แม่ลูกสองแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก แม้มีอุปสรรคทั้งแพ้เหงื่อและเลือดจาง แต่ก็ไม่ยอมแพ้!

2018.01.03 605

คุณแม่หลังคลอดหลายท่านคงพบเจอปัญหาน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นไม่ยอมลดลงหลังมีน้อง อาจเพราะกินผิดวิธีตั้งแต่ตั้งครรภ์ หรือไม่สามารถให้นมลูกด้วยตัวเองได้ วันนี้เราจึงชวน คุณยุ้ย กมลวรรณ เจริญรัฐ คุณแม่คนสวยซึ่งมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังจากมีน้องทั้งสองคน แถมยังมีอุปสรรคด้านสุขภาพที่ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากอีกต่างหาก หลังจากลองผิดลองถูกมาหลายทาง ในที่สุดเธอจะลุกขึ้นมาเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และกลับมาลดน้ำหนักได้สำเร็จด้วยวิธีไหน เราลองไปคุยกับเธอกันเลยค่ะ


คุณยุ้ยกับพัฒนาการความสวยที่เห็นได้ชัดเจน



"น้ำหนักขึ้นพรวดพราด เพราะข้าวเหนียว!"


“ตอนตั้งครรภ์ลูกคนแรก เราน้ำหนักขึ้นมา 21.7 กิโลกรัม! ปกติช่วง 1-2 เดือนแรก คนส่วนใหญ่จะแพ้ท้องกัน แต่เราไม่รู้สึกแพ้ท้องเลย จนเมื่ออายุครรภ์ได้สักประมาณ 28 สัปดาห์ เราหิวตลอดเวลา ก็เลยชอบกินข้าวเหนียวมาก เพราะรู้สึกว่ากินแล้วอยู่ท้อง แต่เป็นวิธีกินที่ผิดนะคะ เพราะข้าวเหนียวคืออาร์โบไฮเดรต สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นน้ำตาล ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร กินไปเพราะหิว ก็เลยเป็นหนึ่งสาเหตุให้น้ำหนักขึ้นเกินมารตฐานในช่วงตั้งครรภ์

โดยปกติแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมีน้ำหนักขึ้นตลอดอายุการตั้งครรภ์เกิน 15 กิโลกรัม แต่น้ำหนักเราขึ้นเกินมาตรฐาน บวกกับบ้านเรามีประวัติเป็นเบาหวาน เราเลยถูกคุณหมอจับเจาะน้ำตาลบ่อยมาก 

โชคดีที่ผลออกมาก็ไม่ได้เป็นเบาหวาน แต่คุณหมอก็สั่งให้เราควบคุมน้ำหนักอย่างเคร่งครัด เราก็พยายามปรับตัว อาหารส่วนใหญ่ที่เรากินได้ตอนตั้งครรภ์ก็เป็นพวกนม ผัก ปลา ผลไม้ แต่น้ำหนักก็ยังขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่หยุดยั้งอยู่ดี...”


ช่วงก่อนตั้งครรภ์


"ให้นมลูกไม่ค่อยได้ น้ำหนักก็ลงช้า"


“เราคลอดน้องโดยวิธีการผ่าคลอด เพราะอายุครรภ์เกือบจะ 40 สัปดาห์ น้องก็ยังไม่กลับหัว และเชิงกรานเราก็แคบด้วย ก่อนออกจากโรงพยาบาล เราขอพยาบาลชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่าน้ำหนักเราลงไปประมาณ 8 กิโลกรัม โดยที่ลูกเอาไป 3.5 กิโลกรัม เอง ค้างอยู่ที่เรา 13.7 กิโลกรัม!  

เราตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งช่วยเผาผลาญพลังงานได้ แต่เราไม่มีน้ำนมคุณหมอให้ยาเร่งน้ำนมแม่มากิน บวกกับกินอาหารเร่งน้ำนม และพยายามให้ลูกดูดเต้า แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายเลยให้ลูกกินนมแม่ควบคู่กับนมกระป๋อง พอเรากลับมาทำงาน น้ำนมก็แห้งไป เราคิดว่าการที่เราไม่ได้ให้ลูกกินนมแม่ทำให้น้ำหนักของเราลงช้า”

 

 ให้นมไม่ได้ น้ำหนักก็ลงช้า


ท้องที่สองน้ำหนักขึ้นเอา...ขึ้นเอา

"ตอนลูกคนแรกอายุขวบกว่าๆ น้ำหนักของเราก็ลงโดยอัตโนมัติ แต่พอตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง น้ำหนักก็ขึ้นมาอีก 22.3 กิโลกรัม! ท้องที่สองนี้เราแพ้ท้อง กินอะไรก็อาเจียนออกมาหมด แต่น้ำหนักไม่ลดลงเลย หมอก็ค่อนข้างให้เราควบคุมเรื่องน้ำหนักมาก แต่น้ำหนักเราก็ขึ้นมาแบบไม่หยุดยั้ง พอคลอด น้ำหนักก็ลงไปประมาณ 8 กิโลกรัมเหมือนเดิม  โดยที่ลูกเอาไป 3.6 กิโลกรัมเอง ค้างอยู่ที่เรา 13.7 กิโลกรัม

ท้องนี้น้ำนมเริ่มมี ก็ให้นมลูกได้ แต่พอกลับมาทำงาน เราไม่ค่อยได้ปั๊มนม ไม่ค่อยให้ลูกดูดเต้า น้ำนมก็ค่อยๆ หายไป ส่วนน้ำหนักเราก็ลงช้ามาก!

เราก็เลยตัดสินใจเข้าฟิตเนส เน้นไปที่การคาร์ดิโอ เล่นมา 1 ปี น้ำหนักก็ลดลงแต่ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยเฟิร์ม เพราะเราไม่ได้ควบคุมเรื่องอาหาร แล้วสุดท้ายเราก็เลิกเล่นฟิตเนสไป เพราะไปเรียนต่อปริญญาโทภาคค่ำ ช่วงนั้นกินมื้อค่ำเยอะ น้ำหนักก็เลยขึ้นมาถึง 68.5 กิโลกรัม”


ช่วงพีคที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง


"กลับมาฮึดอีกครั้ง เพราะคำทัก 

แต่มีอุปสรรค คือเลือดน้อยและแพ้เหงื่อ!"


"หลังจากผ่านไปได้สักพัก เราก็กลับมาลดน้ำหนักอย่างจริงจังอีกครั้ง เพราะเวลาที่เราออกงานต่างๆ เช่น พบปะสังสรรค์กับลูกค้า เราหาเสื้อผ้าค่อนข้างลำบาก บางครั้งชุดสวยแต่พอเราใส่แล้วรู้สึกไม่มั่นใจ หรือบางทีลูกค้าก็ทักบ้างว่าทำไมปล่อยตัวให้อ้วนล่ะ

อีกอย่าง…ตั้งแต่คลอดลูก ก็ตรวจสุขภาพทุกปี ผลออกก็พบว่าเลือดน้อยและมีขนาดเล็กตลอด เลยปรึกษาหมอว่า เราอยากออกกำลังกายเพราะไม่มั่นใจเรื่องรูปร่าง แต่ก็รู้สึกเหนื่อยง่ายมากพอออกกำลังกาย ควรทำอย่างไร หมอก็บอกว่า เราควรออกกำลังกายอย่างยิ่ง แต่ให้ระวังเรื่องคาร์ดิโอ


สนุกกับการออกกำลังกาย


“ด้วยความที่เราเป็นคนเลือดน้อยและมีขนาดเล็กกว่าปกติ พอคาร์ดิโอก็จะทำให้เหนื่อยง่าย บางครั้งถึงกับหน้ามืด วิธีแก้ปัญหาคือเราก็จะไม่ฝืน ถ้าเหนื่อยมากก็จะหยุด ช่วงแรกๆ นี่วิ่งไม่ได้เลยนะ เราก็เลยเปลี่ยน ค่อยๆ ปรับ เริ่มจากเดินเอา แต่ใช้ระยะเวลายาวนานขึ้น พอร่างกายเริ่มชินก็เปลี่ยนเป็นเดินเร็ว หลังๆ ก็วิ่งได้บ้างแล้วแต่ยังไม่ค่อยนาน

อีกอุปสรรคหนึ่งคือ เราเป็นคนผิวแห้งมาก และมีอาการแพ้เหงื่อ บางครั้งเหงื่อจะออกเยอะก็จะรู้สึกคันมาก หากเผลอไปเกาก็จะแสบ เราเคยปล่อยไว้อย่างนั้นจนออกกำลังกายเสร็จแล้วค่อยไปอาบน้ำทีเดียว ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นผื่นแดงขึ้นเต็มตัวจนต้องไปหาหมอ นี่เป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้เมื่อก่อนเราไม่ชอบออกกำลังกาย

แต่หลังๆ พอเรารู้สึกคันตอนออกกำลังกาย เราก็จะหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดๆ เหงื่อเอา ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็ล้างตัวแล้วออกมาออกกำลังกายต่อ ตอนนี้ก่อนนอนทาครีมเยอะขึ้น ผิวก็ยังแห้งอยู่บ้าง แต่รู้สึกว่าดีขึ้น คือไม่ค่อยระคายเคืองตอนออกกำลังกายเท่าไรแล้ว เราก็เลยไม่เอาเรื่องแพ้เหงื่อมาเป็นข้ออ้างในการออกกำลังกายให้ตัวเองอีกค่ะ”



รูปร่างดีขึ้นหลังความพยายาม


"เริ่มคุมอาหาร และทำอาหารเอง"


“เราพอจะมีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้นหลังจากเรียนจบปริญญาโท และลูกๆ ไปโรงเรียนแล้ว เพราะช่วงนี้เด็กๆ เหน็ดเหนื่อยกลับมาก็เข้านอนกันเร็ว ทำให้เรามีเวลาในช่วงหัวค่ำมากขึ้น เราก็เลยเริ่มศึกษาการออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร แต่ไม่ถึงกับนับแคลอรี่หรอกนะ เพราะเรานับไม่เป็น (หัวเราะ) หลักๆ ที่เราทำก็แค่ลดแป้ง เลี่ยงน้ำตาลหรืออาหารหวาน งดของทอด งดของมัน งดขนม งดน้ำอัดลม หากมีเวลาทำอาหารกินเองได้ยิ่งดี

ส่วนการออกกำลังกาย จากเดิมที่เน้นคาร์ดิโออย่างเดียว เราก็ออกกำลังแบบบอดี้เวทเพื่อกระชับสัดส่วนไปด้วย สลับกับคาร์ดิโอ้เพื่อลดน้ำหนัก โดยใช้วิธีหาจากคลิปในยูทูป และออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 1-1.5 ชั่วโมง พอเราเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจัง รูปร่างเปลี่ยนแปลงเลย รู้สึกสัดส่วนกระชับ แน่นขึ้นไม่เผละ จากปกติจะใส่กางเกงยีนส์ที่เอว 32 - 34 นิ้ว (size XXL) ตอนนี้ลดลงมาอยู่ที่ 30 นิ้ว (size XL) เราก็รู้สึกดี และมั่นใจมากขึ้นเยอะเลยค่ะ


ฝากถึงคุณแม่หลายคนที่ตั้งใจลดน้ำหนักนะคะ ว่าวิธีที่ดีก็คือ ในระหว่างการตั้งครรภ์ให้ควบคุมอาหารการกินและน้ำหนักตัวตามที่คุณหมอแนะนำ น้ำหนักจะได้ไม่ขึ้นเยอะมากหลังคลอด และสำหรับคนที่มีน้ำนมให้ลูกกิน อยากให้ให้นมลูกให้เต็มที่ก่อนแล้วค่อยลดน้ำหนักนะคะ (จากใจของคนที่อยากให้นมลูกด้วยตัวเองแต่ไม่สำเร็จ)

นอกจากนี้ ให้หาเวลาว่างออกกำลังกาย ห้ามอดอาหาร แต่รับประทานอาหารตรงเวลาและครบ 3 มื้อ เพราะมีผลต่อระบบการเผาผลาญมาก โดยเลือกประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำอาหารทานเองได้ยิ่งดี ที่สำคัญ ห้ามพึ่งยาลดความอ้วน และอาหารเสริมที่โฆษณาชวนเชื่อช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักโดยเด็ดขาดค่ะ”


แม้ว่าตอนที่เราไปขอสัมภาษณ์คุณยุ้ย คุณยุ้ยจะออกตัวว่าตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้มีรูปร่างที่ผอมเพรียวตามเป้าที่ตั้งใจไว้ แต่ที่เราเห็นก็คือ เธอมีความพยายามและตั้งใจจริง จนอดไม่ได้ที่จะขอให้เธอมาเล่าประสบการณ์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คุณแม่ทุกท่านที่อยากลดน้ำหนัก หวังว่าเรื่องของคุณยุ้ย จะทำให้คุณแม่หลายๆ ท่าน กลับมามีพลังในการหันมาดูแลรูปร่างของตัวเองกันนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

299,200
0
สูตรคำนวนปริมาณนมที่ลูกน้อยต้องการ อายุ 0 -1 ขวบ ให้กินนมวัน...
ทารกแรกเกิด นมแม่ ดูดนม น้ำนม เด็ก
277,557
0
หล่อบาดใจ! 30 ไอเดียทรงผมลูกชายสุดเท่
ทรงผม เด็ก ทรงผมเด็ก แฟชั่น แฟชั่นทรงผมเด็ก
129,565
0
3 ท่า สอนจับทารกวัย 0-3 เดือน “เรอ” หลังกินนมอิ่มแบบเห็นผล
ทารก นมแม่ เด็ก แม่ เรอ

ร้านค้าที่เกี่ยวข้อง

Kinderpuppets สีลม - สาทร
เขตบางคอแหลม , กรุงเทพฯ
ผลิตภัณท์สำหรับเด็กผิวแพ้ง่าย นำเข้าจากเกาหลี อ่อนโยนด้วยสารสกัดบริสุทธิ์จากธรรม... อ่านต่อ
BABY CREAM (180ml) 850 บาท
850 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY SOOTHING GEL (250ml) 690 บาท
> 690 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY SHAMPOO&BATH (250ml) 790 บาท
790 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY LOTION (200ml) 690 บาท
690 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
BABY ORGANIC OIL (60ml) 890 บาท
890 THB
เด็กทารก ดูแลเด็กแรกเกิด-3 เดือน
Sriphat Medical Center เมืองเชียงใหม่ ,
ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งในครา... อ่านต่อ
คลินิกกุมาร (Pediatric Clinic)
สอบถามราคา
เรื่องทั่วไปของเด็ก สุขภาพเด็ก
Camille Salon เขตดินแดง ,
คามิเย่ ซาลอน สาขาศรีย่าน ยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ เราพร้อมที่จะดูแลและให้คำปรึก... อ่านต่อ
ร้านเสริมสวย
สอบถามราคา
ความสวยความงาม สปาและซาลอน
Thantakit International Dental Center รัชดาภิเษก - ห้วยขวาง
เขตห้วยขวาง , กรุงเทพฯ
ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจเป็นศูนย์ทันตกรรมครบวงจรที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคุณปู่จง ศิริไกร... อ่านต่อ
ทันตกรรมเด็ก
สอบถามราคา
เรื่องทั่วไปของเด็ก สุขภาพช่องปากเด็ก

รีวิวแนะนำ

ทั้งหมด
โยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
Sofit
เรื่องทั่วไปของแม่ตั... เรื่องทั่วไปสำหรับแม...
3.00 1
Yosana Co

https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/

บทความยอดนิยม

ร้านค้าตามหมวดหมู่