"ออทิสติก" เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง ส่งผลให้ลูกรักมีพัฒนาการตามวัยที่ล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พัฒนาการด้านภาษาและสังคม คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจวิตกกังวลเมื่อพบว่าลูกน้อยเริ่มมีพฤติกรรมเข้าข่ายการเป็นออทิสติก บางคนอาจเครียดจนทำให้เกิดปัญหาครอบครัวได้เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม Happy Mom.Life ยังไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่กังวลมากเกินไปนักนะคะ เพราะอาการออทิสติกนี้ สามารถบำบัด รักษาให้ดีขึ้นได้ หากเด็กๆ ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง เราจึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองทำตามคำแนะนำของเรา เพื่อดูแลลูกรักของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
pexels.com
1. สังเกตพฤติกรรมลูก
สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยก็คือ การคอยหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกรัก ว่าเข้าข่ายเป็นออทสติกได้หรือไม่ เพราะหากคุณพ่อคุณแม่พบความผิดปกติได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งพาไปพบคุณหมอเพื่อรักษาได้เร็วเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อพัฒนาการเด็กค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว กลุ่มอาการออทิสติกจะแสดงออกให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นได้ไม่ยากนัก คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตอาการของลูกรักตามตารางด้านล่างได้เลยค่ะ
สัญญาณเตือนออทิสติกในวัยทารก
อายุ | พฤติกรรมที่สังเกตได้ |
6 เดือน |
|
9 เดือน |
|
12 เดือน |
|
16 เดือน |
|
24 เดือน |
|
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจลองสังเกตพฤติกรรมอื่นๆ ของลูก ซึ่งมักเป็นพฤติกรรมทั่วไปของเด็กออทิสติกประกอบด้วย ได้แก่พฤติกรรมเหล่านี้ค่ะ
อย่าลืมคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกเสมอ
pexels.com
2. ยอมรับความจริง
ปัญหาการดูแลรักษาเด็กที่เข้าข่ายเป็นออทิสติก หลายครั้งก็เกิดขึ้นจากตัวคุณพ่อคุณแม่เองที่ไม่ยอมรับว่าลูกอาจมีความผิดปกติ คุณพ่อคุณแม่บางท่านคิดว่าลูกเพียงแค่มีพัฒนาการล่าช้า หรือมีนิสัยแตกต่างจากคนอื่นๆ ทำให้เด็กไม่ได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้อง ส่งผลให้ลูกรักอาการหนักขึ้น จนส่งผลต่อพัฒนาการและการใช้ชีวิตของเขาได้ คุณพ่อคุณแม่ที่พบว่าลูกน้อยอาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นออทิสติก อย่านิ่งนอนใจนะคะ ส่งให้คุณหมอและผู้เชี่ยวชาญดูแลน่าจะดีที่สุดค่ะ
3. พบแพทย์โดยเร็ว
ช่วงอายุของลูกน้อยที่เหมาะกับการเข้ารับการดูแลรักษาอาการออทิสติก อยู่ที่ช่วงก่อนอายุ 3-5 ปี จะได้ผลดีที่สุด หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตอาการลูกรักออกได้เร็ว และมาพบคุณหมอเร็ว โอกาสที่ลูกจะมีพัฒนาการดีขึ้น และสามารถใช้ชีวิตปกติได้ก็มีมากขึ้นเช่นกันค่ะ อย่างไรก็ตาม การรักษาอาการออทิสติกจะได้ผลมากหรือน้อย และต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนนั้นยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างนั้น การพาลูกรักมาให้คุณหมอดูแล ก็ย่อมดีกว่าการปล่อยไปเฉยๆ อย่างแน่นอน
ออทิสติกเป็นอาการที่คุณพ่อคุณแม่ย่อมไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกรัก แต่หากเกิดขึ้นแล้ว ก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่ทำใจยอมรับปัญหา และค่อยๆ ให้ความร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดรักษาต่อไป เพราะแม้อาการออทิสติกอาจจะทำให้พฤติกรรมของลูกไม่เหมือนพฤติกรรมปกติของเด็กอื่นๆ แต่หากได้รับการดูแลรักษา ได้รับการพัฒนาอย่างดีแล้ว เด็กที่เป็นออทิสติก ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างมากทีเดียวค่ะ Happy Mom.Life ขอเอาใจช่วยคุณพ่อคุณแม่ทุกคนนะคะ
กรุณากรอกข้อมูลในฟอร์มด้วยข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้เราสามารถยืนยันบัญชีของคุณได้
https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/