จะจัดการอย่างไรดี เวลาพาลูกไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลทีไร เป็นอันต้องร้องไห้จ้าทุกที เห็นแบบนี้คนเป็นแม่สงสารหนักมาก ที่เด็กร้องไห้ตลอดเมื่อรู้ว่าต้องไปโรงพยาบาลพบคุณหมอ นั่นเป็นเพราะเด็กอาจเคยมีประสบการณ์ที่ต้องเจ็บตัวจากโรงพยาบาลมาก่อน เคยไม่สบายต้องไปหาหมอ ถูกฉีดยา ถูกฉีดวัคซีน เจาะเลือดอยู่บ่อย ๆ  ทำให้จำความรู้สึกนั้นได้ดีแบบฝังใจ พอรู้ว่าคุณแม่จะพาไปโรงพยาบาลทีไร ก็เลยต้านทานสุดตัว

พาลูกไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล

smithsonianmag.com

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการมาพบคุณหมอที่โรงพยาบาลนั้นไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด อีกทั้งคุณหมอเด็กทุกคนก็ดูท่าทางใจดี งานนี้ก็เลยต้องเป็นหน้าที่ของคุณแม่แล้วล่ะค่ะว่าจะรับมือและจัดการให้ลูกก้าวผ่านความกลัวนี้ไปได้อย่างไร ซึ่งถ้าเป็นเด็กในช่วง 6 เดือนแรกจะไม่ค่อยกลัวคุณหมอเท่าไหร่ เพราะเป็นวัยที่ยังไม่รู้สึกกลัวคนแปลกหน้า ใช้การหลอกไม่มากนัก มักจะตรวจสำเร็จได้โดยไม่ร้องไห้ แต่เด็กในช่วง 6 เดือนถึง 3 ปี จะเริ่มตรวจยากแล้ว คุณหมอและคุณแม่อาจจะต้องใช้ศิลปะขั้นสูง เช่น การหลอกล่อด้วยของเล่น หรือตุ๊กตา หรือทำทีเป็นว่าคุณแม่ก็มาตรวจด้วยเหมือนกัน

แนะนำคุณแม่สักนิดนะคะว่าไม่ควรขู่ลูกด้วยคำพูดแบบว่า "ถ้าหนูดื้อมาก เดี๋ยวแม่ให้คุณหมอฉีดยาซะเลย" เพราะลูกจะยิ่งรู้สึกกลัว รู้สึกว่าการที่คุณแม่พาไปหาหมอคือการทำโทษ เป็นการปลูกฝังให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับคุณหมอมากขึ้นไปอีก ซึ่งจริง ๆ แล้วการที่ลูกกลัวหมอนั้นแก้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องอาศัยเทคนิคและการเตรียมตัวกันสักหน่อย Happy Mom.Life มี 5 วิธีเปลี่ยนให้การหาหมอไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป ให้คุณแม่นำไปปรับใช้กันค่ะ

เด็กร้องไห้กลัวเข็มฉีดยา

thebrunettediaries.com

1.ซ้อมเล่นบทบาทสมมติกันอยู่ที่บ้านบ่อย ๆ โดยคุณแม่สามารถซื้อชุดตรวจคุณหมอ ของเล่นสำหรับเด็ก มาให้ลูกได้เล่นสวมบทเป็นคุณหมอกับคนไข้ อาจจะเล่นกับคุณแม่ เล่นกับพี่น้อง หรือเล่นกับตุ๊กตา เพื่อให้ลูกได้คุ้นเคย และในระหว่างนี้คุณแม่อาจจะสอดแทรกทัศนคติดี ๆ เช่น คุณหมอใจดี คุณหมอตรวจไม่เจ็บ ให้ลูกได้ซึมซับไปในระหว่างเล่นไปด้วย

2.เล่านิทานเกี่ยวกับการไปหาหมอให้ลูกฟัง จะช่วยให้เด็กเข้าใจและเห็นภาพขั้นตอนเวลาที่ต้องไปหาคุณหมอมากขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อคุณหมอด้วยค่ะ นอกจากนี้อาจให้ลูกดูการ์ตูนเกี่ยวกับคุณหมอ หรือโหลดแอปพลิเคชันเกมส์สนุก ๆ เช่น เกมส์ทำฟัน มาให้ลูกเล่น จะได้รู้สึกว่าการไปหาหมอเป็นเรื่องสนุก ไม่มีออะไรที่น่ากลัว

3.ใช้ของเล่นจูงใจลูก เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปโรงพยาบาลตามที่คุณหมอนัด คุณแม่อาจจะนำของเล่นที่ลูกชอบติดตัวไปด้วยหรือจะใช้ของเล่นในห้องคุณหมอเพื่อให้ลูกเพลิดเพลินกับของเล่นที่ชอบ เมื่อลูกเพลิดเพลิน คุณหมอจะตรวจหรือจะทำอะไรเขาก็จะไม่ค่อยสนใจมากนัก หรืออาจจะมีของที่ลูกชอบไว้หลอกล่อ เช่น แปะสติ๊กเกอร์ให้เวลาที่คุณหมอฉีดยาเสร็จ หรือแอบซื้อตุ๊กตาที่ลูกชอบไว้เซอร์ไพร์ส ลูกจะได้ลืมความเจ็บจากการถูกฉีดยา

หาของเล่นมาที่เด็กชอบมาให้เล่น

pinterest.com

4.มีคุณหมอประจำ การมีคุณหมอประจำเป็นผลดีกับลูกค่ะ เพราะคุณหมอจะรู้ประวัติเด็ก จะรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ทำให้ลูกให้ความร่วมมือกับคุณหมอ และจะดีไม่น้อยถ้าได้คุณหมอที่ดูเป็นมิตร เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าเด็กมักจะหวาดกลัวคนแปลกหน้า เพราะฉะนั้นถ้าเลือกหมอประจำที่ดูเป็นมิตร ใจดี มากกว่าดูดุหรือเงียบขรึม ก็อาจจะทำให้การไปหาหมอของลูกนั้นง่ายขึ้น

5.สร้างความสบายใจด้วยการที่คุณแม่ต้องอยู่กับลูกตลอดเวลา เพราะลูกจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง อีกอย่างถ้าลูกเกิดกลัว ร้องไห้ไม่ยอมให้คุณหมอตรวจ หรือดิ้น ไม่ยอมให้จับตัวขึ้นมา การที่คุณแม่อยู่ใกล้ ๆ จะได้คอยกอด อุ้ม หรือปลอบใจ เพื่อทำให้ลูกอุ่นใจและรู้สึกว่าคุณแม่พร้อมจะปกป้องเขาตลอดเวลา

คุณแม่อยู่ใกล้ ๆ เด็กตลอดเวลา

glocalkhabar.com

นอกจากนี้แล้วหลังจากการตรวจผ่านไปแล้ว คุณแม่ต้องไม่ลืมที่จะชมเชยลูก เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย และให้ลูกจดจำความทรงจำเหล่านี้ไว้ว่าการไปหาหมอไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไปนะคะ