การตั้งครรภ์นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิตของลูกผู้หญิง มีคุณแม่ตั้งครรภ์จำนวนไม่น้อยเลยนะคะที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นคุณแม่โดยที่ไม่ได้คาดหมายหรือวางแผนล่วงหน้าว่าจะมีน้อง ท้องลูกคนแรกมาก่อน แต่ก็มีคุณแม่อีกจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันที่วางแผนมาเป็นอย่างดี เตรียมตัวเป็นคุณแม่ พร้อมสำหรับการมีลูกคนแรกมาเป็นโซ่ทองคล้องใจ และเติมเต็มคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

เตรียมตัวเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์

blog.mytoys.de

แต่ไม่ว่าจะเตรียมตัวเป็นคุณแม่ เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี หรือรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีน้องโดยที่ไม่ได้คาดหมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ คือการดูแลสุขภาพร่างกายของคุณแม่ ซึ่งถ้าคุณแม่มีสุขภาพร่างกายที่ดี ย่อมจะส่งผลโดยตรงต่อลูกที่กำลังเจริญเติบโตและมีพัฒนาการอยู่ในครรภ์

ดังนั้น เมื่อรู้ชัดแล้วว่ากำลังตั้งครรภ์ ควรรีบไปฝากครรภ์กับแพทย์แต่เนิ่น ๆ เพื่อรับฟังคำแนะนำในการปฏิบัติตัวของคุณแม่ตลอดระยะเวลา 9 เดือนหรือ 40 สัปดาห์ ซึ่งย่อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตและรู้ซึ้งถึงความเป็นแม่ โดยเฉพาะเรื่องของไลฟ์สไตล์ จะใช้ชีวิตในแบบเดิม ๆ ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะยังมีชีวิตเล็ก ๆ ให้คุณแม่ต้องคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลา แล้วมีพฤติกรรมใดบ้างนะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องหยุด! เสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีและไม่ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ Happy Mom.Life มีมาบอกค่ะ

1.หยุด! เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ดื่มแอลกอฮอล์ นั่นก็เหมือนกับว่าทารกในครรภ์นั้นกำลังดื่มไปกับคุณแม่ด้วย เพราะแอลกอฮอล์จะไหลผ่านไปทางเส้นเลือด ผ่านรกไปถึงตัวทารกในครรภ์ ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าขับสารพิษออกจากร่างกาย ยิ่งดื่มเยอะเท่าไรก็จะยิ่งส่งผลเสียมากเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท และจะเป็นการดีกว่า ถ้าเลิกดื่มอย่างเด็ดขาด

• ถ้าหากดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2 แก้วต่อวัน จะทำให้ทารกในครรภ์มีโอกาสเสี่ยงที่จะมีปัญหาด้านการเรียนรู้ การพูด สมาธิ และภาษา
• ถ้าหากดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 6 แก้วต่อวัน จะเพิ่มความเสี่ยงให้ทารกมีความผิดปกติแต่กำเนิด มีพัฒนาการล่าช้าทั้งทางร่างกายและสมอง มีปัญหาด้านพฤติกรรม เกิดความผิดปกติที่ใบหน้า และความบกพร่องของระบบหัวใจและอวัยวะอื่น ๆ    

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

newscientist.com

2.หยุด! ยารักษาสิว

ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวมัน อุดตันง่าย อีกทั้งความเครียด วิตกกังวลต่าง ๆ นานา ก็เป็นสาเหตุให้เกิดสิวหรือสิวเห่อได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งการรับมือและจัดการกับสิวด้วยการรับประทานยารักษาสิวตัวเดิม ๆ หรือซื้อยารักษาสิวมาทา อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะกลุ่มยาบางตัวอาจก่อให้เกิดอันตราย ทำให้ทารกในครรภ์เกิดความพิการแต่กำเนิดหรือพิการทางสมองได้

• ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่อวัยวะสำคัญต่าง ๆ ของทารกกำลังก่อร่างสร้างตัว หลีกเลี่ยงยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ หรือเรตินอยด์ ได้แก่กลุ่มยา Ratin A, Retinoic, Isotretinoin แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ยาควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

3.หยุด! ลดน้ำหนัก

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นกังวลกับเรื่องของความสวยความงาม โดยเฉพาะกับรูปร่างที่ขยายขึ้นทุกวัน ๆ อีกทั้งเป็นกังวลว่าหลังคลอดแล้วน้ำหนักจะลงยาก และเลือกทำในวิธีที่ผิด ๆ ยอมอดอาหาร รู้ไหมคะว่าไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเลย ซ้ำร้ายยังอาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เกิดภาวะขาดสารอาหารและเกิดผลเสียต่อทารกในครรภ์ตามมา เช่น การเจริญเติบโตช้า เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย และมีความเสี่ยงพิการแต่กำเนิดได้

• น้ำหนักตัวของคุณแม่ท้องตลอดการตั้งครรภ์ควรเพิ่มขึ้นประมาณ 10 -12 กิโลกรัม ระหว่างนี้ไม่ควรอดอาหาร เพราะร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ แต่สามารถควบคุมอาหารได้ โดยแบ่งการรับประทานออกเป็นมื้อย่อย ๆ ที่ใช้กรรมวิธีต้ม นึ่ง ลวก หลีกเลี่ยงน้ำตาล ลดอาหารรสหวาน เช่น ขนมหวาน และขนมจุกจิก เสริมด้วยการออกกำลังกาย เช่น เดิน โยคะ หรือว่ายน้ำควบคู่ไปด้วย 

น้ำหนักคุณแม่ตั้งครรภ์มากน้อยก็สำคัญ

yourbellybook.com

4.หยุด! เครียด

มีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าความเครียดของคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายของทารกในครรภ์ และยังส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์เมื่อทารกเติบโตขึ้นอีกด้วย และถึงแม้จะพร่ำบอกคุณแม่ตั้งครรภ์ว่าอย่าเครียด แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งส่งผลต่อภาวะทางอารมณ์ รวมถึงมีความรู้สึกกังวลต่อรูปร่าง กังวลเกี่ยวกับทารกในครรภ์ กังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับสามี เหล่านี้ก็อาจนำมาซึ่งความเครียดได้โดยไม่รู้ตัว แต่สามารถสังเกตได้จากอาการที่แสดงออก เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ซึมเศร้า เป็นต้น

• คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถหาวิธีผ่อนคลายความเครียดที่เกิดขึ้นได้ด้วยการทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ เช่น อ่านหนังสือเล่มโปรด ฟังเพลงชิล ๆ ให้รู้สีกผ่อนคลาย หรือออกกำลังกาย พูดคุยกับคนรอบข้าง แชร์ประสบการณ์กับคุณแม่ตั้งครรภ์ท่านอื่น ๆ หรือพูดคุย ระบายกับคุณสามีก็น่าจะช่วยคลายความเครียดลงได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

5.หยุด! มีเซ็กส์

เป็นคำถามยอดฮิตที่คุณแม่ตั้งครรภ์ค้างคาใจว่าตอนท้องจะมีเซ็กส์ได้หรือไม่ เพราะถ้าจะไม่มีเซ็กส์ก็กลัวคุณสามีจะแอบไปหาทางระบายออกนอกบ้าน แต่ถ้าให้มีก็กลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ ในความจริงแล้วขณะตั้งครรภ์คุณแม่สามารถมีเซ็กส์ได้ตามปกติ จะมีบางช่วงเท่านั้นที่ควรลดหรือหยุดการมีเซ็กส์ เช่น ตอนตั้งครรภ์ใหม่ ๆ เพราะคุณแม่ส่วนมากมักมีอาการแพ้ท้อง เวียนศีรษะ อ่อนเพลียง่าย และอีกช่วงก็คือ ช่วงใกล้คลอด เพราะอาจไม่สะดวกนัก เนื่องจากช่วงนี้ร่างกายของคุณแม่จะดูค่อนข้างอึดอัดอุ้ยอ้าย และยังอาจจะทำให้ถุงน้ำคร่ำที่ล้อมรอบตัวเด็กเกิดการแตกหรือรั่ว ทำให้มีน้ำคร่ำไหลออกมาก่อนเจ็บครรภ์คลอด เสี่ยงต่อการติดเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูกได้

• สำหรับคุณแม่ที่จำเป็นต้องหยุดการมีเซ็กส์ไปเกือบตลอดช่วงการตั้งครรภ์ คือ คุณแม่ที่เคยมีประวัติแท้งบุตร หรือคลอดก่อนกำหนดมาก่อน เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาซ้ำได้ นอกจากนี้คุณแม่ที่มีภาวะรกเกาะต่ำก็ควรหยุดการมีเซ็กส์โดยเด็ดขาด เพราะอาจไปกระตุ้นให้มีเลือดออกมากจนเป็นอันตรายได้

เซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์

pwsausa.org

การเตรียมตัวเป็นคุณแม่ การเตรียมความพร้อมเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของการเป็นแม่ เมื่อรู้ว่าตนเองตั้งท้องควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพร่างกายทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ที่ต้องสมบูรณ์แข็งแรง และต้องไม่ลืมที่จะดูแลสุขภาพใจให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอด้วยนะคะ