พฤติกรรมการแสดงออกของลูกเป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องหมั่นคอยสังเกต เพราะบางพฤติกรรมที่ลูกกำลังแสดงออกอยู่นั้นอาจจะสร้างปัญหาได้ในระยะยาว โดยเฉพาะพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ที่จะส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจของลูก หากคุณแม่ละเลยและปล่อยให้พฤติกรรมเหล่านี้ติดตัวไปจนลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จะคิดแก้ไขตอนนั้นก็คงทำได้ยาก เพราะฉะนั้นต้องเริ่มกันตั้งแต่การเลี้ยงดู Happy Mom.Life มีข้อมูลมาให้คุณแม่ได้รู้ถึงพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจสุดฮิตที่คุณแม่จะต้องเจอ และเตรียมรับมือกันนะคะ
พฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ที่ลูกแสดงออกว่าอยากให้คุณแม่โอ๋
diamondbooks.org.uk
เด็กในวัย 2-3 ขวบ จะเข้าใจว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของคุณพ่อคุณแม่ และคนในครอบครัว ที่จะต้องให้ความสนใจ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กรู้สึกว่าไม่ได้รับความสนใจก็จะมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ที่แสดงออกว่าอยากให้คุณแม่โอ๋หรือหันมาสนใจเขานั่นเอง
ร้องกรี๊ด ๆ ชักดิ้นชักงอ
คุณแม่ที่เคยเห็นพฤติกรรมการแสดงออกของเด็กในลักษณะนี้ ก็คงไม่อยากให้ลูกของตัวเองต้องแสดงพฤติกรรมเช่นนั้นเป็นแน่ เพราะถ้าเมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมร้องกรี๊ด ๆ ถึงขนาดลงไปชักดิ้นชักงอ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณแม่แล้วได้ผลบ่อยครั้ง เด็กก็มักจะใช้วิธีเดิมนี้ที่ใช้แล้วได้ผลอยู่ร่ำไป พฤติกรรมที่พบได้บ่อยครั้งก็คือการที่ลูกงอแง ร้องกรี๊ดเพื่อให้คุณแม่ซื้อของเล่นให้ โดยจะแสดงพฤติกรรมต่อหน้าคนหมู่มาก กระตุ้นความสนใจของคุณแม่ให้มากขึ้น
ทางออกของปัญหานี้คือคุณแม่ควรจะใจแข็ง อย่าพยายามแสดงความสนใจ เพื่อให้เด็กรู้ว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล ขณะเดียวกันคุณแม่ก็ควรหาอะไรอย่างอื่นมาเบี่ยงเบนความสนใจแทน และค่อย ๆ บอก ค่อย ๆ สอนว่าพฤติกรรมที่ลูกแสดงออกนั้นไม่น่ารัก และควรจะแสดงออกอย่างไรถึงจะเหมาะสม
ลูกงอแง ลงไปดื้นกับพื้นเรียกร้องความสนใจ
งอแงติดแม่
เด็กในวัย 2-3 ขวบ จะเริ่มรับรู้ เข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัวมากขึ้น และเรียนรู้เรื่องเวลากับระยะทางที่ทำให้เขารู้สึกว่าเมื่อคุณแม่ไม่อยู่ในสายตา ก็มักจะเข้าใจว่าคุณแม่อยู่ในที่ไกล แต่ไม่รู้ว่าไกลแค่ไหน และเมื่อไหร่แม่จะกลับมา ซึ่งการรับรู้แบบนี้จะทำให้ลูกรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เกิดความกังวลและความหวาดกลัว จนกลายเป็นความรู้สึกไม่มั่นคงขึ้นมา เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการลูกติดแม่นั่นเอง
อย่างวันไหนที่คุณแม่ไปทำงาน ต้องกลับบ้านค่ำ หรือไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน หรือจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่ทำให้คุณแม่ไม่อยู่บ้าน พอกลับมาบ้านเมื่อไหร่ ลูกจะติดคุณแม่เป็นปาท่องโก๋ ตามไปทุกที่แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ กลัวว่าคุณแม่จะหายตัวไปอีก
ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณแม่ต้องเริ่มบอกให้เด็กเข้าใจว่าแม่จะไปทำงาน และจะกลับมาหาลูกใหม่เช่นนี้เป็นประจำ เมื่อกลับมาแล้วก็อยู่กับลูก เล่นกับลูก เด็กจะได้คุ้นเคยและมั่นใจว่าคุณแม่ไม่ได้ทิ้งเขาไป เมื่อลูกปรับตัวได้ก็จะได้ไม่เรียกร้องความสนใจอย่างที่เคยทำ
เกาะติดแม่ไม่ยอมปล่อย
ขว้างปาข้าวของ
การคว้าจับสิ่งของและปล่อยลงพื้นหรือขว้างทิ้ง เป็นพัฒนาการของเด็ก จะเริ่มเรียนรู้ว่าเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ เริ่มรู้ตัวเองว่าสามารถหยิบของแล้วโยนออกไปได้เอง ถ้าขว้างลงพื้นแล้วของเล่นกระดอน หรือเด้งขึ้นมาจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขามาก เด็กจะรู้สึกสนุก มีความสุข หัวเราะร่าเริง และในขณะเดียวกันการขว้างปาข้าวของนี้ยังเป็นการเรียกร้องความสนใจจากคุณแม่อีกหนึ่งวิธี เพราะเมื่อลูกโยนของทิ้ง คุณแม่ก็จะต้องมาเก็บให้ พอคุณแม่เก็บของเล่นแล้วยื่นให้ก็จะรู้สึกพอใจ แล้วก็โยนให้คุณแม่เก็บอีกอยู่เรื่อย ๆ
นอกจากการเล่นสนุกแล้ว การขว้างปาข้าวของยังอาจเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจ ขว้างเพื่อแสดงอาการก้าวร้าว เพื่อปลดปล่อยความโกรธ และความไม่พอใจ เพราะลูกรู้แล้วว่าคุณแม่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไรเมื่อใช้วิธีนี้
การขว้างปาข้าวของอาจะเป็นปัญหาพฤติกรรมที่มากเกินไป ควรบอกและสอนแทนการดุด่าว่าที่กำลังทำอยู่นี้ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้คนอื่นเจ็บ ข้าวของเสียหาย และยังเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักอีกด้วย
ลูกแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต้องรีบจัดการ
trouw.nl
เอาแต่ใจ เมื่อมีน้อง
เป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องเตรียมรับมือเลย ถ้าหากคิดจะท้องมีน้องคนที่สอง และลูกคนแรกต้องเปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นพี่คนโต ซึ่งถ้าไม่เลี้ยงดูอย่างถูกวิธี คุณแม่ก็อาจจะต้องเจอกับพฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไป กลายเป็นเด็กที่ชอบเรียกร้องความสนใจ เพราะรู้สึกเหมือนว่าน้องกำลังจะมาแย่งความรักที่มีทั้งหมดไป ช่วงนี้ลูกจึงติดแม่ อ้อนแม่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันก็ดูจะเป็นเด็กเอาแต่ใจ กลัวว่าจะถูกรักน้อยลง
คุณแม่และคนในครอบครัวต้องแสดงให้เด็กรับรู้ว่าทุกคนยังรักเขาเหมือนเดิม เขายังเป็นคนสำคัญ ควบคู่ไปกับการสอนให้รักน้อง ฝึกความเป็นพี่ และได้มีส่วนร่วมในการดูแลน้องตั้งแต่ในท้องแม่
สอนพี่ให้รักน้องตั้งแต่อยู่ในท้อง
cathelijneberghouwer.com
เตรียมรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้เลย แต่คุุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะถ้าเตรียมตัวมาดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ ท่องไว้เลยว่าใจเย็น ๆ ใช้เหตุและผล แต่ถ้ายังไม่ได้ผลก็ใช้ความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว และคอยบอก คอยสอนว่าพฤติกรรมที่เป็นอยู่นี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร ก่อนจะติดเป็นนิสัยโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลยนะคะ
กรุณากรอกข้อมูลในฟอร์มด้วยข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้เราสามารถยืนยันบัญชีของคุณได้
https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/