ไขข้อสงสัย...ไม่แพ้ท้องเลยมีโอกาสเสี่ยงแท้งบุตรจริงหรือไม่?

2017.11.28 17,716

ไม่แพ้ท้องเลยมีโอกาสเสี่ยงแท้งบุตรจริงหรือไม่? อาจจะเป็นคำถามที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ ท่านกำลังตั้งคำถามอยู่ เพราะเคยได้ยินได้ฟังมาว่าไม่แพ้ท้องเลยมีโอกาสแท้ง ! Happy Mom.Life มีข้อเท็จจริงจาก พล.อ.ต.ผศ.นพ.วิบูลย์ เรืองชัยนิคม สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ที่จะมาเป็นผู้ให้ข้อมูล คลายความสงสัยของคุณแม่กันค่ะ


พล.อ.ต.ผศ.นพ.วิบูลย์ เรืองชัยนิคม

 

การแพ้ท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นในคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน จากการศึกษาพบว่าคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์จะมีอาการแพ้ท้องได้ร้อยละ 80-90  อาการมีได้ตั้งแต่ เวียนศีรษะ พะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการมากในช่วงเช้าจึงเรียกว่า morning sickness แต่ในคุณแม่บางคนอาจมีอาการในช่วง บ่าย เย็น ก่อนนอน หรือเป็นตลอดทั้งวันก็ได้


อาการแพ้ท้องพบได้บ่อยในคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์


ส่วนใหญ่แล้วจะมีอาการไม่มากไม่มีผลกระทบกับทารกในครรภ์ มีเพียงส่วนน้อยที่คุณแม่เป็นมากไม่สามารถรับประทานอาหารหรือยาได้เลย ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและสารน้ำอย่างรุนแรงซึ่งจะมีผลเสียต่อทารกในครรภ์จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือและสารอาหารในโรงพยาบาล

สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของการแพ้ท้องนั้นในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด บางคนเชื่อว่าการแพ้ท้องอาจเป็นขบวนการป้องกันทารกในครรภ์โดยธรรมชาติจากการได้รับสารอาหารหรือสารเคมีที่มากเกินความต้องการของทารกซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาของตัวอ่อนในระยะแรกได้


การแพ้ท้องอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน


นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการแพ้ท้องอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในขณะตั้งครรภ์ เช่น เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และโดยเฉพาะ ฮอร์โมนตั้งครรภ์ HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งผลิตมาจากรก โดยพบว่าคุณแม่ที่มีระดับของฮอร์โมนตั้งครรภ์ (HCG) ที่สูง เช่น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด หรือตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก จะมีอาการแพ้ท้องมากกว่าคุณแม่ที่มีระดับของฮอร์โมนตั้งครรภ์ (HCG) ที่ต่ำกว่า 

บางคนยังเชื่อว่าการแพ้ท้องอาจจะมีความสัมพันธ์กับการพักผ่อนที่เพียงพอ ความวิตกกังวล ความเครียด ความอบอุ่นในครอบครัวและความเข้มแข็งของสภาพจิตใจของคุณแม่ โดยพบว่าในคุณแม่ที่มีการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่เครียด  อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นและมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง จะมีปัญหาเรื่องการแพ้ท้องน้อยกว่าในกลุ่มคุณแม่ที่มีความเครียด พักผ่อนน้อย ขาดความอบอุ่นในครอบครัวและมีสภาพจิตใจที่อ่อนแอ

ในคุณแม่บางคนอาจเริ่มมีอาการแพ้เมื่อได้รับสิ่งเร้าหรือสิ่งกระตุ้น เช่น อยู่ในห้องอุดอู้ ได้รับกลิ่นที่แสลงเช่น น้ำหอม สารเคมี อาหาร บุหรี่ หรืออยู่ในบริเวณที่ร้อนหรืออับชื้นมากเกินไป ถ้าหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นดังกล่าวก็จะทำให้คุณแม่หายจากอาการแพ้ท้องได้

คุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการมากที่สุดในช่วง 7-9 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์และอาการจะหายไปเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 14-16 สัปดาห์ ไม่ว่าจะมีอาการแพ้ท้องมากหรือน้อยก็ตาม พบว่าน้อยกว่าร้อยละ 10 ที่จะมีอาการแพ้ท้องจนถึง 22 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์


การพักผ่อนที่เพียงพอ ช่วยลดอาการแพ้ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์  


สำหรับการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรง ในรายที่เป็นไม่มากมีคำแนะนำ ดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • อย่าเปลี่ยนท่าเร็วเกินไปในช่วงตื่นนอนตอนเช้าซึ่งเป็นช่วงที่จะมีอาการแพ้ท้องมากที่สุด
  • ให้รับประทานขนมปังกรอบหรือธัญพืชร่วมกับน้ำผลไม้หรือน้ำ peppermint และให้นอนพักอีกประมาณ 15-20 นาทีก่อนลุกจากเตียงซึ่งจะทำให้คุณแม่ส่วนใหญ่มีอาการแพ้ท้องน้อยลง
  • ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่ไขมันสูง มีรสจัด มีกลิ่นคาวหรือฉุนเกินไป หรืออาหารประเภททอด
  • ให้รับประทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้งไม่ควรปล่อยให้หิวหรือรับประทานจมอิ่มเกินไปเพราะการหิวหรืออิ่มเกินไปจะเป็นสาเหตุให้มีอาการแพ้ท้องมากขึ้น
  • ไม่ควรฝืนรับประทานอาหารในช่วงที่มีการแพ้ท้องมากๆเพราะจะยิ่งทำให้มีอาการมากขึ้น
  • หลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ ไม่ควรอยู่ในท่านอนราบ
  • หลังอาเจียนทุกครั้งควรบ้วนปากเพื่อช่วยลดอาการแพ้ท้อง

ทั้งนี้ ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคุณพ่อเป็นอย่างดีแล้วส่วนใหญ่คุณแม่จะมีอาการดีขึ้นไม่จำเป็นต้องใช้ยา


สามีดูแลดี อาการแพ้ท้องก็ดีขึ้นได้

 

ส่วนคุณแม่ที่ยังมีอาการแพ้ท้องอยู่หลังจากที่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้วให้ลองดื่มน้ำขิงร่วมกับการรับประทานยาวิตามินบี 6 พบว่าสามารถลดอาการแพ้ท้องของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี

จะมีคุณแม่บางคนที่ยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ไม่ตอบสนองต่อขบวนการข้างต้น ก็ควรไปพบแพทย์รับยาเพื่อช่วยทุเลาอาการไม่ให้รุนแรงจนเกิดอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ซึ่งยาในกลุ่มที่สามารถใช้ในคนท้องได้อย่างปลอดภัย ได้แก่ Dimenhydrinate, Diphenhydramine หรือ Metoclopramide พบว่าการใช้ยาดังกล่าวในปริมาณที่เหมาะสมสามารถลดอาการแพ้ท้องของคุณแม่ได้เป็นอย่างดีและไม่เกิดผลกระทบต่อทารกในครรภ์

มีการศึกษาพบว่าในคุณแม่ที่มีอาการคลื่นไส้มากเพียงอย่างเดียวจะมีอัตราการแท้งบุตรน้อยกว่าคุณแม่ที่ไม่มีอาการร้อยละ 50 ถ้าคุณแม่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนมากจะมีอัตราการแท้งบุตรน้อยกว่าคุณแม่ที่ไม่มีอาการถึงร้อยละ 75

Related Tips

299,241
0
สูตรคำนวนปริมาณนมที่ลูกน้อยต้องการ อายุ 0 -1 ขวบ ให้กินนมวัน...
ทารกแรกเกิด นมแม่ ดูดนม น้ำนม เด็ก
278,167
0
หล่อบาดใจ! 30 ไอเดียทรงผมลูกชายสุดเท่
ทรงผม เด็ก ทรงผมเด็ก แฟชั่น แฟชั่นทรงผมเด็ก
129,703
0
3 ท่า สอนจับทารกวัย 0-3 เดือน “เรอ” หลังกินนมอิ่มแบบเห็นผล
ทารก นมแม่ เด็ก แม่ เรอ

Related Shop

Kinderpuppets Silom - Sathorn
Khet Bang Kho Laem , Bangkok
Message
Products for sensitive skin children import from Korea, gentle with pure natural... Read More
BABY CREAM (180ml) 850 Baht
850 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY SOOTHING GEL (250ml) 690 Baht
690 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY SHAMPOO&BATH (250ml) 790 Baht
790 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY ORGANIC OIL (60ml) 890 Baht
890 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
BABY LOTION (200ml) 690 Baht
690 THB
Kids Life Kids Health
Order by Kerry
690 THB
Baby Life Baby Care 0M-3M
Sriphat Medical Center Mueang Chiang Mai ,
Sripatum Center Faculty of Medicine Chiang Mai University Approved to be establi... Read More
Giving Birth
Ask Price
Giving Birth Natural Birth
Camille Salon Khet Din Daeng ,
07:00 - 20:00 Business infomation Business details Parking Parking: Street Pri... Read More
Hair Salon
Ask Price
Beauty Hair Salon - Product
Thantakit International Dental Center Ratchadapisek - Huaykwang
Khet Huai Khwang , Bangkok
Welcome to Thailand 's longest established dental center Receive professional... Read More
Dental Center
Ask Price
Kids Life Kids Dental

Pick up Reviews

SEE MORE

Pick up reviews

Most Popular Tips