Home School เหมาะกับเด็กกลุ่มไหน และมีประโยชน์ต่อเด็กแต่และกลุ่มอย่างไรบ้าง

2018.01.09 590

การเรียน Home School หรือการจัดการศึกษาโดยครอบครัว เริ่มเป็นที่สนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในยุคใหม่หลายๆ คน เพราะเชื่อกันว่าจะส่งผลที่ดีต่อเด็กๆ ได้ในหลายด้าน แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า การเรียนการสอนแบบนี้เหมาะกับเด็กแบบไหน ลูกของเราเข้าข่ายที่ควรเรียน Home School หรือไม่ และการเรียนแบบนี้จะมีประโยชน์ต่อเด็กๆ อย่างไรบ้าง ลองมาดูข้อมูลที่ Happy Mom.Life นำมาฝากกันเลยค่ะ


Home School เหมาะกับเด็กๆ กลุ่มไหนบ้างมาดูกัน


1. เด็กพิเศษ

เด็กกลุ่มแรกที่เหมาะกับการเรียน Home School คือกลุ่มเด็กพิเศษที่อาจมีปัญหาในด้านของพัฒนาการ เช่น เด็กดาวน์ซินโดรม หรือเด็กออทิสติกค่ะ เนื่องจากเด็กพิเศษจะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โรงเรียนหลายแห่งจึงอาจไม่มีความพร้อมที่จะช่วยดูแล และอาจจะทำให้เด็กพิเศษไม่ได้รับการฝึกฝนพัฒนาการเท่าที่ควร

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ : การเรียน Home School นั้น จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ซึ่งรู้จักลูกดีที่สุดได้ดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด และสามารถวางแผนการเรียนให้ลูกสามารถพัฒนาไปได้ตามศักยภาพของตัวเอง


2. เด็กที่มีปัญหาทางร่างกาย

สำหรับเด็กที่มีปัญหาทางร่างกาย เช่นเด็กพิการ หูหนวก ตาบอด หรือมองเห็นได้เลือนลาง อาจจะมีปัญหาในการเรียนร่วมกับเด็กคนอื่นๆ หรือโรงเรียนที่เปิดรับเด็กในกลุ่มนี้อาจจะเริ่มเปิดรับในช่วงที่เด็กโตแล้ว ทำให้เด็กเสียโอกาสในการเรียนรู้ในช่วงสำคัญของพัฒนาการตามธรรมชาติไป การเรียน Home School จึงเป็นทางออกที่ดีค่ะ

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ : เด็กสามารถเรียนไปตามศักยภาพของตนเองได้ และหลีกเลี่ยงปัญหาการถูกล้อเลียน ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพจิต และพัฒนาการทางสังคมของเด็ก คุณพ่อคุณแม่บางคนจึงเลือกให้เด็กกลุ่มนี้เรียน Home School จนกว่าพวกเขาจะเข้มแข็ง และรับมือกับสังคมได้


3. เด็กที่มีปัญหาสุขภาพ

เด็กที่มีโรคประจำตัว เจ็บป่วยได้ง่ายอาจจะไม่เหมาะกับการเรียนในโรงเรียนทั่วไป เพราะเด็กอาจจะติดเชื้อจากที่โรงเรียน หรือต้องขาดเรียนบ่อยครั้ง ทำให้เรียนไม่ทันเพื่อนๆ และเกิดปัญหาด้านการเรียนได้ในภายหลัง

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ : การเรียน Home School จะช่วยลดปัญหาการติดเชื้อโรคจากเด็กคนอื่นๆ ที่โรงเรียน รวมทั้งเด็กจะได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ต้องตื่นเช้า หรือทำการบ้านจนดึก ไม่ต้องผจญกับปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนน ส่งผลให้เด็กมีสุขภาพที่ดีขึ้น



4. เด็กที่มีพัฒนาการช้ากว่าคนอื่น

เด็กแต่ละคนมีศักยภาพในการเรียนรู้แตกต่างกันไป เด็กที่เรียนรู้ได้ช้า อาจประสบปัญหาในการเรียนรู้ที่โรงเรียนร่วมกับผู้อื่น นอกจากจะเรียนไม่ทันเพื่อนๆ แล้ว อาจเกิดการเปรียบเทียบ เป็นการบั่นทอนความรู้สึกเห็นคุณค่าในตัวเองของเด็กๆ ได้

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ : หากเด็กๆ ได้เรียน Home School คุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนการเรียนที่เหมาะกับเด็กได้ และให้โอกาสเด็กได้พัฒนาไปตามศักยภาพของตนอย่างเต็มที่


5. เด็กที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้

เด็กบางคนมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้าในสังคม อาจจถูกเพื่อนแกล้ง เพื่อนล้อเลียน หรือเป็นเด็กที่ไม่กล้าแสดงออก หรือเป็นโรคกลัวสังคม อาจจทำให้เกิดความรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียน และส่งผลเสียต่อการเรียนของเด็กๆ ได้

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ : ลดความขัดแย้งที่โรงเรียนซึ่งสกัดกั้นการเรียนรู้ของเด็กๆ และให้พ่อแม่มีโอกาสได้ดูแล ฝึกฝนลูกเพื่อแก้ปัญหาด้านการเข้าสังคมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกแข็งแกร่งและพร้อมเข้าสู่สังคมได้ในภายภาคหน้า


Home School เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหลายๆ ครอบครัว


6. เด็กที่ต้องย้ายถิ่นฐานบ่อยๆ

คุณพ่อคุณแม่บางคนจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานบ่อยๆ ด้วยหน้าที่การงาน หรือความจำเป็นบางอย่างในครอบครัว ซึ่งจะส่งผลไม่ดีต่อเด็กๆ ทั้งในเรื่องการเรียนที่ไม่ต่อเนื่อง การต้องลาจากเพื่อนหลายต่อหลายครั้ง การปรับตัวกับเพื่อนใหม่ที่โรงเรียนแห่งใหม่เป็นต้น การเรียน Home School จึงช่วยแก้ปัญหาเหล่านีได้ดีค่ะ

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ : เด็กจะได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ซ้ำๆ ลดปัญหาเรื่องความขัดแย้งทางสังคมที่เด็กอาจต้องเผชิญเมื่อย้ายโรงเรียน


7. เด็กที่พ่อแม่ต้องการให้เรียนแบบ Home School

สุดท้ายแล้ว Home School ก็ยังเหมาะกับเด็กทั่วไปที่อาจไม่ได้มีปัญหาใดๆ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการทำ Home School เพราะเหตุผลหลายๆ อย่าง เช่น อาจจะไม่เชื่อมั่นในระบบการศึกษา หรือต้องการให้ลูกเรียนรู้ในแบบของตัวเอง ก็สามารถทำ Home School ให้ลูกน้อยเรียนได้ ไม่มีปัญหาค่ะ

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ :  หากคุณพ่อคุณแม่ทุ่มเทในการทำ Home School เด็กๆ ก็จะได้เรียนอย่างมีความสุข ได้พัฒนาไปตามแนวทางที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการ และเหมาะสมกับเด็ก ทำให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ค่ะ


อันที่จริงแล้ว แม้การเรียน Home School จะเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย แต่หากคุณพ่อคุณแม่สนใจจริงๆ ก็สามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่อาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมให้มาก และทำให้ถูกกฎหมาย เพียงเท่านี้ลูกน้อยก็จะได้รับการเรียนที่เปี่ยมคุณภาพ เปี่ยมความรักจากคุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

299,217
0
สูตรคำนวนปริมาณนมที่ลูกน้อยต้องการ อายุ 0 -1 ขวบ ให้กินนมวัน...
ทารกแรกเกิด นมแม่ ดูดนม น้ำนม เด็ก
277,833
0
หล่อบาดใจ! 30 ไอเดียทรงผมลูกชายสุดเท่
ทรงผม เด็ก ทรงผมเด็ก แฟชั่น แฟชั่นทรงผมเด็ก
129,625
0
3 ท่า สอนจับทารกวัย 0-3 เดือน “เรอ” หลังกินนมอิ่มแบบเห็นผล
ทารก นมแม่ เด็ก แม่ เรอ

ร้านค้าที่เกี่ยวข้อง

Kinderpuppets สีลม - สาทร
เขตบางคอแหลม , กรุงเทพฯ
ผลิตภัณท์สำหรับเด็กผิวแพ้ง่าย นำเข้าจากเกาหลี อ่อนโยนด้วยสารสกัดบริสุทธิ์จากธรรม... อ่านต่อ
BABY CREAM (180ml) 850 บาท
850 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY SOOTHING GEL (250ml) 690 บาท
> 690 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY SHAMPOO&BATH (250ml) 790 บาท
790 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY LOTION (200ml) 690 บาท
690 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY ORGANIC OIL (60ml) 890 บาท
890 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
Sriphat Medical Center เมืองเชียงใหม่ ,
ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งในครา... อ่านต่อ
คลินิกกุมาร (Pediatric Clinic)
สอบถามราคา
เรื่องทั่วไปของเด็ก สุขภาพเด็ก
Camille Salon เขตดินแดง ,
คามิเย่ ซาลอน สาขาศรีย่าน ยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ เราพร้อมที่จะดูแลและให้คำปรึก... อ่านต่อ
ร้านเสริมสวย
สอบถามราคา
ความสวยความงาม สปาและซาลอน
Thantakit International Dental Center รัชดาภิเษก - ห้วยขวาง
เขตห้วยขวาง , กรุงเทพฯ
ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจเป็นศูนย์ทันตกรรมครบวงจรที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคุณปู่จง ศิริไกร... อ่านต่อ
ทันตกรรมเด็ก
สอบถามราคา
เรื่องทั่วไปของเด็ก สุขภาพช่องปากเด็ก

รีวิวแนะนำ

ทั้งหมด
โยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
Sofit
เรื่องทั่วไปของแม่ตั... เรื่องทั่วไปสำหรับแม...
3.00 1
Yosana Co

https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/

บทความยอดนิยม

ร้านค้าตามหมวดหมู่