หลังจากได้รับข่าวดีเรื่องที่ว่าคุณแม่กำลังจะได้มีเจ้าตัวน้อยมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน เรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคิดทันทีก็คือ จะไปฝากครรภ์ที่ไหนกันดี เพราะโรงพยาบาลในประเทศไทยมีอยู่มากมาย แพคเกจแตกต่างกัน ราคาก็แตกต่างกันไป และเพื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ในการตัดสินใจ Happy Mom.Life รวบรวมเอาข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากแล้วค่ะ

การฝากครรภ์เป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน เพราะจะทำให้คุณแม่ได้รับการดูแลจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ และช่วยให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปได้ด้วยดี 

โดยหลังจากคุณแม่ตั้งครรภ์ทำเรื่องฝากครรภ์แล้ว คุณแม่จะได้รับการตรวจ และได้รับใบนัดให้ไปพบคุณหมอเป็นระยะๆ ทำให้คุณแม่เบาสบายใจได้ว่า ทารกในครรภ์ได้อยู่ในการดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิด 

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรไปฝากครรภ์ทันทีที่รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เรียกได้ว่า ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีค่ะ เพราะหากคุณแม่ไปฝากครรภ์ช้า และก่อนหน้านั้นเกิดความผิดปกติขึ้นกับทารกในครรภ์ อาจจะทำให้สายเกินแก้ และอันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่และทารกในครรภ์ได้

อย่างไรก็ตาม คำถามแรกๆ ที่มักผุดขึ้นมาในหัวของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายคน ทันทีที่รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ก็คือ จะไปฝากครรภ์ที่ไหนดี? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณแม่มือใหม่ที่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มากนัก วันนี้เราขอรวบรวมเอา 5 เรื่องที่เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลฝากครรภ์มาฝากค่ะ

1. โรงพยาบาลใกล้บ้าน เดินทางสะดวก

ปัจจัยแรกๆ เลยสำหรับการฝากครรภ์ก็คือ ให้คุณแม่เลือกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวกค่ะ เพราะตลอดการตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องไปพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพอยู่เป็นระยะๆ และหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด คุณแม่ตั้งครรภ์ก็ควรถูกส่งไปถึงมือคุณหมอโดยเร็วที่สุด เพราะฉะนั้น เรื่องการเดินทางเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลยค่ะ

2. ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไหว

โรงพยาบาลแต่ละแห่งมีค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ที่แตกต่างกันไป เช่น โรงพยาบาลรัฐบาล ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชน แต่มีข้อเสียคืออาจจะรอนานกว่า และคุณหมอสลับสับเปลี่ยนกันไป หากคุณแม่ตั้งครรภ์อยากได้ความสะดวกสบาย อาจเลือกฝากครรภ์ที่โรวพยาบาลเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่หากอยากประหยัดค่าใช้จ่าย จะเลือกโรงพยาบาลรัฐบาลก็มีคุณภาพไม่แพ้กันค่ะ

3. เช็คประวัติคุณหมอ

คุณแม่ตั้งครรภ์อาจลองปรึกษาญาติพี่น้อง หรือหาจ้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพื่อเลือกคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ และเชื่อถือได้ ซึ่งจะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายใจในการไปพบคุณหมอในแต่ละครั้ง โดยอาจเช็คประวัติการทำงาน และประสบการณ์ของคุณหมอควบคู่กันไปด้วยก็ได้ค่ะ

4. เลือกโรคพยาบาลที่มีประวัติของคุณแม่

สำหรับคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องรักษาต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ การเลือกโรงพยาบาลที่คุณแม่รักษามาตลอดเป็นโรงพยาบาลฝากครรภ์ก็จะเป็นผลดีในการตรวจรักษาหากมีเหตุจำเป็นค่ะ แต่หากว่าโรงพยาบาลที่คุณแม่ตรวจรักษาตลอดมานั้นอยู่ไกล อาจต้องขอประวัติจากโรงพยาบาลนั้น และเลือกฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่เดินทางไปสะดวกจะดีกว่านะคะ

5. แพคเกจคลอดที่ต้องการ

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการคลอดในแบบพิเศษ เช่น คลอดในน้ำ คุณแม่ควรเลือกฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่ให้บริการคลอดในรูปแบบที่คุณแม่ต้องการ จะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดค่ะ

การฝากครรภ์เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด อย่าลืมรีบคิด รีบตัดสินใจ และพาลูกน้อยไปให้คุณหมอดูแลโดยเร็ว เพื่อการตั้งครรภ์ที่ราบรื่นและปลอดภัยนะคะ