การให้เด็กทารกว่ายน้ำ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่หลายคนกำลังให้ความสนใจกันอย่างมาก เนื่องจากมีประโยชน์ต่อเด็กๆ และยังเป็นการใช้เวลาว่างกับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ แต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อคุณแม่บางคนก็ยังอาจเป็นกังวล ไม่แน่ใจว่าลูกน้อยของเราจะปลอดภัยไหม หรือมีข้อสงสัยว่าควรเลือกสระอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ไขความข้องใจให้กระจ่าง Happy Mom.Life จึงขอชวนคุณพ่อคุณแม่ไปพูดคุยกับ คุณจ๋า ทิพย์รัตน์ สิทธิมนต์อำนวย Founder and Director ของ Aqua-Tots Swim Schools สระสอนว่ายน้ำสำหรับทารกมาตรฐานอเมริกา ซึ่งมีสาขามากเป็นอันดับหนึ่งของโลก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบแนวทางในการเตรียมตัวพาเด็กๆ ไปเรียนว่ายน้ำกันค่ะ

บรรยากาศโรงเรียนสอนว่ายน้ำสำหรับเด็กเล็ก

Aqua-Tots Swim Schools

ทารกว่ายน้ำมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

“การว่ายน้ำสำหรับเด็กเล็กมีประโยชน์หลายด้านเลยค่ะ บางคนอาจจะมองว่า เป็นเหมือนกิจกรรมยามว่าง ได้ออกกำลังกาย ได้พัฒนากล้ามเนื้อ แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ กิจกรรมนี้สามารถช่วยพัฒนาสมองในภาพรวมทั้งสมองฝั่งซ้ายและสมองฝั่งขวาได้อีกด้วยค่ะ

คือเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยที่ยังไม่โตมาก จะมีการพัฒนาเซลล์ประสาทที่เชื่อมกันในสมองจนเกิดเป็นโครงข่ายขึ้นมา การที่เด็กๆ ได้ขยับร่างกาย มี movement จากกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโยคะเด็ก หรือการว่ายน้ำ จะช่วยกระตุ้นจุดเชื่อมเซลล์สมองทำให้โครงข่ายเหล่านี้กว้างขึ้นได้ 

ซึ่งหากเด็กๆ ไม่ได้รับการกระตุ้น จุดเชื่อมเหล่านี้ก็จะหายไป และเมื่อเด็กโตถึงจุดหนึ่งที่เซลล์สมองส่วนนี้หยุดพัฒนา จุดเชื่อมนั้นก็จะหายไปตลอดชีวิตค่ะ”

เด็กๆ ว่ายน้ำได้ตามธรรมชาติหรือไม่ ทารกจะจมน้ำไหม?

“อันที่จริงแล้ว เด็กเล็กๆ ยังไม่สามารถว่ายน้ำด้วยตัวเองในครั้งแรกได้ค่ะ แต่เราก็จะมีวิธีการฝึก คือเริ่มตั้งแต่การสร้างความคุ้ยเคยกับน้ำ การฝึกกลั้นหายใจ ซึ่งการฝึกของเรามี 8 เลเวล ในเลเวล 1-2 เราต้องขอให้คุณพ่อคุณแม่ลงสระไปพร้อมลูก เพื่อช่วยประคองเด็กๆ ก่อน พอถึงเลเวล 3 คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่ต้องลงแล้ว น้องๆ สามารถลงกับโค้ชได้เลย

ทางเราจะบอกเสมอว่า การพาเด็กๆ มาว่ายน้ำไม่ใช่สิ่งแรกที่จะช่วยให้เขาไม่จมน้ำ บุคคลแรกที่จะช่วยได้คือคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นจุดประสงค์ของการเรียนอีกอย่างของเราก็คือ ต้องการให้ผู้ปกครองรู้ถึงท่าประคองและการดูแลเด็กๆ ในสระ เริ่มตั้งแต่ท่าลงสระที่ถูกวิธี การส่งต่อกันและกันภายในน้ำ หรือการจับน้องดำน้ำ ต้องมีการกระตุ้นปฏิกริยาอย่างไรให้น้องไม่สำลักน้ำ โดยผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำเป็นก็ได้ค่ะ

อันที่จริงเราก็มีคลาสไพรเวทซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่ต้องลงสระด้วยก็ได้ แต่จ๋าคิดว่าการที่คุณพ่อคุณแม่ลงว่ายน้ำกับลูกด้วย ก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ได้มีกิจกรรมสนุกสนานร่วมกัน นอกจากได้สกิลต่างๆ แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ไปทำต่อกับน้องๆ ที่บ้านได้ด้วยค่ะ

นอกจากนี้ก็จะมีกฎเพื่อรักษาความปลอดภัยให้น้องๆ เช่น ไม่ให้ปล่อยน้องๆ  อยู่ริมสระคนเดียว ไม่ปล่อยให้น้องๆ โยนของเล่นลงไปในสระ เพราะว่าเด็กมีโอกาสที่จะว่ายตามไป หรือไม่ปล่อยให้เด็กนั่งขอบสระโดยที่ไม่มีผู้ปกครองอยู่ เป็นต้นค่ะ”

มารตฐานของสระว่ายน้ำทารกมีอะไรบ้าง?

“มาตรฐานของสระว่ายน้ำทารกในเมืองไทยส่วนใหญ่จะมีลักษณะเด่นๆ คือ

1. เป็นสระน้ำเกลือ ซึ่งระคายผิวน้อยกว่าคลอลีนปกติ และช่วยในเรื่องความสะอาดของน้ำได้ แต่โดยปกติแล้ว สระน้ำเกลือก็คือการเอาเกลือไปผลิตให้กลายเป็นคลอลีน ดังนั้นสระน้ำเกลือก็ยังมีคลอลีนอยู่ และกำจัดเชื้อโรคได้ประมาณ 70 -80 เปอร์เซ็นต์ ทางเราจึงต้องมีตัวช่วยอีกระบบคือ “ระบบ UV และ Ozone” ซึ่งทางแฟรนไชส์ที่อเมริกากำหนดมาว่า เป็นการฆ่าเชื้อน้ำให้สะอาดมากขึ้น โดยน้ำจะถูกดึงผ่านเครื่องทุกๆ 3-4 ชั่วโมง เชื้อโรคที่อยู่ในน้ำจะตายทันที 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ

2. ต้องเป็นสระน้ำอุ่น ซึ่งอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมสำหรับสระว่ายน้ำทารกจะอยู่ที่ประมาณ 32 องศา เพื่อให้น้องไม่เป็นตะคริว และไม่หนาวสั่น ส่วนหภูมิบนบกก็ต้องใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้น้องป่วย เพราะเด็กที่ป่วยส่วนมาก ไม่ได้เป็นเพราะอยู่ในน้ำนาน แต่เป็นเพราะอุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างในน้ำ บนบก และตอนอาบน้ำมากกว่าค่ะ

3. สระว่ายน้ำทารกต้องอยู่ในร่ม แต่คำว่าในร่มของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน จะปิดหมด จะเปิดบ้าง ก็ต้องดูว่าสถานที่แต่ละแห่งเป็นอย่างไรด้วยค่ะ

นอกจากนี้ก็ต้องมีการดูแลเรื่องโรคภัยต่างๆ ซึ่งเรามีการวัดไข้ ตรวจมือ ตรวจปาก ก่อนลงสระ บวกกับการฆ่าเชื้อโรคระบบ UV และ Ozone ที่จะช่วยให้อุ่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้อีกขั้นหนึ่ง

สำหรับคุณครูที่สอนเด็กๆ ก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ด้วยความที่เราเป็นแฟรนไชส์ เราก็จะมีการอบรมครูตามหลักสูตรของ Aqua-Tots ทั้งบนบก และในน้ำ รวมกันเกือบ 70 กว่าชั่วโมง มีการประเมินผลตลอดเวลา และจะมีการอัพเดทหลักสูตรเรื่อยๆ เพื่อคุณภาพและความปลอดภัยของเด็กๆ ค่ะ”

การสอนทารกว่ายน้ำต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

Aqua-Tots Swim Schools

เด็กอายุเท่าไรจึงเริ่มเรียนว่ายน้ำได้ หากเด็กกลัวจะทำอย่างไร?

“ที่นี่เปิดรับเด็กลิมิตต่ำสุดคือ 4 เดือน ส่วนเรื่องว่าเด็กจะกลัวไหม ก็ต้องบอกว่า การเรียนว่ายน้ำมีอยู่ 2 ส่วนที่เราต้องให้ความสำคัญ คือเด็กกับคุณพ่อคุณแม่ ครั้งแรกๆ เด็กยังไม่คุ้นเคยกับน้ำ ยังไม่รู้ว่าการอยู่ในน้ำและให้น้ำพยุงตัวเป็นอย่างไร 

ดังนั้นการที่เด็กร้องไห้จึงเป็นเรื่องปกติ ความถี่ของการมาเรียนจะช่วยเรื่องนี้ได้ อีกส่วนคือคุณพ่อคุณแม่ เห็นลูกร้องไห้ก็เริ่มกังวลใจ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องทำความเข้าใจ และมองในมุมว่า หนึ่งคือปลอดภัย  สองคือเป็นผลดีต่อลูก พอผ่านไปถึงจุดหนึ่งก็จะหายกลัว และหลังจากนั้นก็จะสนุกแล้วค่ะ”

ต้องเตรียมตัวอย่างไรหากจะพาลูกน้อยมาว่ายน้ำ?

“1. ก่อนการลงสระ ให้งดอาหาร ในเด็กเล็กก็นม ประมาณ 30 นาที เพราะตอนอยู่ในสระจะมีแรงดันของน้ำ มีการยกขึ้นยกลง น้องอาจจะอาเจียนได้

2. ตอนอยู่ที่บ้าน อาบน้ำในอ่างอาบน้ำ อาจลองเอาฝักบัวรดผ่านหน้าน้องเบาๆ ช่วยเตรียมพร้อมให้น้องคุ้นเคยได้

3. หากน้องโตขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะต้องมีการพูดคุยกับน้อง เช่นว่า เดี๋ยวเราจะไปเรียนว่ายน้ำนะ จะเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้เด็กๆ เตรียมตัว

4. ผู้ปกครองอาจจะต้องมีเวลา มาลงน้ำด้วย เพื่อมาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูกค่ะ”

ก่อนจบสัมภาษณ์ คุณจ๋ายังฝากเชิญชวนให้คุณพ่อคุณแม่ลองพาเด็กๆ มาเรียนว่ายน้ำ เพราะเด็กเล็กๆ หากอยู่เฉยๆ ที่บ้าน อาจจะไม่ได้พัฒนาในเรื่องอารมณ์ สังคม แต่ถ้ามาว่ายน้ำกับเพื่อนๆ เด็กๆ ก็จะได้รู้จักการเข้าสังคม ได้สังเกตเพื่อนและลองทำตามเพื่อน ซึ่งช่วยให้พวกเขามีพัฒนาการที่มากขึ้น

Happy Mom.Life เห็นด้วยอย่างมากเลยค่ะ ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่มีเวลา และสนใจอยากให้ลูกน้อยได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ช่วยพัฒนาร่างกาย และจิตใจให้เด็กๆ ได้ การว่ายน้ำก็เป็นอีกกิจกรรมที่เราอยากเชียร์ให้คุณพ่อคุณแม่ลองพาลูกน้อยมาทดลองเรียนดูค่ะ