เป็นเรื่องยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในยุคนี้ ที่จะเลี้ยงลูกเองอยู่ที่บ้าน เพราะถ้าไม่ออกไปทำงานนอกบ้านก็คงไม่มีรายได้พอจะเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เมื่อลูกโตถึงวัยหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเริ่มมองหาเนอสเซอรี่ดีๆ ให้ช่วยดูแลลูกรักให้ แต่ Happy Mom.Life คิดว่า การส่งลูกไปเรียนเนอสเซอรี่นั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เราต้องรับให้ได้อยู่นะคะ หากคุณพ่อคุณแม่วางแผนจะส่งลูกเรียนเนอสเซอรี่ ให้ถามตัวเองดีๆ ว่าพร้อมสำหรับเรื่องเหล่านี้ไหม
ส่งลูกเรียนเนอสเซอรี่
1. ลูกป่วยบ่อยขึ้น
เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ที่เมื่อส่งลูกเข้าเรียนเนอสเซอรี่แล้ว ลูกอาจจะป่วยบ่อยขึ้นกว่าตอนคุณแม่เลี้ยงเองที่บ้าน เพราะเมื่อเด็กๆ หลายคนมาอยู่รวมกัน หากเด็กคนหนึ่งป่วย ก็อาจจะแพร่เชื้อให้เพื่อนๆ ได้โดยปริยาย บางทีเผลอแป๊ปเดียว ติดลามกันทั้งชั้น คุณพ่อคุณแม่อาจป้องกันปัญหาเบื้องต้น ด้วยการพาลูกไปฉีดวัคซีนป้องกัน หรือหากมีเพื่อนในห้องป่วยกันหลายคน ก็ชิงให้ลูกหยุดเรียนอยู่บ้านก่อน เพื่อความปลอดภัย
2. ต้องรับมือกับผู้ปกครองร้อยพ่อพันแม่
คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่า ครอบครัวอื่นๆ อาจไม่เหมือนครอบครัวของเรา ผู้ปกครองของเด็กคนอื่นๆ ก็อาจมีรสนิยม หรือนิสัยไม่เหมือนเรา ลูกจึงอาจต้องพบเจอเพื่อนที่นิสัยหลากหลาย อาจไม่เหมือนที่เด็กคุ้นเคย อาจมีความขัดแย้ง หรือการเลี้ยงดูที่ทำให้ปวดหัวอยู่บ้าง ต้องเปิดใจกว้างๆ และเตรียมรับมือค่ะ
3. พี่เลี้ยงอาจดูแลลูกไม่ละเอียดเท่าเราดูแลเอง
ในเนอสเซอรี่ พี่เลี้ยงหนึ่งคนอาจต้องดูแลเด็กหลายคน จึงไม่สามารถมาดูแลลูกของเราได้อย่างละเอียดเหมือนที่คุณพ่อคุณแม่ดูแลเอง เรื่องนี้อาจจะลดปัญหาได้บ้าง หากคุณพ่อคุณแม่เลือเนอสเซอรี่ที่มีครูพี่เลี้ยงอย่างเพียงพอ และได้มาตรฐาน มีคุณภาพน่าเชื่อถือค่ะ
4. ค่าใช้จ่ายในครอบครัวพุ่งปรี๊ด
แน่นอนว่า เมื่อส่งลูกไปเนอสเซอรี่แล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา คุณพ่อคุณแม่จึงต้องสำรองเงินเอาไว้สำหรับส่วนนี้ด้วยนะคะ หากวางแผนจะส่งลูกไปเนอสเซอรี่ ก็ต้องวางแผนการเงินดีๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง จะได้ไม่มีปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลังค่ะ
5. ต้องห่างลูกมากขึ้น
สำหรับคุณแม่ที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกมาตั้งแต่ลูกเกิด อาจรู้สึกใจหายหวิวๆ ไปบ้าง เมื่อต้องแยกจากลูกในช่วงที่ต้องส่งลูกไปเนอสเซอรี่ บางคนอาจห่วงลูกจนไม่เป็นอันทำอะไร และอาจรู้สึกแย่เวลาเห็นลูกร้องไห้ทุกเช้าเมื่อแยกจากแม่ แต่เด็กๆ จะสามารถปรับตัวได้ และคุณแม่เองก็ต้องพยายามปรับตัวค่ะ เพราะสุดท้าย ลูกก็ต้องเข้าสังคม มีสังคมของเขา ไม่วันนี้ก็วันหน้า
อ่านๆ ดูแล้วคุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจกังวลใจ และเริ่มคิดเปลี่ยนใจไม่อยากส่งลูกไปเนอสเซอรี่ แต่อย่าลืมนะคะว่า ความจริงแล้วเนอสเซอรี่ก็มีข้อดีเหมือนกัน อย่างน้อยเด็กๆ ก็จะได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ในสังคม และคุณพ่อคุณแม่ก็มีคนช่วยดูแลลูกในเวลาที่ต้องทำงาน เพียงแต่ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกเฟ้นเนอสเซอรี่ดีๆ สักหน่อย เพื่อความสบายใจ และให้ลูกได้มีพัฒนาการที่ดีต่อไปค่ะ
กรุณากรอกข้อมูลในฟอร์มด้วยข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้เราสามารถยืนยันบัญชีของคุณได้
https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/