“ไมโคพลาสมา” เป็นโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียขนาดเล็ก ที่มีชื่อว่า “mycoplasma pneumonia” ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้เกิดอาการไอ เป็นไข้หวัด เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ และปอดบวม ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อพบได้ทุกช่วงวัย แต่กลุ่มผู้ป่วยที่พบบ่อย คือเด็กและวัยรุ่น ที่อยู่ในที่มีการติดเชื้อโรคระบาด เช่น ครอบครัวที่เป็นโรคไมโคพลาสมา สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน โรงเรียน โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
โดยจะติดได้จากการสัมผัส ใกล้ชิด หรือรับละอองการไอหรือจามของผู้ป่วยเข้าไป เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อไปแล้ว จะมีระยะฟักตัวประมาณ 1-4 สัปดาห์ ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง รักษาตามอาการ และรับประทานยาปฏิชีวนะ ซึ่งบางรายอาการไข้อาจหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่ถึงอย่างไรก็ต้องระวัง เพราะหากมีอาการนานและหนักกว่าที่ได้กล่าวไป อาจมีภาวะแทรกซ้อน ทำให้เกิดการติดเชื้อนอกระบบทางเดินหายใจ เช่น ติดเชื้อไมโคพลาสมาที่สมองและไขสันหลัง หรืออาจเป็นโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบได้
สังเกตอย่างไร ถ้าลูกติดเชื้อไมโครพลาสมา
อาการของไมโครพลาสมาจะมีความคล้ายคลึงกับโรคหวัดทั่วไป แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการ ว่าเด็กอาจกำลังเป็นโรคไมโครพลาส ได้จาก
• ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส จนเกิดอาการหนาวสั่น
• ไอแห้ง ๆ อาจมีเสมหะขาว ค่อย ๆ เป็นมากขึ้น
• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย
• เจ็บคอ คันคอ คอแดงเล็กน้อย
• เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก แต่น้อยที่จะพบ
• มีผื่นแดงตามร่างกายลักษณะคล้ายไข้ออกผื่น (ส่าไข้)
• ถ้าอาการรุนแรงขึ้น จะทำให้หายใจเร็ว เหนื่อยหอบ
วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยง
สาเหตุที่วันนี้ HappyMom.Life เรานำเสนอเรื่องของโรคไมโคพลาสมา ก็เพราะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดโรคระบาดได้ง่าย อีกทั้งยังใกล้ช่วงโรงเรียนเปิดเทอม ฉะนั้น จึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ที่มีบุตรหลานดูแลและใส่ใจสุขภาพของลูก หากลูกมีอาการดังกล่าว ควรรีบพาไปพบแพทย์และรักษาให้หายเสียไม่เช่นนั้น อาจจะนำเชื้อโรคไปติดเพื่อนๆ ในห้องเรียนก็ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก - ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค กระทรวงสาธารณสุข
กรุณากรอกข้อมูลในฟอร์มด้วยข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้เราสามารถยืนยันบัญชีของคุณได้
https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/