เพราะชีวิตคู่ในชีวิตจริงไม่ได้เหมือนอย่างในละครที่ปิดฉากจบอย่างสวยงามด้วยการแต่งงานของพระเอกนางเอก การประคองชีวิตคู่ในชีวิตจริงให้ไปตลอดรอดฝั่งนั้นไม่ง่ายนัก ยิ่งในสังคมปัจจุบันที่ทั้งสามีและภรรยาต้องทำงานนอกบ้านด้วยกันทั้งคู่ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ทำให้เวลาส่วนใหญ่ต้องหมดไปกับการทำงานและใช้ชีวิตนอกบ้าน จนบางทีก็หลงลืมไปว่าเรื่องในบ้านอย่างงานบ้านก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำร่วมกันเหมือนกันนะคะ

ยิ่งในยุคนี้ที่ภรรยาก็มีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบนอกบ้านไม่น้อยไปกว่าสามี แต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องกลับมาทำหน้าที่ศรีภรรยาที่แสนดี ครบเครื่องทั้งเรื่องบนเตียง เรื่องในครัว เรื่องเงิน เรื่องลูก ฯลฯ โอ๊ย... สารพัด จนบางทีก็รู้สึกเหนื่อยและขี้เกียจเบา ๆ เหมือนกัน ยิ่งถ้าต้องดูแลทั้งลูก ทั้งคุณสามี ทำงานทั้งในบ้าน นอกบ้านแบบนี้ เหนื่อยคูณสี่ไปเลยจ้า 

สามีช่วยเลี้ยงลูกและช่วยทำงานบ้าน

tesheshi.com

มาโฟกัสที่เรื่องงานบ้านกันดีกว่า จริง ๆ เชื่อว่าหลายคู่ก็คงไม่ได้อยากจะกำหนดตายตัวว่าเรื่องทำงานบ้านต้องเป็นหน้าที่ของเธอหรือฉัน เพราะคิดว่าจะแบ่ง ๆ ช่วย ๆ กันทำอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วก็จบลงที่การเกี่ยงกันไปมา ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ทำอาหาร ล้างจาน ล้างรถ ฯลฯ ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่พอใจและทะเลาะกันได้ในที่สุด เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่จะปฏิวัติเสียใหม่ ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ปล่อยให้เหนื่อยอยู่คนเดียวในขณะที่อีกคนนอนสบายแบบนี้ ดูจะเห็นแก่ตัว เอาเปรียบกันไปหน่อยจริงไหมล่ะคะ

สามีไม่ช่วยงานบ้าน ก่อปัญหาชีวิตคู่

humanresourcesonline.net

สำหรับบางคู่อาจจะมองว่านี่เป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ แต่ขอบอกเลยค่ะว่าปัญหาเล็ก ๆ นี้แหละที่ทำเอาหลายคู่มีปัญหาถึงขั้นมีปากเสียง ทะเลาะกันรุนแรงมาแล้ว ซึ่งชนวนเหตุสำคัญก็ไม่ใช่อื่นไกล มาจากสามีที่ไม่ยอมช่วยเลี้ยงลูก ช่วยทำงานบ้าน อีกทั้งยังพบด้วยว่าปัจจัยจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ส่งผลต่อการหย่าร้างที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันด้วย โดยปัญหาจะค่อย ๆ สะสมทีละเล็กทีละน้อย จนถึงวันหนึ่งก็ทำให้ความอดทนในการใช้ชีวิตคู่จบลงได้ในที่สุด แล้วอย่างนี้จะมีวิธีจัดการปัญหาแบบไม่ต้องถึงขั้นแตกหักนี้อย่างไร Happy Mom.Life มีไอเดียมาแนะนำค่ะ

คุยเรื่องงานบ้านกันให้เคลียร์ก่อนเกิดปัญหา

coastalvirginiamag.com

1.คุยกันให้ชัดเจน

ถามหลาย ๆ คู่ว่าใครมีหน้าที่ทำงานบ้าน แทบทุกคู่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ายกให้เป็นหน้าที่ของภรรยา น้อยคู่ที่สามีจะขอเป็นคนแบกรับหน้าที่นี้ไว้ ซึ่งถือเป็นโชคดีมาก ๆ ค่ะ แต่ถ้าบ้านไหนที่สามีละเลยงานบ้าน แถมยังไม่ช่วยเลี้ยงลูกด้วยแบบนี้ ถึงเวลาที่จะต้องมานั่งคุยกันให้ชัดเจนว่างานบ้านเป็นอะไรที่ต้องช่วยกันทำนะคะที่รัก ชอบงานบ้านประเภทไหน ไม่ชอบทำอะไร สามารถทำแทนได้ไหม เพื่อลดปัญหาที่ต้องมานั่งทำงานบ้านที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ถ้าเกิดว่าอันนี้ก็ไม่ชอบ อันนั้นก็ไม่ชอบเหมือน ๆ กันทั้งคู่ ไม่ยากค่ะ เพราะถึงยังไงก็ต้องทำ ถ้าอย่างนั้นแบ่งวันรับผิดชอบกันไปเลย ชัดเจนเนอะจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง 

อ้อนสามีให้ช่วยทำงานบ้าน

makeupandbeauty.com

2.ออดอ้อนคุณสามี

วิธีนี้ถือว่าได้ผลดีเลยนะคะ สำหรับคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันหรือตอนที่กำลังตั้งท้องเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ กอบโกยโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สุดค่ะ เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ทำใจเผื่อเอาไว้บ้าง ถ้าอนาคตต่อให้บ่นว่าบ้านรก สกปรก ให้สามีได้ยิน เสียงของคุณอาจกลายเป็นเพียงสายลมแผ่วเบาที่พัดผ่านไปเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย มีแต่จะตึงเครียดกันไปใหญ่ เพราะฉะนั้นย้อนกลับไปที่ข้อ 1 ถ้าตกลงแบ่งงานบ้านกันทำอย่างชัดเจนแล้ว ต่างคนรู้หน้าที่ของตนเอง ก็ไม่มีปัญหาแล้วล่ะค่ะ 

ถ้าครั้งไหนลืม อาจจะมีการเตือนกันบ้างแบบเบา ๆ เพื่อเป็นการให้เกียรติกัน จะได้ไม่ดูก้าวก่ายกันมากจนเกินไป ถ้ากลัวว่าคุณสามีจะลืมอาจจะแปะกระดาษตัวโต ๆ เอาไว้แทนว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง น่าจะดีกว่าขึ้นเสียงออกคำสั่ง หรือบ่นเป็นหมีกินผึ้งนะคะ เพราะจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดใจได้ค่ะ

สามีน่ารักช่วยภรรยาทำงานบ้าน

votemeyo.com

3.ให้เวลาปรับตัว

ภรรยาที่ขึ้นชื่อว่าระเบียบจัด รักความสะอาดเป็นที่สุด คงต้องให้เวลาสามีปรับตัวเหมือนกันนะคะ ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายไม่มีระเบียบหรือสกปรก เพราะผู้ชายหลายคนมีระเบียบวินัย รักความสะอาดกว่าผู้หญิงอีกด้วยซ้ำไป แต่อย่างที่บอกว่าเรื่องงานบ้านก็ต้องอาศัยเวลาปรับตัว และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ง่าย ๆ เลย อย่างเรื่องที่รองนั่งชักโครก ฉี่เสร็จแล้วก็ช่วยยกลงให้เหมือนเดิม หรือจานกองพะเนินอยู่ในอ่างล้างจาน เห็นแล้วรกหูรกตา ช่วยล้างบ้างน่าจะดี หรือเสื้อผ้าที่ใส่แล้วช่วยโยนให้ลงตรงตะกร้าที ต้องตามเก็บลงตะกร้าให้ทุกวันแบบนี้ก็ไม่ไหว 

ทั้งหมดเป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ที่เชื่อว่าคงต้องพบเจอกันมาบ้างในชีวิตคู่ ซึ่งคุณสามีทุกคนจำเป็นต้องปรับตัว ปรับพฤติกรรม และฝึกฝนตัวเอง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้าน โดยที่ภรรยาก็ต้องใช้ความอดทนเหมือนกัน แล้วคุณจะรู้ว่าการฝึกสามีให้มีระเบียบไม่ได้ยากเกินความสามารถหรอกค่ะ

ให้เวลาสามีปรับตัว ช่วยแบ่งเบางานบ้าน

cdn.thealternativedaily.com

4.ใช้ชีวิตอย่างยืดหยุ่นดูบ้าง

ปัญหาเรื่องงานบ้านจะไม่เป็นปัญหาเลยถ้าปรับที่ตัวเราก่อน ลด ละ เลิกลงบ้าง หมายความว่าไม่ควรเคร่งครัดกับตัวเองมากจนเกินไป เช่น หาเวลาออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกัน ไม่จำเป็นต้องผูกตัวเองไว้บ้านและงานบ้านตลอดทั้งวัน กลับมาถึงบ้าน ก็ไม่จำเป็นว่างานบ้านทุกอย่างจะต้องได้อย่างใจเป๊ะ ๆ เพราะคนเราต่างพ่อต่างแม่ ได้รับการเลี้ยงดูมาต่างกัน อยู่บ้านเขาอาจจะไม่เคยต้องทำ เพราะมีแม่หรือแม่บ้านคอยทำให้ เพราะฉะนั้นก็ต้องเรียนรู้และฝึกฝนกันไป ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ออกมาเนี้ยบมากนัก หรืออาจจะต้องหาตัวช่วยด้วยการซื้อเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานบ้านประเภทนั้น ๆ มาใช้ เพื่อแบ่งเบาภาระของทั้งสามีและภรรยาค่ะ 

ไม่ทะเลาะกันเรื่องงานบ้านก็หวานแบบนี้

0.tqn.com

5.ให้รางวัลกันบ้าง

ถ้าคุณสามีไม่ละเลยงานบ้าน แถมยังทำหน้าที่คุณพ่อที่แสนดีช่วยเลี้ยงลูก คุณแม่ก็คงต้องมีชมเชยหรือให้รางวัลกันบ้างนะคะ รางวัลที่ว่านี้ก็ไม่ต้องไปซื้อหาให้เปลืองสตางค์ เพียงแค่กอดหรือหอมฟอดใหญ่ โมเมนต์ธรรมดาที่ดีต่อใจ บอกเลยทำแล้วฟินเว่อร์ ก็เป็นรางวัลที่ดีไม่น้อย แถมยังเป็นการได้เติมความหวานให้ชีวิตคู่ไปในตัว อีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ไม่ต้องหวานกันไกล หวานกันในบ้านนี่แหละค่ะ   

 แต่ละวิธีไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ เริ่มจากพูดคุยกันให้เข้าใจว่าการเลี้ยงลูกและงานบ้านเป็นเรื่องที่ต้องแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบหรือรับผิดชอบร่วมกัน ถ้ายังนิ่งเฉย คุณแม่ใช้ 5 วิธีที่เรานำมาฝากกันนี้จัดการเลย รับรองได้ผลชัวร์