เด็กนักเรียนไทยเราจะมีความแตกต่างจากชาติอื่นๆ คือ เรามีวิชาภาษาไทย และในหนังสือเรียนภาษาไทยตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษา ก็จะมีโครงกลอนสอดแทรกในเนื้อหาบทเรียนอยู่เรื่อยๆ ซึ่งในบางครั้ง เด็กนักเรียนที่เรียนในระดับชั้น ป.4- ป.6 ก็อาจจะมีโอกาสได้รับการบ้านจากคุณครู ให้แต่งกลอนเกี่ยวกับวันสำคัญต่างๆ เช่น วันสุนทรภู่ วันพ่อ วันแม่ วันเด็ก ฯลฯ ด้วยก็ได้ ฉะนั้น เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเรียนอยู่ระดับประถม สามารถสอนการบ้านลูกได้ วันนี้ HappyMom.Life เรามีวิธีแต่งกลอนให้สัมผัสสระได้อย่างถูกต้องตามบทเรียนของเด็กในระดับชั้นประถม มาให้คุณพ่อคุณแม่ที่ลืมวิธีแต่งกลอนไปแล้ว มารื้อฝื้นใหม่ เอาไว้ไปช่วยลูกแต่งกลอนเพราะๆ กัน ดังนี้

คำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง คือ คำที่นำมาร้อยเรียงตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์แต่ละชนิด ตามจำนวนคำ วรรค และสัมผัสที่กำหนดแล้ว จะได้คำประพันธ์ประเภทร้อยกรองรูปแบบต่างๆ เช่น กลอนสุภาพ กลอนแปด กาพย์ยานี๑๑

กลอนสุภาพ แบ่งออกเป็นหลายชนิด มีชื่อเรียกแตกต่างกัน ถ้าเรียกชื่อตามจำนวนคำในวรรณคดีก็จะมี กลอนสี่ กลอนหก กลอนแปด

กลอนสี่ 1 บท มี 4 วรรค วรรคละ 4 คำ ตามผัง

คำท้ายวรรคแรก สัมผัสคล้องจองกับคำแรกของวรรคที่ 2
คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 สัมผัสคล้องจองกับคำสุดท้ายของวรรคที่ 3
คำสุดท้ายของวรรคที่ 3 สัมผัสคล้องจองกับคำแรกของวรรคที่ 4
คำสุดท้ายของวรรคที่ 4 ของบทแรก สัมผัสคล้องจองกับคำสุดท้ายวรรคที่ 2 ของบทถัดไป

กลอนแปด 1 บทมี 4 บาท บาทละ 8 คำ ตามผัง

บาทที่ 1 เรียกว่า บาทเอก มี 2 วรรค คือวรรคสดับและวรรครับ

บาทที่ 2 เรียกว่า บาทโท มี 2 วรรค คือวรรครองและวรรคส่ง

                  วรรคหนึ่ง มีคำทั้งหมด 7-9 คำ ที่นิยมที่สุด คือ 8 หรือ 9 คำ

                  การจัดคำแต่ละวรรคให้จัดเป็น 3-2-3 หรือ 3-3-3

ข้อบังคับเรื่องเสียงของวรรณยุกต์ท้ายวรรค

คำสุดท้ายวรรคที่ 1 ลงได้ทุกเสียงแต่ไม่นิยมเสียงสามัญ

คำสุดท้ายวรรคที่ 2 ลงได้เฉพาะเสียงเอก โท จัตวา ห้ามใช้ เสียงสามัญ เสียงตรี

คำสุดท้ายวรรคที่ 3 ลงได้เฉพาะเสียงสามัญ เสียงตรี ห้ามใช้เสียง เสียงเอก เสียงโท เสียงจัตวา

คำสุดท้ายวรรคที่ 4 ลงได้เฉพาะเสียงสามัญ เสียงตรี ห้ามใช้ เสียงเอก เสียงโท เสียงจัตวา

กาพย์ยานี ๑๑ วรรคแรกมี 5 คำ วรรคหลังมี 6 คำ รวมเป็น 11 คำ 

บาทเอกและบาทโทมีจำนวนคำเหมือนกัน

บทหนึ่งมี 2 บาท บาท ที่ 1 เรียกว่า บาทเอก บาทที่ 2 เรียกว่า บาทโท บาทหนึ่งมี 2 วรรค หนึ่งบทมี 4 วรรค

วรรค 1 เรียกว่า วรรคสดับ   วรรค 2 เรียกว่า วรรครับ

วรรค 3 เรียกว่า วรรครอง     วรรค 4 เรียกว่า วรรคส่ง 

ข้อบังคับเรื่องเสียงของวรรณยุกต์ท้ายวรรค      

คำสุดท้ายของวรรคที่ 1 สัมผัสกับคำที่ 1 , 2 และคำที่ 3 ของวรรคที่ 2

คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ 3

คำสุดท้ายของวรรคที่ 4 สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ 2 ของบทต่อไป  (สัมผัสระหว่างบท)

เป็นยังไงบ้างคะ ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถนำแผนผังเหล่านี้ไปช่วยลูกแต่กลอนได้สบายๆ เลย ทีนี้ก็เหลือแต่การเลือกใช้คำ เท่านี้ก็ทำให้การทำการบ้านกับลูกเป็นเรื่องสนุก เป็นกิจกรรมในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วมได้แล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง

5 ข้อแนะนำในการเลือกหนังสือเด็ก เสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกเล็กอายุ 0-3 ขวบ

4 วิธีเลือกกระเป๋าให้ลูกรัก แก้ปัญหากระเป๋านักเรียนหนัก อันตรายที่ทำลายสุขภาพเด็กๆ