ในปัจจุบันนี้การจัดฟันดูเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน เราก็มักจะเห็นคนจัดฟันอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันในยุคนี้จึงไม่ต้องคิดหนักเหมือนยุคก่อนๆ เพราะคุณหมอช่วยได้ ไม่ต้องทนฟันไม่สบกันจนกัดอาหารไม่ขาด หรือต้องหมดความมั่นใจเพราะรูปหน้าเบี้ยวกันอีกต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม ในเด็กๆ นั้น การจัดฟันอาจมีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคิดใคร่ครวญมากเสียหน่อย เพื่อให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ Happy Mom.Life เลยอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาคุยกันถึง 5 เรื่องต้องใคร่ครวญให้ชัวร์ ก่อนจะพาลูกไปจัดฟันกันค่ะ
จัดฟัน
elements.envato.com
อายุของลูก
อันดับแรกที่อยากให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณาก่อนเลยคืออายุของลูกน้อยค่ะ โดยปกติแล้ว ฟันแท้ของคนเราจะขึ้นครบเมื่ออายุประมาณ 12-15 ปี แต่การจัดฟันสามารถทำได้เร็วกว่านั้นค่ะ
ปัจจุบันนี้ คุณหมอแนะนำให้พาลูกอายุ 7-10 ปี ไปตรวจเพื่อพิจารณาทำการจัดฟันได้เลย โดยการจัดฟันในเด็อายุต่ำกว่า 10 ปี อาจเป็นการจัดฟันเพียงบางส่วนก่อน เพื่อลดความรุนแรงของปัญหา แล้วจึงจัดฟันแบบเต็มรูปแบบต่อไปในอนาคตนั่นเองค่ะ
ปัญหาฟันของลูก
เรื่องที่สองที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณา คือปัญหาฟันของลูกรัก หากลูกน้อยไม่ได้มีปัญหาสุขภาพฟันมากมายนัก ก็อาจไม่จำเป็นต้องไปจัดฟันก็ได้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากลูกน้อยมีปัญหาฟันค่อนข้างมาก เช่น ฟันล่างยื่นคร่อมฟันบนจนทำให้ใบหน้าเบี้ยว ก็ควรจะได้รับการรักษาเพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตต่อไป
ค่าใช้จ่าย
การจัดฟันแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก คุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกน้อยจัดฟันจึงอาจต้องเตรียมการในส่วนนี้เอาไว้ให้ดี โดยอาจกันเงินเพื่อการนี้ไปเลยส่วนหนึ่ง เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง และไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินด้านอื่นๆ ทั้งนี้ค่ารักษาจะมากหรือน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของทันตแพทย์ และคลินิกที่เลือกไปทำค่ะ
ความรับผิดชอบของลูก
เรื่องความรับผิดชอบของลูกก็สำคัญไม่แพ้กัน คุณพ่อคุณแม่อาจพิจารณาดูนิสัยของลูกว่าสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ดีพอไหม สามารถดูแลความสะอาดของฟันได้ดีพอหรือยัง เพราะการจัดฟันนั้นมีข้อจำกัดอยู่หลายข้อ ไม่ว่าจำเป็น
ด้วยเหตุนี้ เด็กที่ได้รับการจัดฟันจึงควรเป็นเด็กที่ดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ หรืออย่างน้อย คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ
elements.envato.com
ความคุ้มค่า
สุดท้าย ให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณาถึงความคุ้มค่าในการจัดฟัน เพราะหลังจากจัดฟันแล้ว ลูกอาจต้องใส่รีเทรนเนอร์ตลอดชีวิตเพื่อป้องกันปัญหาฟันล้ม รวมทั้งระหว่างจัดฟัน ลูกอาจต้องทนกับความเจ็บปวดและปัญหาต่างๆ เช่นฟันผุตามมา คุณพ่อคุณแม่จึงอาจต้องคิดใคร่ครวญว่า การจัดฟันนี้คุ้มค่าไหมสำหรับสุขภาพฟันลูกรัก หากคิดว่าคุ้มค่าแล้ว ก็เดินหน้าได้เลยค่ะ
เรื่องของการจัดฟัน อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ต้องใช้ความใส่ใจ และคิดไตร่ตรองอยู่พอสมควร คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณา 5 สิ่งที่เราพูดถึงนี้ดูนะคะ แต่หากพิจารณาแล้วยังไม่มั่นใจ ลองปรึกษาทันตแพทย์ควบคู่ไปด้วย ถึงผลดี ผลเสียก็ได้ แล้วจะได้คำตอบที่ดีอย่างแน่นอนค่ะ
กรุณากรอกข้อมูลในฟอร์มด้วยข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้เราสามารถยืนยันบัญชีของคุณได้
https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/