิดช่วงตั้งครรภ์ เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น รูขุมขนมีการผลิตน้ำมันมากขึ้น อีกทั้งผิวหนังมีการยืดขยายตัว ทำให้รูขุมขนบนใบหน้าขยาย สิ่งสกปรกจึงอุดตันและเกิดการอักเสบได้ง่าย บวกกับความเครียด ความวิตกกังวลใจในเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนกระตุ้นให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีสิวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์

และอย่างที่ทราบกันดีว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องหยุด! ยารักษาสิวในช่วงนี้ เพราะยาบางตัวนั้นมีส่วนประกอบที่ส่งผลข้างเคียงและอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะยารักษาสิวในกลุ่มของกรดวิตามินเอ หรือเรตินอยด์ ยากลุ่มเตตราไซคลิน ยากลุ่มฮอร์โมน ไม่ว่าจะใช้ทาหรือรับประทาน ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด และใช่ว่าการรับมือกับปัญหาสิวระหว่างตั้งครรภ์จะมีแค่ยารักษาสิวเท่านั้น Happy Mom.Life มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์สิวลดและกลับมาหน้าใสปิ๊งในเร็ววันมาฝากค่ะ   

รับมือสิวตอนตั้งครรภ์

theskinna.com

1.ดูแลมือและเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพราะมือและเล็บอาจสกปรกได้จากการหยิบจับโน่นนี่ตลอดทั้งวัน ซึ่งถ้าหากคุณแม่ตั้งครรภ์ใช้มือและเล็บไปสัมผัสหรือแกะเกาใบหน้า อาจทำให้ผิวหนังติดเชื้อและเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้นมาได้

2.งดบีบ แกะ แคะ เค้น หรือกดสิว เพราะจะทำให้ผิวหน้าเกิดรอยดำ รอยแผล อีกทั้งยังจะทำให้เชื้อแบคทีเรียมีการแพร่กระจายมากขึ้น เกิดสิวได้ง่าย และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงขึ้น

คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามกด แคะ เค้นสิว

30seconds.com

3.ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำเปล่าหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำมัน แต่ไม่ควรล้างหน้าบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะนอกจากจะช่วยลดความมันบนใบหน้า ยังจะทำให้ผิวแห้งและสร้างน้ำมันขึ้นมากกว่าเดิม และอาจเกิดการอุดตัน ก่อให้เกิดสิวได้

4.คาดผมรวบตึง ติดกิ๊บ หรือมัดให้เรียบร้อย คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ผมยาวไม่ควรปล่อยผมให้มาปรกหน้า เพราะผมปรกปิดหน้าผาก อาจจะทำให้เกิดสิวผดได้ หรือจะถือโอกาสนี้ตัดผมสั้นเปลี่ยนลุคก็ดีไม่น้อยนะคะ

5.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดสิวได้แบบง่าย ๆ เพราะนอกจากน้ำจะช่วยกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกายทางผิวหนัง ทำให้รูขุมขนสะอาดและป้องกันการเกิดสิวแล้ว น้ำยังช่วยคืนความชุ่มชื้น ไม่ให้ผิวแห้งกร้านและเกิดสิว

คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

birthquestservices.com

6.ไม่เครียด เพราะความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิว และยังส่งให้ทารกในครรภ์เสี่ยงแท้ง เติบโตช้า หรือมีโอกาสติดเชื้อในครรภ์สูง ในระยะยาวยังมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงตามมาอีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องไม่เครียด หมั่นทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการเกิดของสิวได้

7.ลดอาหารทอด เพราะว่าอาหารทอดเป็นตัวการให้ร่างกายได้รับไขมันมากเกินไป ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับไขมันมากเกินไปนั้น สิ่งที่ตามมาก็คือการผลิตไขมันที่เซลล์ผิวหนังจนกระทั่งเกิดการอุดตันที่รูขุมขน และเกิดสิวได้ อีกทั้งยังจะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วย

8.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผักและผลไม้สดที่ให้วิตามินสูง เช่น มะเขือเทศ แตงกวา แครอท มะละกอ แอปเปิ้ล องุ่น เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณคุณแม่ตั้งครรภ์ให้ดูสวยใสแล้ว ยังช่วยในการขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูกได้อีกด้วย

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว

elitechoicenutrition.com

9.รักษาสิวด้วยมะนาว โดยเพียงนำน้ำมะนาวมาแต้มสิว ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรืออาจจะปล่อยทิ้งไว้ตลอดทั้งคืน และล้างออกให้สะอาด ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ทำให้สิวแห้งและยุบได้เร็วขึ้น

10.ปรึกษาคุณหมอ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่กำลังมองหายารักษาสิวเมื่อเกิดสิวอักเสบมาก ๆ ควรปรึกษาคุณหมอและแจ้งว่าตั้งครรภ์ด้วยทุกครั้ง โดยคุณหมออาจให้ยาปฏิชีวนะ เช่น Amoxycillin หรือยาทาเฉพาะที่เพื่อฆ่าเชื้อสิว เช่น Benzoyl peroxide, Clindamycin, Erythromycin ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

จริง ๆ แล้วปัญหาเรื่องสิวที่มากวนใจคุณแม่ตั้งครรภ์จะหายไปได้เอง หลังจากคุณแม่คลอดทารก ซึ่งระดับฮอร์โมนจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลเป็นปกติ ทำให้คุณแม่กลับมาหน้าใสเหมือนเดิม แต่ในช่วงที่คุณแม่ยังสิวเห่ออยู่นี้ ก็สามารถใช้ทั้ง 10 วิธีที่เรานำมาฝากกันนี้ไปใช้กันก่อนนะคะ