นอกจากการดูแลในเรื่องของโภชนาการ และการดูแลสุขภาพของคุณแม่แล้ว พัฒนาการทารกก็เป็นเรื่องสำคัญและเริ่มสร้างได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ด้วยวิธีง่าย ๆ นั่นก็คือการคุยกับลูกในท้องนะคะ โดยทารกในครรภ์จะเริ่มมีพัฒนาการการได้ยิน ตั้งแต่คุณแม่มีอายุครรภ์ได้ประมาณ 4 เดือนขึ้นไป นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะเริ่มต้นพูดคุยกับลูกในท้องได้ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนกระทั่งคลอด Happy Mom.Life มีวิธีมาบอกค่ะว่าคุณแม่จะสามารถจะคุยกับลูกในท้องแบบไหนได้บ้าง     

คุยกับลูกในท้อง เสริมพัฒนาการให้เบบี๋สมองดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์

4moms.gr

1.คุยเรื่องทั่ว ๆ ไป แต่ต้องไม่ใช่เรื่องเครียด  

เรื่องที่คุณแม่เลือกมาคุยกับลูก ควรเป็นเรื่องที่พูดแล้วรู้สึกสบายใจ เป็นเรื่องสวย ๆ งาม ๆ เรื่องดี ๆ หรือจะเลือกเล่านิทาน อ่านหนังสือ ร้องเพลงให้ลูกในท้องฟังก็ได้นะคะ เพราะจะช่วยให้ทั้งตัวคุณแม่และทารกในครรภ์รู้สึกผ่อนคลาย แต่ขอย้ำนะคะว่าไม่ควรคุยกับลูกในท้องด้วยเรื่องเครียด ๆ เด็ดขาด เช่น กำลังรู้สึกน้อยใจสามี (คุณพ่อ) เงินไม่พอใช้ เป็นหนี้ก้อนโต แบบนี้ห้ามเด็ดขาด เพราะถ้าเราเครียด จะส่งผลกระทบให้ลูกในท้องเครียดตามไปด้วยนะคะ 

คุณแม่อ่านหนังสือให้ทารกในครรภ์ฟัง

babble.com

2.พูดซ้ำ ๆ ย้ำชื่อลูกบ่อย ๆ  

คิดชื่อเบบี๋ในท้องเอาไว้หรือยังเอ่ย ถ้าคุณแม่แอบตั้งชื่อลูกเอาไว้แล้ว เวลาคุยกับลูกสามารถเรียกชื่อไปด้วยได้เลย แต่ถ้ายังไม่ได้ตั้งชื่อ อาจจะเรียกชื่อกลาง ๆ ไปก่อน เช่น ลูก หนู คนดี เบบี๋ หรือน้อง พยายามพูดชื่อลูกซ้ำ ๆ ย้ำบ่อย ๆ เพื่อที่ลูกจะได้จดจำชื่อของตัวเองได้ เช่น ลูกจ๋า...ทำอะไรอยู่เอ่ย  หรือ วันนี้แม่จะพาหนูออกไปเที่ยวข้างนอกนะ  และหมั่นคอยสังเกตปฏิกิริยาสนองของเบบี๋เวลาที่คุณแม่เรียกชื่อนะคะ 

3.ชวนสามีมาคุยกับลูกในท้อง

ชวนคุณสามีมาคุยกับลูกในท้องด้วยกันดีกว่า ไม่จำกัดว่าจะต้องคุยเรื่องอะไรเป็นพิเศษนะคะ อาจคุยว่าวันนี้คุณพ่อไปทำงานมาเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยหรือเปล่า การได้พูดคุยกับลูกตั้งแต่ในท้องจะช่วยให้ลูกจดจำเสียงของคุณพ่อได้ เมื่อลูกคลอดออกมาแล้วจะได้หมดปัญหาลูกไม่ค่อยสนิทกับคุณพ่อ หรือลูกติดแม่มากกว่า 

ชวนคุณพ่อมาคุยกับลูกในท้อง

natural-fertility-info.com

4.บอกให้รู้ว่าแม่รัก

ไม่ว่าจะคุยกับลูกเรื่องอะไร ก็ต้องให้ดูนุ่มนวลและอ่อนโยนเข้าไว้นะคะ เพราะถึงลูกจะอยู่ในท้อง แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่นจากคุณแม่ เพราะฉะนั้นแล้วนอกจากเรื่องที่ดีต่อใจทั่ว ๆ ไปที่คุณแม่เลือกมาพูดคุยกับลูกแล้ว ต้องไม่ลืมบอกรักซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เป็นประจำว่าแม่รักหนูด้วยนะคะ

5.คุยในช่วงเวลาที่เหมาะสม

การคุยกับลูกในท้อง จริง ๆ แล้วคุณแม่สามารถพูดคุยได้ทุกวัน ทุกช่วงเวลานะคะ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุดก็คือหลังมื้ออาหาร เพราะลูกในท้องจะตื่นตัวมากที่สุด หรือจะเป็นช่วงก่อนนอนก็ได้ ถ้าจะให้ดีชวนคุณพ่อมาพูดคุยด้วย จะได้ส่งผ่านความรู้สึกและช่วงเวลาดี ๆ นี้ไปสู่ลูกในท้อง

6.คุยไปด้วย ลูบท้องไปด้วย  

ตอนที่คุยกับลูกในท้องอยู่นั้น คุณแม่ลองลูบท้องไปด้วย เพื่อเป็นการส่งความรักผ่านการสัมผัสไปถึงลูกในท้อง ไม่เพียงเท่านั้นการลูบหน้าท้องยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของทารกให้มีพัฒนาการดีขึ้น โดยควรลูบท้องเป็นวงกลม จากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบนค่ะ   

สัมผัสรักจากแม่ถึงลูก

videoblocks.com

7.คุยให้ถูกตำแหน่ง

เพื่อให้ลูกในท้องได้ยินเสียงพ่อแม่ได้ชัดขึ้น ให้ลองม้วนกระดาษเป็นทรงกรวย แล้วใช้ปลายกรวยครอบลงไปที่ท้องในตำแหน่งที่ศีรษะลูกอยู่ แล้วคุยกับลูกในท้องจะช่วยให้ลูกได้ยินเสียงพ่อแม่ชัดขึ้นค่ะ 

8.กินไปคุยไป

ระหว่างที่คุณแม่กินอาหารก็สามารถชวนลูกคุยไปด้วยได้ว่าวันนี้แม่ทำอะไรให้ลูกกิน มีส่วนผสมอะไรบ้าง มีประโยชน์หรือช่วยบำรุงเสริมสร้างร่างกายลูกอย่างไร และในระหว่างการกิน อย่าลืมสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองจากลูกด้วยนะคะ เพราะเวลาดื่มน้ำเย็น หรือกินอาหารรสจัด ลูกก็อาจจะดิ้น หรือถีบท้องเป็นการโต้ตอบกับคุณแม่อยู่นั่นเอง  

9.พูดอัดคลิปไว้ดูหลังคลอด 

คุณแม่ที่ติดโซเชียล ลองถ่ายรูปหรืออัดคลิปวิดีโอตอนคุยกับลูกในท้อง เหมือนเป็นการเขียนไดอารี่ประจำวัน นอกจากจะได้พูดคุยกับลูกแล้ว คลิปวิดีโอพัฒนาการช่วงตั้งครรภ์ที่ถ่ายไว้ ยังเอาไว้เปิดให้ลูกดูได้หลังคลอด จะได้รู้ว่าคุณแม่รักหนูขนาดไหน  

ฮัลโหลโซเชียล นี่แม่เองจะใครล่ะ 

videohive.net

การที่คุณแม่คุยกับลูกในท้องเป็นประจำ จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดี และเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด เมื่อทารกในครรภ์คลอดออกมาจะจดจำและคุ้นเคยกับเสียงของคุณแม่และคุณพ่อนะคะ