ถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงแสนรักของหลาย ๆ ครอบครัว คงต้องมี  "น้องหมา" เพื่อนผู้แสนซื่อสัตย์ ฉลาด แสนรู้ และกตัญญูต่อเจ้าของรวมอยู่ด้วยเป็นแน่ แต่ถึงแม้ว่าน้องหมาจะมีความน่ารัก และเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของบ้าน แต่เชื่อว่าคุณแม่ลูกอ่อนหลายท่านก็มีความกังวลใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

คุณแม่มือใหม่หมดปัญหาการเลี้ยงลูกและน้องหมา

+ กังวลว่าน้องหมาจะเอาเชื้อโรคมาติดลูกน้อยที่ยังมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคไม่มากนัก 

+ กังวลว่าขนที่หลุดร่วงของน้องหมาอาจจะไปสร้างความระคายเคืองต่อลูกน้อย

+ กังวลว่าน้องหมาอาจจะมีเห็บ หมัดตัวเล็ก ๆ ที่จะมาทำอันตรายลูกน้อยได้

+ กังวลว่าถ้าเลี้ยงน้องหมาตัวใหญ่ อาจพลาดมาทำอันตรายลูกเพราะคิดว่าเป็นตุ๊กตา หรือของเล่น

หากคุณแม่มือใหม่มีความกังวลใจเหล่านี้ และยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับการเลี้ยงลูกและเลี้ยงน้องหมาอย่างไร เพราะถึงแม้จะรู้นิสัยใจคอของน้องหมาดี และรู้วิธีการเลี้ยงอย่างถูกต้อง แต่ก็มีข้อให้พึงระวัง โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาด และความปลอดภัย เพราะลูกที่เพิ่งลืมตาดูโลก สมาชิกใหม่ของบ้านยังเป็นเด็กตัวน้อยที่ยังบอบบาง จำเป็นต้องดูแลเด็กอย่างทะนุถนอม Happy Mom.Life มีคำแนะนำดี ๆ ในการเลี้ยงลูกและเลี้ยงน้องหมาให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจมาฝากคุณแม่มือใหม่ค่ะ

คุณแม่มือใหม่ต้องดูแลเด็กให้อยู่ในสายตา

1. จัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน

จากเดิมที่คุณแม่อาจจะเลี้ยงน้องหมาให้วิ่งเล่นได้ทุกพื้นที่ทั้งในและนอกบ้าน แต่หลังจากมีเจ้าตัวเล็กแล้ว คุณแม่คงจะต้องจัดโซนนิ่งให้น้องหมา โดยใช้กรงหรือที่กั้นคอก แบ่งสัดส่วนพื้นที่ให้ชัดเจนในช่วงที่ลูกยังเล็กอยู่ แม้ช่วงนี้น้องหมาอาจจะขาดอิสระไปบ้าง แต่ที่ทำก็เพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาเข้าไปวิ่งเล่นในพื้นที่ที่เจ้าตัวเล็กอยู่ ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้

 2.ดูแลสุขภาพและความสะอาดน้องหมา

คุณแม่อาจจะต้องใส่ใจสุขภาพและความสะอาดของน้องหมาให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยหมั่นอาบน้ำน้องหมาให้สะอาดเป็นประจำ และพาน้องหมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ หมั่นถ่ายพยาธิ กำจัดเห็บ และหมัด เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างที่อาจแพร่กระจายมาสู่ลูกน้อยได้

3.ทำความสะอาดบ้าน

เพราะขนที่หลุดร่วงของน้องหมา อาจสร้างความระคายเคืองต่อลูกน้อย คุณแม่จึงจำเป็นต้องหมั่นทำความสะอาดบริเวณบ้าน และบริเวณที่เลี้ยงน้องหมา โดยนอกจากการปัด กวาด เช็ด ถู ตามปกติแล้ว ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นซ้ำอีกครั้ง เพราะขนของน้องหมามีขนาดเล็ก อาจจะหลงเหลืออยู่บนพื้นได้

4.สร้างความคุ้นเคยระหว่างน้องหมากับลูกน้อย

แม้จะจัดพื้นที่แยกน้องหมาและลูกน้อยออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน แต่อย่าลืมนะคะว่าทั้งคู่ต่างก็เป็นสมาชิกสำคัญของบ้าน ดังนั้นจึงควรสร้างความคุ้นเคยและความผูกพันระหว่างน้องหมากับลูกน้อย โดยที่มีคุณแม่หรือคุณพ่อคอยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เช่น ปล่อยให้น้องหมาเข้ามาในพื้นที่ที่เลี้ยงเจ้าตัวเล็ก ให้ทั้งคู่ได้เห็นและทำความรู้จักกันในเบื้องต้นนะคะ 

5.อย่าปล่อยน้องหมาให้กลายเป็นหมาหัวเน่า 

ในช่วงที่คุณแม่มีลูกน้อยนี้ แน่นอนว่าเวลาทั้งหมดก็จะต้องทุ่มเทให้เจ้าตัวเล็ก แต่ใช่ว่าคุณแม่จะลืมน้องหมา และปล่อยให้ต้องกลายเป็นหมาหัวเน่านะคะ คุณแม่ควรแบ่งเวลามาเล่นกับน้องหมาบ้าง เพื่อป้องกันหมาอิจฉาเด็ก เพราะเขาก็มีชีวิตจิตใจ ต้องการความรักและการดูแลไม่ต่างกันนะคะ

คุณแม่มือใหม่เลี้ยงลูกแต่ต้องไม่ลืมน้องหมา

แบบนี้ก็หมดปัญหาลูกน้อยกับน้องหมาในการอยู่ร่วมกันแล้ว เพราะเลี้ยงลูกและเลี้ยงน้องหมาได้อย่างไร้กังวล และที่สำคัญคุณแม่มือใหม่อย่าเห่อลูกจนลืมน้องหมาที่เลี้ยงไว้ให้ต้องกลายเป็นหมาหัวเน่านะคะ เพราะทั้งลูก ทั้งหมาก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ตามคำแนะนำที่ Happy Mom.Life นำมาฝากกัน