หนึ่งในความกังวลใจของคุณแม่มือใหม่หรือแม้แต่คุณแม่ที่เคยผ่านการมีลูกมาแล้ว ก็คือ “กลัวแท้ง” เป็นสิ่งที่ไม่มีคุณแม่ท่านไหนอยากให้เกิด ซึ่งนอกจากการพบคุณหมอเพื่อตรวจครรภ์ การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว “ยากันแท้ง” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยคุณแม่ได้เช่นกัน Happy Mom.Life จะพาคุณแม่ไปทำความรู้จักกับยากันแท้งที่ว่านี้กันค่ะ
คุณแม่ตั้งครรภ์กลัวแท้ง ต้องดูแลครรภ์เป็นอย่างดี
self.com
ยากันแท้งคืออะไร
ยากันแท้ง คือ ยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ หรือยาอื่นในกลุ่มเดียวกัน มีทั้งชนิดฉีด ชนิดเป็นเม็ดสำหรับรับประทาน และชนิดสอดเข้าช่องคลอด ซึ่งยานี้จะมีประโยชน์เฉพาะผู้ที่ขาดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเท่านั้น โดยจะช่วยให้ผนังมดลูกของคุณแม่หนาขึ้น ไม่ให้ผนังมดลูกหลุดง่ายเกินไป
ยากันแท้งเหมาะกับใคร
- คุณแม่ที่เคยมีประวัติแท้งมาก่อน แม้จะไม่มีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ แต่แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยากันแท้งได้
- คุณแม่ที่มีภาวะแท้งคุกคาม แต่ช่วยป้องกันการแท้งไม่ได้ 100%
แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยากันแท้งในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยง
videoblocks.com
สาเหตุ ประเภท และอาการของการแท้งบุตร
คุณแม่วัยเจริญพันธุ์มีโอกาสแท้งบุตรโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10-25% เมื่อมีอายุมากขึ้นความเสี่ยงต่อการแท้งก็มีมากขึ้นตามไปด้วย พบได้บ่อยในช่วงการตั้งครรภ์ 4-20 สัปดาห์ โดยคุณแม่แท้งบุตรประมาณ 95% จะมีเลือดออกทางช่องคลอด และมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย หรืออาจมีส่วนของชิ้นเนื้อคล้ายพุงปลาหลุดปนออกมาจากช่องคลอด
โดยสาเหตุของการแท้งส่วนใหญ่มาจากหลายปัจจัย
- คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมาก มีความเสี่ยงที่จะแท้งบุตรมากกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุน้อย
- การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือเสพยาเสพติดขณะตั้งครรภ์
- คุณแม่ตั้งครรภ์เคยมีประวัติการแท้งมาก่อน
- การติดเชื้อในร่างกาย หรืออุ้งเชิงกราน
- มดลูกมีรูปร่างผิดปกติ
- การขาดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
- เกิดอุบัติเหตุที่มีการกระทบกระแทกมดลูก
- ทารกในครรภ์มีความผิดปกติ เช่น ความผิดปกติของโครโมโซม ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ในการแท้งในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
- หาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด
ดูแลครรภ์ให้ปลอดภัย ห่างไกลความเสี่ยง
gigglemagazine.com
ประเภทของการแท้ง แบ่งออกได้เป็น
- แท้งคุกคาม (Threatened abortion) เป็นภาวะใกล้แท้ง พบได้ประมาณ 10% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด โดยคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอาการปวดท้องน้อย มีเลือดออกทางช่องคลอดกระปริดกระปรอย เลือดออกไม่มากนัก ซึ่งการแท้งชนิดนี้ มีโอกาสแท้งประมาณ 50%
- แท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (Inevitable abortion) คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีเลือดออกทางช่องคลอด และจะมีอาการปวดท้องน้อยมากขึ้น บางครั้งมีการแตกของถุงน้ำคร่ำร่วมด้วย ปากมดลูกเปิดแล้ว ไม่สามารถตั้งครรภ์ต่อไปได้ แพทย์ต้องนำทารกออกเพื่อให้เป็นการแท้งโดยสมบูรณ์
- แท้งไม่สมบูรณ์ (Incomplete abortion) เป็นการแท้งเพียงบางส่วนของทารกหรือของรก และยังมีส่วนที่ยังเหลือค้างในโพรงมดลูก ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดท้องน้อยมากและมีเลือดออกทางช่องคลอดมาก จนอาจทำให้หมดสติได้ ต้องพบแพทย์เพื่อให้น้ำเกลือหรือเลือดทดแทน และนำส่วนที่เหลือออกมาให้หมด
objetivobienestar.com
- แท้งสมบูรณ์ (Complete abortion) เป็นการแท้งทารกและรกออกมาทั้งหมดโดยสมบูรณ์ ซึ่งเมื่อชิ้นเนื้อหลุดออกมาหมดแล้ว เลือดและอาการปวดท้องจะหายไปเอง
- แท้งค้าง (Missed abortion) เป็นการแท้งที่ทารกในครรภ์เสียชีวิตมานานกว่า 8 สัปดาห์ในครรภ์ โดยที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ทราบเนื่องจากตัวอ่อนยังไม่ถูกขับออกมา โดยอาการที่พบได้ก่อนแท้งคืออาการคลื่นไส้อาเจียนหายไป และมดลูกที่เคยมีขนาดโตขึ้นกลับมีขนาดเล็กลง
- แท้งเป็นอาจิณ (Habitual abortion) การแท้งติดต่อกันตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ในช่วงอายุครรภ์ใกล้เคียงกัน เกิดจากปากมดลูกปิดไม่สนิท (Cervical incompetence) การขาดฮอร์โมนเพศ หรือความผิดปกติของโครโมโซม
- แท้งติดเชื้อ (Septic abortion) เป็นการแท้งร่วมกับมีการอักเสบติดเชื้อ ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีไข้ ปวดท้อง เลือดออกทางช่องคลอด
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรซื้อยากันแท้งมาใช้เองเด็ดขาด ควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากแพทย์เท่านั้น หากไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องใช้ก็อย่ากังวลจนเกินไป เพียงนอนพักผ่อนให้มาก ๆ หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบทั้ง 5 หมู่ รับประทานวิตามินธาตุเหล็ก ไอโอดีน และโฟลิก หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ชา กาแฟ น้ำอัดลม งดมีเพศสัมพันธ์ในช่วงครรภ์อ่อน ๆ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ และหากมีความผิดปกติต่างๆ เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ก็ให้รีบไปพบแพทย์ เท่านี้ก็หายห่วงเรื่องแท้งแล้วค่ะ
https://yosana.co/blogs/yoga-blog/yoga-for-moms-to-be/