หลังจากคลอดทารกน้อยแล้ว ไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณแม่ คุณยาย หรือญาติผู้ใหญ่บอกให้ต้องอยู่ไฟหลังคลอด นั่นเป็นเพราะสมัยก่อนนั้นเชื่อว่าระหว่างการตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลายอย่าง ทั้งน้ำหนักตัว รูปร่าง โดยเฉพาะหน้าท้องที่ขยายใหญ่ขึ้น เพราะมดลูกมีการขยายตัว กลายเป็นบ้านให้ทารกที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในครรภ์ คุณแม่จึงต้องแบกรับน้ำหนักของเจ้าตัวเล็กไว้ ทำให้อาจมีอาการปวดเมื่อยหรืออักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหลังหรือที่ขา รวมถึงมีอาการอื่น ๆ ตามมา จึงจำเป็นต้องอาศัยภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยเข้ามาช่วยฟื้นฟู ปรับสมดุลร่างกายของคุณแม่ให้กลับเป็นปกติโดยเร็ว 

ทำความเข้าใจ อยู่ไฟหลังคลอด

10 ประโยชน์ของการอยู่ไฟหลังคลอด

1. ปรับสมดุล ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย  
2.  กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
3. ช่วยขับของเสีย ขับน้ำคาวปลาและของเสียที่คั่งค้างออกจากร่างกาย
4. ช่วยให้มดลูกหดรัดตัว หรือที่เรียกว่ามดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น
5. ช่วยให้แผลฝีเย็บแห้งเร็วขึ้น
6. ช่วยให้น้ำนมไหลดีขึ้น
7. ลดอาการปวด เมื่อย เกร็ง ตึง ของกล้ามเนื้อ
8. ปรับอุณภูมิ ช่วยป้องกันอาการเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว
9. ผิวพรรณสะอาด สดใส ลดอาการแพ้ ผื่น คัน
10. ผ่อนคลายร่างกาย และจิตใจ

โดยในสมัยก่อนการอยู่ไฟ จะให้คุณแม่หลังคลอดนอนอยู่บนแคร่เล็ก ๆ และตั้งเตาไฟร้อน ๆ ไว้ใกล้ ๆ โดยใช้เวลาในการอยู่ไฟนานเป็นเดือน ๆ แต่ในปัจจุบันการอยู่ไฟหลังคลอดสะดวกสบายและรวดเร็วมากกว่าในอดีตมากค่ะ การอยู่ไฟสมัยใหม่ใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่า และยังมีบริการอยู่ไฟแบบเดลิเวอรี่ ที่มีคอร์สให้บริการอยู่ไฟตั้งแต่ 3-7 วัน วันละประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพิ่มความสะดวกคุณแม่ลูกอ่อนกันถึงที่บ้าน ซึ่งคุณแม่หลายท่านก็ยอมจ่ายเพื่อแลกกับความสะดวกสบายนี้  

 การะเกดจากละครบุพเพสันนิวาสอยู่ไฟหลังคลอด

ขั้นตอนการอยู่ไฟสมัยใหม่ ได้มีการผสมผสานการศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์เข้ามาร่วมด้วย

นวดประคบ ภายในลูกประคบมีสมุนไพรที่ช่วยรักษาผิวพรรณโดยเฉพาะ ประกอบไปด้วย ไพล ตะไคร้ ขมิ้น ผิวมะกรูด ใบมะขาม เอามาบดพอหยาบ ๆ แล้วให้ผ้าห่อเป็นลูกประคบ นวดคลึงตามบริเวณร่างกาย โดยก่อนนำมาประคบให้นำลูกประคบไปนึ่งให้พออุ่น ๆ 

เข้ากระโจมอบสมุนไพร หลักการคล้าย ๆ กับการอบซาวน่า ขับเหงื่อ ช่วยในการลดน้ำหนัก โดยในกระโจมจะมีหม้อต้มสมุนไพร ให้คุณแม่ได้สูดไอระเหยของสมุนไพรที่ให้สรรพคุณแตกต่างกัน เช่น 

• ไพล ขมิ้นชัน ว่านน้ำ แก้ปวดเมื่อย ฟกช้ำ 
• ตะไคร้ มะกรูด บำรุงผิวพรรณ หายใจสดชื่น ดับกลิ่นน้ำคาวปลา 
• ผักบุ้งแดง บำรุงสายตา  
• ใบมะขาม ส้มป่อย บำรุงผิวพรรณให้สดใส ปรับสมดุลระบบน้ำเหลืองในร่างกาย
• การบูร พิมเสน หายใจสดชื่น
• เกลือป่น แผลแห้งเร็ว ผิวพรรณสดใส  

นวดน้ำมัน นวดสครับ ขัดผิว นวดด้วยน้ำมันหอมระเหยอย่างดี เลือกกลิ่นที่คุณแม่ชอบ หรือกลิ่นที่เพิ่มความสดชื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้มาสปาส่วนตัว ต่อด้วยการสครับขัดผิวโดยใช้มะขามเปียก ผสมกับน้ำผึ้ง น้ำนม ช่วยขจัดรอยดำตามผิวพรรณ ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้ผิวคุณแม่หลังคลอดกระจ่างใสยิ่งขึ้น  

ดื่มน้ำสมุนไพร เช่น ดื่มน้ำตะไคร้ น้ำขิง ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลร่างกาย กระตุ้นเลือดลมให้เดินเป็นปกติ และเพิ่มน้ำนมแม่

ดื่มน้ำสมุนไพร ปรับสมดุลร่างกาย 

รู้ประโยชน์และขั้นตอนของการอยู่ไฟที่ Happy Mom.Life นำมาฝากกันแล้ว คุณแม่คลอดธรรมชาติที่สนใจอยู่ไฟ ควรเว้นระยะให้แผลหายก่อนคือ 7-10 วัน และสำหรับคุณแม่ผ่าคลอดควรเว้นระยะอย่างน้อย 1- 1 เดือนครึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เกิดการอักเสบติดเชื้อของแผลผ่าคลอดค่ะ 

สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ไม่ได้อยู่ไฟก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คุณแม่ทุกคนที่ได้รับการคลอดในโรงพยาบาลไม่ว่าจะโดยการผ่าตัดหรือคลอดเอง คุณหมอจะให้ยาที่ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ เพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอด ช่วยขับน้ำคาวปลาเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งมดลูกจะเข้าอู่ได้เองโดยใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอดได้ตามธรรมชาติ

และสิ่งที่สำคัญที่ต้องเน้นย้ำคุณแม่หลังคลอดคือ อย่ามัวแต่อยู่ไฟนะคะ ควรแบ่งเวลาให้กับการให้ลูกดูดนมแม่ เพื่อกระตุ้นน้ำนมและเอาลูกเข้าเต้า นอกจากนี้ สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องทำควบคู่กันก็คือการรับทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อการซ่อมแซมบาดแผลที่เกิดจากการคลอดและสร้างน้ำนม รวมทั้งการบริหารร่างกายหลังคลอด ที่จะช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของคุณแม่ให้ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง

Credit Image : sanook.com